03 เมษายน 2564

สนนาประสาจิตจักรวาล 03/04/2021

สนนาประสาจิตจักรวาล

03/04/2021



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

การที่พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้เรากลับมา
เพื่อ รักษาคนเจ็บป่วยให้หาย นั้นเราหมายถึง

ภารกิจแห่ง "บุตรเอก" อันหนักเหนื่อย
ที่เราจักต้องกระทำให้สำเร็จก่อนโลกเปลี่ยนยุค
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาลพระผู้เป็นเจ้า
เหนือสิ่งทั้งปวงที่ทรงสร้างก็คือ

การช่วยเหลือจิตวิญญาณของพวกท่าน
ในทุกศาสนาทุกชาติพันธุ์และทุกภาษา
ที่ #จิตหยาบ หรือจิตมนุษย์ยังเหลวไหลไม่เอาไหน
จนทำให้จิตวิญญาณของตนต้องเจ็บป่วย
ด้วยอาการ หลงมิติ ในทุกภพชาติแห่งการเกิด
จนจิตวิญญาณของพวกท่านต้องถูกส่งไปลงนรก
ลงไปชำระบาปที่จิตหยาบเป็นผู้ก่อให้อยู่ซ้ำซาก

เรามาช่วยจิตวิญญาณพวกท่านให้หายป่วย
ด้วยการกล่าว อนุตรธรรม ในพระนามแห่งพระเจ้า
ให้ท่านทั้งหลายได้รู้ความจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือองค์จิตจักรวาล
พระผู้เป็นเจ้าหรือพระเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงนั้น
ได้ทรงออกแบบเอาไว้ว่า

1.ในการเป็นมนุษย์ของพวกท่านนั้น
จิตวิญญาณแก่นแท้เป็นผู้ขันอาสามาเกิด
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะแบ่งภาคตนเองออกมา
เพื่อทำหน้าที่เป็น จิตหยาบ หรือจิตมนุษย์
ในการทำหน้าที่ทุกอย่างแทนจิตวิญญาณ

โดยจิตวิญญาณของพวกท่านจะเร้นลึกอยู่ข้างใน
แม้ว่าจะมิได้ก่อกรรมกระทำอะไรด้วยตนเอง
แต่ก็ต้องรับกรรมทั้งดีและชั่วที่จิตหยาบก่อขึ้น

ดังนั้น
จิตหยาบคือ "เงา" ของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้
แต่ได้รับการถ่ายพลังอำนาจและการสำนึกรู้ทุกสิ่ง
จากรูปธรรมจิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวจริงของท่านไว้
เหมือนดั่งตนเองออกมาทำหน้าที่ด้วยตนเอง
ซึ่งเป็นวิธีการถ่ายโอนอำนาจให้กันอย่างแยบยล
จนพวกท่านไม่เคยล่วงรู้ความจริงนี้มานับหมื่นๆปี
จึงเข้าใจผิดคิดว่าจิตวิญญาณของท่านแสดงเอง
ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์ด้วยตนเอง

พวกท่านทั้งหลายจึงไม่เคยรู้ว่า
ตนเองนั้นยังมีจิตวิญญาณซึ่งเป็น "ตัวจริง" ของตน
ที่เร้นตนเองอยู่ข้างในโดยจะคอยลุ้นด้วยใจระทึก
ในทุกๆมโนกรรม วจีกรรมและกายกรรม
ที่จิตหยาบของตนเป็นผู้กระทำหรือก่อขึ้น
ตามกระบวนการของขันธ์ 5 ที่ออกแบบไว้ให้แก้ไข
เพราะจิตวิญญาณต้องตกนรกสถานเดียวเท่านั้น
ซึ่งเราจะหงายกะลาให้เห็นความจริงนี้ในข้อ 2.

2.นอกจากนั้น
เรายังกลับมาเปิดกะลาที่คว่ำครอบพวกท่านไว้
แล้วหงายขึ้นเพื่อบอกความจริงให้รู้กันทั่วโลกว่า
พระบิดาผู้ทรงอนุญาตให้พวกท่านมาเกิด
ได้ทรงออกแบบกระบวนการของจิตหยาบ
ซึ่งเป็นตัวแทนจิตวิญญาณในบทบาทของมนุษย์
ที่พวกท่านเรียกว่า ขันธ์ห้า เอาไว้แบบไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้เพื่อให้จิตหยาบในแต่ละภพชาติ
เมื่อได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์
จักต้องค้นพบความจริงของตนเองให้ได้ว่า
มันคือแผนการของพระบิดาที่ทรงประสงค์ดี
เพื่อที่จะให้บุตรมนุษย์เกิดดวงตาเห็นธรรม
ด้วยวิธีการเรียนรู้ที่จะทำให้มันถูกต้อง
โดยให้ลองทำผิดหรือทำไม่ถูกต้องเสียก่อน

เมื่อสำนึกได้แล้วว่าไม่ถูกต้องก็ให้รีบแก้ไข
เพื่อทำให้มันถูกต้องแทนให้ได้ในบั้นปลาย

สิ่งที่ "ขันธ์ 5" ถูกออกแบบไว้ไม่ให้ถูกต้องนี้
ถ้าพวกท่านตั้งแต่อายุครบ 3 ขวบปีบริบูรณ์
ไม่ทำอะไรเลยกับกระบวนการของขันธ์ 5 นี้
โดยปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกอัตโนมัติ
กระบวนการสัมผัสรู้ดูเห็นของจิตกับอายตนะ
ก็จะเป็นไปตามขันธ์ทั้งห้าที่ทรงออกแบบไว้นี้
ผลลัพธ์ก็คือมันจะก่อให้เกิด กรรมจักร ขึ้น

เมื่อเกิด "กรรมจักร" ตามกระบวนการขันธ์ 5
กฎแห่งกรรม สำหรับพวกท่านที่ทรงออกแบบไว้
ก็จะเริ่มต้นทำงานของมันทันทีนับแต่บัดนั้น
ผลลัพธ์ของกฎแห่งกรรมที่จิตวิญญาณต้องเผชิญ
คือ กฎแห่งการสะท้อนกลับ การเกี่ยวกรรม
การเวียนว่ายตายเกิด และการต้องตกนรก เป็นต้น

ตราบใดที่พวกท่านยังไม่สำนึกว่าตนทำผิดอยู่
การมีสังสารวัฏ การต้องตกนรก การนิพพานไม่ได้
การล้มเหลวในภารกิจสำคัญของจิตวิญญาณ
และการหลุดพ้นกลับบ้านก็จะไม่มีวันสำเร็จได้เลย
ไม่ว่าจะต้องเวียนว่ายตายเกิดกันสักกี่ภพชาติก็ตาม

3.นอกจากนั้นเรายังกลับมาบอกพวกท่านอีกว่า
ท่านต้องหาวิธีที่จะ แทรกแซง "กรรมจักร"
ที่ถูกออกแบบไว้ให้เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง
โดยเปลี่ยนมันไปเป็น ธรรมจักร แทนให้จงได้

วิธีการหมุนธรรมจักรแทนกรรมจักรนี้
เราก็กลับมาบอกพวกท่านให้ทำง่ายๆแล้ว
โดยอย่าหนีเข้าป่าไปหาทำอยู่คนเดียว
ยึดมั่นในสถาบันครอบครัวไว้ให้มั่นคงด้วยความรัก
ยึดมั่นตนเองไว้กับคนรอบข้างด้วยความรักเพื่อให้
ใช้จิตตปัญญาอันประเสริฐในการดำเนินชีวิต

เมื่อท่านทำแบบนี้
จิตหยาบของท่านจะค่อยๆนิพพานกิเลสตัณหา
ที่พวกท่านบอกว่ามันก่อให้เกิดทุกข์หรือเป็นตัวทุกข์
ให้มันสงบงันที่ในจิตหยาบของท่านได้
ซึ่งสภาวะจิตหยาบนิพพานที่ว่านี้
มันจะต้องเกิดขึ้นทั้งๆที่ยังไม่ตายเท่านั้น

เพราะถ้าท่านทำจิตหยาบถึงนิพพานได้
จิตวิญญาณตัวจริงของท่านกับจิตหยาบ
ซึ่งเป็น "เงา" หรือตัวปลอมก็จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วทั้งสองรูปธรรมก็จะร่วมกันทำหน้าที่หลัก
ที่จิตวิญญาณคือตัวท่านเองขันอาสามาทำได้
ในบทบาทของมนุษย์อย่างแท้จริง

เมื่อท่านทำสำเร็จ
พวกท่านจะมีอายุยืนเป็นอมตะ
หลุดพ้นจากสังสารวัฏได้โดยไม่ต้องตายอีก
และจิตวิญญาณก็จะไม่ป่วยจนต้องส่งไปลงนรกอีก
เพราะจิตหยาบเลิกละความเหลวไหลสิ้นเชิงแล้ว

ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้
เป็นการมาเฉลยประโยคสำคัญประโยคแรกในบทนี้
ที่เราเคยกล่าวไว้ในกาลอดีตนานนับพันปีมาแล้ว
ให้พวกท่านย้อนกลับขึ้นไปอ่านใหม่อีกครั้งก็ดีนะ

สัจธรรมที่เรากล่าวมาตั้งแต่ต้นทั้งหมดนี้
มันเป็นความรู้ใหม่ของท่านทั้งหลายบนโลกเสรีนี้
เพราะไม่มีมนุษย์คนใดกล่าวให้ท่านรู้ได้

จงอย่าก้าวล่วงเรากับพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ผู้ที่รักและเมตตาผู้ปรารถนาดีต่อพวกท่าน
ที่หมายใจว่าจะพาจิตวิญญาณพวกท่านกลับบ้าน
ในภพชาตินี้ให้ได้ทุกๆรูปธรรม
เพราะตัวท่านไม่เคยมีความรู้ระดับอนุตรธรรมนี้เลย
เนื่องจากพระศาสดาของท่านก็ไม่เคยกล่าวไว้

โปรดจำไว้ว่า
ถ้าอนุตรธรรมความจริงนอกอนันตจักรวาลนี้
มันมีของมันอยู่แล้วพวกท่านต่างรู้กันอยู่แล้ว
พระบิดามิพักส่งพระบุตรเอกเช่นเรา
กลับมากล่าวซ้ำๆซากๆให้มันยุ่งยากปานนี้หรอก

เรารู้ดีว่าสัตว์ทุกตัวบนโลกเสรีนี้
ต่างล้วนมีที่วางศีรษะกันอย่างสันติสุขทั้งสิ้น
มีเพียงบุตรเอกของพระองค์คนนี้คนเดียวเท่านั้น
ที่ยังยากจะหาที่ว่างเพื่อวางศีรษะตนเอง
ในท่ามกลางมนุษย์โลกปลายยุคพลังงานเก่านี้
อย่างสันติสุขและสมพระเกียรติของพระบิดาฯ
คนที่รักและเข้าใจภารกิจของเราอย่างแท้จริงนั้น
ช่างหาได้แสนยากยิ่ง...โดยแท้

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3/04/2021