29 มิถุนายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 29/12/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

29/12/2021




สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

จิตวิญญาณของท่าน
ซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ที่ขันอาสาพระบิดา
เดินทางข้ามมิติเข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์นั้น
มีพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือ "พระเจ้า"
เป็นผู้ให้กำเนิดพระองค์เดียวกันทั้งนั้น
รวมทั้งจิตวิญญาณของสัตว์ทั้งหลายด้วย

ทั้งมนุษย์และสัตว์จึงล้วนเป็นบุตรของพระองค์
โดยทุกรูปธรรมมีหน้าที่ร่วมกันที่ต้องทำ
ในนามของจิตวิญญาณของตนเองขณะมีชีวิต
นั่นคือ ผลิตสร้าง พลังงานความรักมอบให้โลก
โดยต้องสั่นสะเทือน "ขันธ์ 5" ด้วยความรักให้ได้

ความรักในความหมายของพระบิดาที่ว่านี้ก็คือ
การอดทนอดกลั้นและให้อภัยต่อคนรอบข้างให้ได้
ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนในครอบครัวหรือในสังคม
ที่ทำตัวไม่น่ารักไม่น่าคบไม่สบอารมณ์ของท่าน
โดยไม่มีเงื่อนไขข้อแม้และข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น


ถ้าจิตหยาบท่านเข้าถึงการสั่นสะเทือนขันธ์ 5 ได้
จะช่วยให้ "จิตหยาบ" เป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ของท่านได้ทันที
อันเป็นการ หมุนธรรมจักร ของจิตวิญญาณนั่นเอง
นับเป็นการไม่เสียชาติเกิดแล้ว

แต่ถ้าตลอดภพชาตินี้จิตหยาบของท่านยังล้มเหลว
เพราะสั่นสะเทือนขันธ์ 5 ด้วยอารมณ์ขยะรายวัน
ซึ่งสั่นสะเทือนทีไรเป็นก่อกรรมทำบาปขึ้นมาเมื่อนั้น
มันคือการ หมุนกรรมจักร ของ จิตหยาบ นั่นเอง
นี่เท่ากับว่าจิตหยาบทำให้จิตวิญญาณเสียชาติเกิด
จนยังผลให้จิตวิญญาณของท่านล้มเหลวในภารกิจ
ที่ขันอาสาพระบิดาเข้ามาปฏิบัติในบทบาทของมนุษย์

ถ้าท่านจะเปลี่ยนกรรมจักรให้เป็นธรรมจักร
ในการสั่นสะเทือนจิตหยาบด้วยกระบวนการขันธ์ 5
มีสิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือ ต้องนิพพานขยะในขันธ์ห้า
จำพวกกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะทั้งปวงให้สิ้น

ถ้าดับขยะทั้งหมดเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิงเมื่อใด
จิตวิญญาณของท่านก็จะนิพพานกรรมที่ติดตัวอยู่ได้
เมื่อนิพพานกรรมทั้งหมดได้แล้วการตกนรกจึงไม่มี
เมื่อนิพพานกรรมทั้งหมดได้แล้วสังสารวัฏจึงไม่มี
จิตวิญญาณของท่านก็ไม่มีเหตุให้ต้องตายอีก

เมื่อจิตหยาบของท่านประสบผลสำเร็จ
ในการหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ 5 ได้ทั้งชีวิต
มันจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากและน่าภาคภูมิใจยิ่ง
เพราะท่านจะเป็นคนหนึ่งที่บรรลุภารกิจศักดิ์สิทธิ์
ในการปฏิบัติตามแผนการทดลองของพระเจ้าได้
ซึ่งท่านเป็นผู้ขันอาสาพระองค์กันมาเอง

แผนการทดลองที่พระบิดาหรือพระเจ้า
ซึ่งเราถวายพระนามว่า องค์จิตจักรวาล ในยุคนี้
ตามที่ทรงออกแบบและวางแผนการเอาไว้ก็คือ

การส่งจิตวิญญาณพวกท่านมาจากแดนสุญตา
ให้เข้ามาใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
โดยให้จิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
เพื่อทำการสั่นสะเทือนจิตหยาบกับกายหยาบ
ให้อยู่เหนือกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะ
จนเข้าถึงความรักบริสุทธิ์คือรักเพื่อให้
และใช้ความฉลาดทางปัญญาของสมองสองซีก
ดำเนินชีวิตประจำวันร่วมกันกับเพื่อนมนุษย์ให้จงได้
อันหมายถึงการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าเป็นธรรมจักร
ตามที่เรากล่าวมาข้างต้นนั่นเอง

หน้าที่ของพวกท่านที่ขันอาสามาเกิดเป็นมนุษย์
มันมีเพียงเท่านี้จริงๆไม่มีอะไรยุ่งยากเลยสักนิด

ลองถามตนเองเถิดว่า
ความวุ่นวายวกวนจนทุกข์หนักทุกข์หนา
ความปรารถนาจะจะดับขันธ์ 5 ให้สิ้น
เพราะเข้าใจว่าขันธ์ห้าเป็นที่มาของ อัตตา
อันเป็นสาเหตุแห่งกองทุกข์ทั้งปวง
ถ้าตนดับขันธ์ห้าได้ก็จะกลายเป็น อนัตตา
จึงเชื่อว่าตนนิพพานได้แล้วไม่ต้องมีภพชาติแล้ว
มันเป็นความยากลำบากในการปฏิบัติธรรม
เพราะพวกท่านเชื่อตามคนนำทางตาบอด
ที่เข้าใจสัจธรรมของพระศาสดาผิดพลาดใช่ไหม

ท่านทั้งหลายต้องรู้ว่า
วิธีการปฏิบัติธรรมตามอย่างคนนำทางตาบอด
ที่มุ่งปลีกวิเวกออกไปจากสังคมแล้วปิดอายตนะ
นั่นเท่ากับว่าพวกเขาปฏิเสธการใช้อายตนะ
โดยเหลือแต่ "จิตหยาบ" อย่างเดียวเท่านั้น
และปฏิเสธการมีสังคมในแบบ "สัตว์สังคม" ด้วย
จึงทำเรื่องง่ายๆซึ่งพระบิดาทรงออกแบบไว้ให้
กลายเป็นเรื่องยุ่งยากลึกลับสลับซับซ้อน
เพราะมันผิดธรรมชาติที่ทรงออกแบบไปหมดสิ้น

การพยายามหาทางตายแล้วไม่ต้องเกิดอีกนั้น
เพราะท่านไปเข็ดขยาดขลาดกลัวความทุกข์
ซึ่งเป็นตัวทุกข์ที่เกิดจากจิตหยาบใช้ชีวิตไม่เป็น
เพราะแก้ปัญหาชีวิตที่เผชิญไม่สำเร็จหรือไม่ได้
เนื่องจากขาดการติดอาวุธทางปัญญาให้ตนเอง
การหลงทางนิพพานจึงเกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้น
ยิ่งหลงเชื่อว่าถ้า "หลุดลอย" ขึ้นไปเป็นอรหันต์ได้
มันคือการนิพพานซึ่งเป็นมรรคผลสูงสุดแล้ว
นี่ก็ยิ่งหลงทางหนักเข้าไปอีก

นอกจากนั้น
การนำเอาศาสนาที่ตนนับถือแตกต่างกัน
มาเป็นเงื่อนไขในการสร้างความแตกแยก
ทำให้แต่ละศาสนาเสื่อมเสมอเป็น ลัทธิ ไป
พระศาสดาจึงต้องเป็นได้แค่เพียง เจ้าลัทธิ
แทนที่จะนำเอาสัจธรรมของพระศาสดาต่างๆ
ที่ทรงจุติมาอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ในแต่ละยุค
มาศึกษามาร่วมเรียนร่วมรู้ร่วมกันด้วยปัญญา
มันจะเกิดการงอกงามทางปัญญาหลายเท่านัก

การขัดแย้งกันทางศาสนาที่รุนแรง
การเห็นคนนอกศาสนาเป็นคนนอกรีต
มันคือตัวชี้วัดว่าผู้คนทั้งหลายเหล่านั้น
เป็นผู้มืดบอดทางปัญญาพาให้จิตสามนึกตกต่ำ
ไม่สง่างามในการถูกเรียกว่า มนุษย์ เลย

เราจึงขอยืนยันว่า
ทุกศาสนาล้วนเป็นสากล
ทุกศาสดาล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
จงอย่าหลงเชื่อคนนำทางตาบอด
ที่นำพาพวกท่านหลงทางหลงธรรมต่อไปอีก
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ต้องการเป็นอิสระจากความงมงายของท่าน
และปรารถนาจะหลุดพ้นกลับบ้านแดนสุญตา
โดยรอคอยเวลามานานนับพันปีแล้วนะ

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

อย่าเชื่อคนนำทางตาบอดเลย

เพราะทุกศาสนาเป็นสากล

ทุภศาสดาเป็นหนึ่งเดียวกัน

ยึดศาสดาพระองค์เดียวช่วยให้

จิตวิญญาณของท่านบรรลุ

มรรคผลสูงสุดคือหลุดพ้นไม่ได้


เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29/06/2021