12 เมษายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 12/04/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

12/04/2021



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564
ในการสื่อถ่ายทอดสดพระโอวาทจากพระบิดา
ผ่านรายการ "จิตจักรวาลอ่านโลก"
ระหว่างเวลา 3 ทุ่มครึ่งจนถึง 2 นาฬิกา 15 นาที
ทางยูทู้ป เฟสบุ้ก และเว็บไซท์จิตจักรวาลนั้น

พระบิดาทรงโปรดเมตตาท่านทั้งหลาย
ให้เรา "หงายกะลา" ที่คว่ำครอบพวกท่านมานาน
เพื่อกล่าวความจริงนอกกะลาที่เป็นอนุตรธรรม
ซึ่งไม่มีมนุษย์โลกคนใดล่วงรู้เองได้
นอกจากพระบิดาจะทรงเป็นผู้กล่าวให้ท่านรู้

ดังนั้น
เรามั่นใจว่าท่านทั้งหลาย
เมื่อได้รู้ความจริงของจิตวิญญาณของท่านแล้ว
ก็จะสามารถปฏิบัติตนบนมรรควิถีจิตจักรวาลได้
อย่างถูกต้องตรงทางโดยไม่หลงทางต่อไปอีก

เพราะในอดีตกาลผ่านมา
พวกท่านไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของท่าน
เป็นใคร มาจากไหน
ใครให้มาเกิดเป็นมนุษย์
มาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม
มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อทำหน้าที่อะไรบ้าง
จะทำหน้าที่แต่ละสิ่งอย่างให้สำเร็จได้อย่างไร

ที่พวกท่านไม่รู้ก็เพราะไม่มีใครบอก
ที่ไม่มีใครบอกก็เพราะไม่มีผู้ใดรู้
แม้แต่องค์สัพพัญญูก็บอกท่านไม่ได้
นอกจากพระบิดาหรือพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น
ที่จะกล่าวความจริงเหล่านี้ให้บุตรทั้งหลายได้รู้

ด้วยเหตุดังนี้เอง
ท่านทั้งหลายจึงต้องรับฟังพระโอวาท
ผ่านทางพระศาสดาที่มาจากพระองค์
หรือรับฟังผ่านพระบุตรเอกด้วย
จะยึดติดพระศาสดา
ที่มาจากโลกเพียงพระองค์เดียวไม่ได้
เพราะการมีผู้รู้หลายคนเป็นครูนั้น
ย่อมประเสริฐกว่าการมีครูคนเดียวแน่นอน

เมื่อได้รู้ความจริงชัดเจนแล้ว
ตัวชี้วัดความเข้าใจกับความก้าวหน้า
ของพวกท่านทั้งหลายก็คือ

1.ท่านต้องเข้าใจกันได้แล้วว่า
เรื่องนิพพานกับการหลุดพ้นไม่เหมือนกัน
และรู้ว่ามันต่างกันอย่างไร

2.การเพียรดับทุกข์ด้วยการกระทำที่จิต
ด้วยวิธี เจโตวิมุติ โดยปฏิบัติจิตอยู่คนเดียว
จากการปลีกวิเวกเพื่อหมายจะไปสวรรค์คนเดียว
แทนการปฏิบัติตนร่วมกันกับคนรอบข้าง
ในบทบาทของ "สัตว์สังคม" ตามที่ขันอาสามานั้น
มันไม่สามารถชำระจิตให้ว่างไปจากทุกข์
อันหมายถึงกิเลสตัณหาราคะได้อย่างสิ้นเชิง

ที่รู้สึกได้ว่าว่างนั้นมันเป็นแค่ว่างชั่วคราว
แต่เมื่อกลับคืนสู่ครอบครัวกลับมามีสังคมปกติ
ท่านจะพบเจอเงื่อนไขบททดสอบหลากหลาย
ที่ยั่วยุเย้ายวนหนักเบาดีร้ายจากคนรอบข้าง
ผ่านอายตนะภายนอกเข้ามากระทบจิตใจท่าน
โดยที่ท่านจะมิอาจควบคุมเงื่อนไขภายนอกนั้นๆได้
เหมือนตอนที่ปลีกวิเวกนั่ง "กำหนดจิต" อยู่คนเดียว
แล้วท่านจะรู้ได้ว่าที่คิดว่าตนเองนั้นดับทุกข์ได้แล้ว
มันเป็นแค่เพียงตัวทุกข์ถูกท่านกดมันเอาไว้เท่านั้น

เพราะเมื่อถูกยั่วยุเย้ายวนจากคนรอบข้าง
ขณะที่อายตนะภายนอกทั้งห้าเปิดหมดทุกช่องทาง
ท่านจะทนต่อการกระตุ้นปลุกเร้าไม่ไหวแน่นอน
เนื่องจากจิตท่านมันไม่ชำนาญการแต่อย่างใด
เพราะไม่ได้ฝึกจิตในชีวิตจริงจากการเป็นสัตว์สังคม
ท่านสำนึกในความจริงนี้ได้ตามที่เรากล่าวไหมล่ะ

3.ถ้าท่านเห็นแจ้งในอนุตรธรรม
จากพระโอวาทพระบิดาในค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ท่านทั้งหลายก็จะเข้าใจกันได้แล้วว่า

มนุษย์อย่างท่านทั้งหลายนั้น
พระบิดาให้มาเกิดเป็นคนสองมิติ
คือมิติของจิตหยาบกับกายหยาบ
กับมิติของจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้
ผู้ขันอาสาพระบิดามาเกิดเป็นมนุษย์

โดยจิตวิญญาณคือตัวตนที่แท้จริงของท่าน
ส่วนจิตหยาบนั้นเป็น "ตัวแทน" ของจิตวิญญาณ
ที่ถ่ายโอนคุณสมบัติและพลังอำนาจทุกสิ่งมาไว้ที่ตน
ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากจิตวิญญาณ
ให้ทำหน้าที่เป็น "คนสองมิติ" แทนนั่นเอง

ดังนั้น
ท่านจึงต้องรู้แล้วว่า
การพยายามจะดับทุกข์ในชีวิตของท่าน
มันคือการชำระจิตหยาบของท่าน
ให้มันสะอาดบริสุทธิ์ไปจากกิเลสตัณหาราคะ
ให้หมดจดหมดสิ้นเท่านั้น

การที่ท่านพยายามจะชำระจิตให้ว่างไปจากขยะ
จนมันสะอาดบริสุทธิ์ได้จริงแท้แน่แล้ว
นั่นแหละจิตหยาบของท่านจึงจะว่างไปจากทุกข์
ส่วนจิตวิญญาณของท่านยังมิได้อะไรๆด้วยเลย

ด้วยเหตุนี้เอง
ถ้าจิตหยาบนิพพานกิเลสตัณหา
อันเป็นที่มาแห่งทุกข์ทั้งปวงได้จริง
แปลว่าจิตหยาบของท่านใสพิสุทธิ์แล้ว
มันมิได้หมายความว่า "จิตวิญญาณ" หรือจิตหยาบ
สลายอัตตาตัวตนจนสูญหายไปในอนันตจักรวาล
ดั่งที่เชื่อกันมานานนับหมื่นๆปีแต่อย่างใด

แท้แล้วเมื่อจิตหยาบว่างไปจากเหตุแห่งทุกข์ได้
จิตหยาบเพียงแค่พร้อมจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับจิตวิญญาณคือแก่นแท้ของท่านเองต่างหาก
ทั้งจิตหยาบกับจิตวิญญาณล้วนยังอยู่มิได้ล่องหน
ยังมีตัวตนของกันและกันอยู่อย่างเดิม

จิตหยาบว่างจากกิเลสตัณหาได้แล้ว
ก็จะสามารถสั่นสะเทือนให้เกิดคลื่นความถี่ด้านบวก
จนเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณของท่านได้
เพราะไม่มีคลื่นความถี่ต่ำของกิเลสตัณหาเป็นอุปสรรค
ภารกิจของจิตวิญญาณคือมอบรักให้โลก
จึงจะประสบความสำเร็จได้

ความจริงเหล่านี้
คงพอจะช่วยท่านให้เกิดสติว่า
คนนำทางตาบอดสอนท่านให้เชื่อผิดๆมาตลอด
การนิพพานเป็นแค่ช่วยให้จิตหยาบบริสุทธิ์
ส่วนการหลุดพ้นเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ
ที่พวกท่านทั้งหลายต้องมาเรียนรู้กับพระบิดา
เพราะเป็นอนุตรธรรมเพื่อให้รู้ว่า
การหลุดพ้นคืออย่างไร....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
12/04/2021