21 พฤศจิกายน 2562

ข่าวสมเด็จพระสังฆราชเจ้าของไทย 21/11/2019

 #สมเด็จพระสังฆราชเจ้าของไทย

#ทรงดำรัสรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

#นิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน

 

ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย

อย่างเป็นทางการ

เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

 

เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก

เสด็จลงพระอุโบสถ

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

ประมุขแห่งคริสต์ศาสนา

นิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน

ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย

อย่างเป็นทางการ

 

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช

มีพระดำรัสรับเสด็จ ความว่า

 

ขอถวายพระพร

มหาบพิตรสมเด็จพระสันตะปาปา

ผู้ทรงสมณคุณอันประเสริฐ

 

อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ไทย

ขอถวายอนุโมทนาสาธุการ

ในโอกาสที่มหาบพิตร

เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย

และเสด็จมาทรงเยี่ยมอาตมภาพในวาระนี้

 

นับเป็นเหตุการณ์สำคัญ

ทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งพึงจดจารึกไว้เป็นศุภนิมิตแห่งน้ำใจไมตรี

ที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย

มีสืบเนื่องกันมาอย่างแน่นแฟ้น

ราบรื่น และงดงาม เป็นเวลาเนิ่นนาน

นับแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

 

เมื่อ ๓๕ ปีล่วงมาแล้ว

ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

เฉพาะพระพักตร์พระพุทธอังคีรส

ประธานพระอุโบสถแห่งนี้

 

สมเด็จพระอุปัชฌายะของอาตมภาพ

คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า

กรมหลวงชินวราลงกรณได้เสด็จลง

ทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก

ที่ประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก

เสด็จมาทรงเยี่ยมประมุขแห่งพุทธจักรไทย

ณ ราชอาณาจักรไทย

 

ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น

ยังคงประทับอยู่

ในความทรงจำของอาตมภาพ

ผู้มีโอกาสได้เฝ้าอยู่ในการดังกล่าวด้วย

ทั้งสองพระองค์ทรงปราศรัยกัน

ทรงแสดงพระอัธยาศัยอันงามต่อกัน

บนพื้นฐานแห่งพระเมตตาจิตอย่างแท้จริง

ในฐานะนักบุญผู้ประเสริฐแห่งสองศาสนา

ซึ่งมุ่งหมายจะแผ่ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ

ไปสู่ทุกชีวิตอย่างไม่มีประมาณ

เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน

 

ขอถวายพระพรให้ทรงทราบว่า

ใต้ฐานพระพุทธอังคีรส

ยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้า

สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอที่ ๑๓

เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๐,

 

เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

และพระราชสรีรางคาร

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี

ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนิน

ไปเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอที่ ๑๑

เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๗

 

อีกทั้งเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร

มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้า

สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ ๒๓

เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๓

และทรงเคยรับเสด็จ

สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒

ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย

เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๗

 

ณ สถานที่แห่งนี้

จึงเป็นมงคลสถาน

สำหรับการพบกันของเราทั้งสอง

ด้วยส่วนแห่งพระวรกายของทุกๆพระองค์

ยังคงประดิษฐานเป็นสักขีพยานแห่งมิตรภาพ

ซึ่งได้ทรงสร้างสรรค์ไว้นับแต่อดีตสมัย

 

หากแต่ละพระองค์

มีพระญาณวิถีใดที่จะทรงหยั่งทราบ

คงจะทรงโสมนัสพระราชหฤทัยไม่น้อย

ที่ได้ทอดพระเนตรเห็นความเจริญงอกงาม

แห่งทางพระราชไมตรี

เป็นภาพอันน่าประทับใจอีกครั้งในวันนี้

 

การเสด็จมาครั้งนี้ของมหาบพิตร

จึงไม่ใช่การมาของมิตรใหม่

หากแต่เป็นการมาเยือนของมิตรแท้

อันเก่าแก่ของคนไทย

 

ระยะทางที่ห่างไกลกัน

หาใช่อุปสรรคของ

ความสนิทสนมกลมเกลียวกัน

 

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทรงสั่งสอนไว้ว่า

 

ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร

ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง.’

 

ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร

ย่อมผ่านพ้นศัตรูทั้งปวง.’

 

บัดนี้ มหาบพิตร

ทรงพระอุตสาหะตรากตรำพระวรกาย

บนหนทางแสนไกล

เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย

และมาทรงเยี่ยมอาตมภาพ

ด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพถึงที่นี้

อาตมภาพขอสนองน้ำพระทัย

อันเปี่ยมด้วยมิตรภาพนั้นๆตอบถวาย

เป็นหลายเท่าทวีคูณ

 

ด้วยอานุภาพแห่งพระเมตตาธรรม

ซึ่งมหาบพิตรทรงเจริญมั่นอยู่ในพระหฤทัย

และด้วยศุภผลแห่งกุศลเหตุ

คือความไม่ประทุษร้ายมิตร

 

ขอมหาบพิตร ทรงสถิตสถาพร

เป็นปูชนียฐานอันประเสริฐของศาสนิกบริษัท

และทรงพระเจริญในสมณคุณ

ค้ำจุนให้ทรงผ่องแผ้วผ่านพ้นภัยพิบัติทั้งปวง

สมตามพระพุทธานุศาสนี

ดังอาตมภาพอัญเชิญมาอ้าง

เป็นสัจจวาจาข้างต้นนี้ทุกประการ.

 

ขอถวายพระพร

 

ขอบพระคุณ: ภาพและข่าวจาก

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

21-11-2019