07 มิถุนายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 7/06/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

7/06/2021

 

สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายอีกว่า

การสร้างโลกสร้างจักรวาลและทุกสรรพสิ่ง
ภายในห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระเจ้านั้น
มิใช่กำหนดให้ทุกสรรพสิ่งทำหน้าที่เป็นสิ่งมีชีวิต
ที่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมเป็นสองมิติ
ซึ่งสามารถผลิตพลังงานความรักมอบให้โลก
กับช่วยสร้างสมดุลโลกทางกายภาพเป็นหลักแล้ว
พระองค์ทรงมีความพิถีพิถันในรายละเอียด
ด้านตัวตนรูปลักษณ์ รูปแบบการดำเนินชีวิต
ความเป็นหนึ่งเดียวกันกับสภาพแวดล้อม
อาหารที่จะใช้ในการดำเนินชีวิต
ความสวยงามกลมกลืนในสีสันอันหลากหลาย
ของสรรพสิ่งที่ทรงสร้างไว้อย่างวิจิตรบรรจงด้วย

ดังนั้น
รูปธรรมเครื่องยนต์แห่งกรรมของต้นไม้ใหญ่น้อย
จึงมีรูปแบบสีสันของลำต้นกิ่งก้านใบดอกผลเมล็ด
สภาพภูมิประเทศที่เหมาะแก่การหยัดยืนดำรงอยู่
วิธีการแพร่กระจายขยายเผ่าพันธุ์ของต้นพืชนั้นๆ
ล้วนมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย

รูปธรรมเครื่องยนต์แห่งกรรมสัตว์ประจำโลก
ที่ทรงกำหนดสร้างขึ้นไว้ในระบบโลก
ก็มีความแตกต่างกันในทุกด้านอย่างหลากหลาย
ไม่ต่างจากต้นไม้และพืชพรรณที่กล่าวแล้ว

สัตว์บางชนิดก็ยังมีสี่ขาเหมือนไดโนเสาร์
ซึ่งส่วนมากยังจะเป็นจำพวกที่ตัวโตๆอยู่
บางชนิดก็ทรงกำหนดให้มีสองขา
ส่วนอีกสองขาต้นแบบเดิมนั้นทรงสร้างให้เป็นปีก
ตามแบบของไดโนสาร์ที่บินได้แต่ตัวเล็กกว่า

สัตว์มีปีกบางชนิดทรงให้สามารถบินสูงเทียมเมฆ
มีสายตายาวไกลที่มองเห็นอาหารเบื้องล่างได้
เช่น นกเหยี่ยว นกอินทรีย์ อีแร้ง นกแอ่น เป็นต้น

สัตว์บางชนิดก็ใช้ชีวิตได้ทั้งบนบกและในน้ำ
โดยทรงออกแบบให้ตอนแรกเกิดมีหางเหมือนปลา
สามารถหายใจด้วยเหงือกเหมือนปลาได้
แต่พอตัวโตเต็มวัยเหงือกกับหางจะหดหายไป
กลายสภาพเป็นไม่มีหางและหายใจด้วยปอด
แต่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในน้ำก็ได้อยู่บนบกก็ได้

สัตว์บางชนิดก็ใช้ชีวิตได้แค่บนบกตลอดชีวิต
เพราะหายใจด้วยปอดเหมือนไดโนเสาร์
สัตว์บางชนิดก็ใช้ชีวิตได้เฉพาะในน้ำตลอดชีวิต
บางชนิดทรงทดลองสร้างให้ไม่มีขาเลยสักข้าง
เพื่อเรียนรู้ว่าถ้าจะเคลื่อนไหวย้ายถิ่นที่ไปได้นั้น
พระองค์จะทรงกำหนดสร้างอย่างไร
จนได้รูปธรรมจำพวกงูที่อยู่รูและอยู่บนพื้นดิน
ซึ่งสามารถเลื้อยคดเคี้ยวไปมาได้
หรือจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าเลยก็ได้จนทุกวันนี้

นอกจากนั้นยังทรงสร้างไส้เดือนในพื้นดิน
เพื่อเรียนรู้ว่าถ้าให้พวกไม่มีขาลงไปอยู่ในดินแล้ว
พวกเขาจะเคลื่อนที่กันได้อย่างไร
จะทรงสร้างหูตาจมูกปากและช่องขับถ่ายอย่างไร
จะใช้ชีวิตอย่างไร จะกินอะไรเป็นอาหาร
จะขับถ่ายอย่างไร สืบพันธุ์อย่างไร
จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือดทางไหน
พวกเขาจึงจะมีชีวิตรอดอยู่ใต้ดินได้

สิ่งที่ทรงสร้างรูปแบบต่างๆนี้ล้วนเป็นวิธีคิด
เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ของพระองค์ทั้งสิ้น

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

นอกจากจะมีขาสี่ขากับไม่มีขาแล้ว
พระองค์ยังทรงทดลองสร้างสัตว์หกขา แปดขา
ทั้งที่อยู่บนบก อยู่บนต้นไม้ อยู่ในน้ำจืดน้ำเค็ม
ทรงสร้างปลาที่มีครีบแทนขาของสัตว์บก
แล้วเปลี่ยนจากหางยาวๆของสัตว์บกมาเป็นครีบ
ที่ใช้โบกพัดว่ายน้ำและมีครีบหาง
ที่ใช้โบกกำหนดทิศทางคล้ายหางเสือของเรือ
ทรงติดตั้งถุงลมเอาไว้ให้เพื่อช่วยในการลอยตัว

โดยทั่วไปแล้วสัตว์บกและสัตว์น้ำแทบทุกชนิด
ทรงสร้างให้มีเลือดสีแดงแทบทั้งสิ้น
แต่เพราะทรงต้องการที่จะเรียนรู้ว่า
ถ้าสร้างให้สัตว์น้ำมีสีอื่นเช่นสีฟ้าของท้องฟ้า
สัตว์น้ำชนิดนั้นจะดำรงชีวิตอยู่ได้หรือไม่
จะออกแบบเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมนั้นอย่างไร
นี่จึงเป็นที่มาของปูซึ่งถือเป็นสัตว์น้ำที่มีเลือดสีฟ้า
กับแมลงบางชนิดที่มีเลือดสีฟ้าเช่นเดียวกัน

ความเป็นพระผู้สร้างผู้ยิ่งใหญ่
ด้วยพระปรีชาปาฏิหาริย์ของพระองค์หาใครเทียม
ซึ่งสามารถยืนยันกับท่านทั้งหลายได้เลยว่า
ธรรมชาติมันสร้างรูปแบบของมันเองไม่ได้แน่
เพราะนอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น
เรายังมีตัวอย่างให้ท่านทั้งหลายได้ประจักษ์อีก

ตัวอย่างเช่น
ทรงปรารถนาจะสร้างนกให้ใช้หูแทนตาได้ในที่มืด
พระองค์จึงทรงค้นพบว่าสามารถทำได้
ด้วยการออกแบบให้ค้างคาวมีเสียงเล็กแหลม
บินไปร้องไปขณะอยู่ในที่มืดหรือกลางคืน
แล้วสร้างประสาทหูของนกชนิดนี้ให้มีความพิเศษ
โดยรับคลื่นความถี่เสียงของตัวเองที่สะท้อนกลับมา
จากอุปสรรคกีดขวางที่อยู่ข้างหน้า
จนสามารถบินหลบหลีกได้อย่างปลอดภัย
แทบไม่ต้องใช้สายตามองเพ่งเลยก็ว่าได้

เนื่องจากสัตว์ปีกหรือนกชนิดนี้
ทรงกำหนดให้พวกเขาหากินตอนกลางคืน
จึงให้พักผ่อนหลับนอนในตอนกลางวันแทน
ซึ่งถือว่าพระองค์ทรงให้พวกเขามีความพิเศษ
ที่แตกต่างจากสัตว์ส่วนใหญ่แล้ว

จึงทรงต้องการจะเรียนรู้เป็นพิเศษอีกว่า
สัตว์บกทุกชนิดที่ทรงสร้างขึ้นไว้บนโลก
ถ้าจะให้กลับหัวกลืนกินอาหารเขาจะทำกันได้ไหม
จึงทรงเลือกสัตว์ปีกชนิดนี้แหละเป็นต้นแบบ
ในที่สุดพระองค์ก็ได้สัตว์แปลกนามว่า ค้างคาว
ผู้มีปีกเป็นแผ่นหนังซึ่งแทบจะไร้ขนที่ใช้โบกบิน
โดยมีรูปลักษณ์หน้าตาเหมือน หนู ที่อยู่บนดิน
เวลากินอาหารก็จะห้อยหัวลงซึ่งต่างจากสัตว์อื่น
ผลการทดลองก็ทรงพบว่าสัตว์โลกของพระองค์
แม้จะอยู่ในท่าห้อยหัวก็สามารถกินอาหารได้
อีกทั้งยังทรงทดลองให้ค้างคาวซึ่งเป็นสัตว์ปีก
เพียงชนิดเดียวที่เลี้ยงลูกด้วยนมได้อีกต่างหาก

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

สรรพสิ่งต่างๆบนโลกใบนี้
รวมทั้งทุกสรรพสิ่งภายในอนันตจักรวาล
ที่มนุษย์มิอาจคิดรู้เข้าใจเองได้ด้วยสมองสองซีก
แล้วใช้วิธีการ "เดา" เอาว่าเกิดจากธรรมชาติ
โดยโมเมว่าธรรมชาติเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งนั้น
เป็นการคิดเข้าใจผิดแบบจิตมนุษย์เท่านั้น

ความจริงเหล่านี้มันเป็นสัจธรรมระดับอนุตรธรรม
ซึ่งมีเพียงพระบุตรเอกที่พระผู้สร้างส่งมาเท่านั้น
ที่จะช่วยหงายกะลาที่คว่ำครอบท่านทั้งหลายไว้
ให้ได้แลเห็นความจริงที่จริงแท้ด้วยแสงสว่างได้

โดยเราสามารถเล่าแรงบันดาลใจในการสร้าง
วิธีที่ทรงคิดออกแบบสร้าง
รวมทั้งเหตุผลที่ทรงสร้างสิ่งนั้นๆ
ให้พวกท่านรู้ได้ไม่ยากเลย
เท่าที่เราพอจะยกตัวอย่างมาให้
ท่านทั้งหลายได้เห็นประจักษ์นี้
ก็ตั้งมากมายแล้ว

เราจึงขอกล่าวย้ำต่อท่านทั้งหลายว่า
พระผู้สร้างหรือพระเจ้านั้นมีจริง
พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างธรรมชาติทุกสิ่ง
รวมทั้งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านเอง
เพราะเราเป็นพยานของพระองค์

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
7/06/2021