24 มิถุนายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 24/06/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

24/06/2021



สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
เป็นพระผู้สร้างเอกภพหรืออนันตจักรวาล
เพื่อใช้เป็น "ห้องทดลอง" ของพระองค์ว่า
พระองค์สามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง

สำหรับห้องทดลองของพระองค์นี้
เป็นโครงสร้างทางพลังงานขนาดใหญ่มาก
มีรูปทรงคล้ายซาละเปาสองลูกประกบกัน
ซึ่งทรงใช้กาแล็กซี่ทั้งหมด 12,500 ล้านระบบ
เพื่อที่จะทำให้อนุภาคพลังงานฟุ้งกระจาย
จนเกิดเป็นห้องทดลองตามพระประสงค์ได้

โดยทรงกำหนดให้กาแล็กซี่ธารสายน้ำนม
เป็นกาแล็กซี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของทั้งหมด
ให้ทำหน้าที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของระบบ
ซึ่งจะต้องหมุนรอบแกนกลางในแนวระนาบ
และเหวี่ยงหมุนอย่างต่อเนื่องไว้ตลอดเวลา
เพื่อช่วยค้ำจุนห้องทดลองนี้ให้สมดุลไว้นั่นเอง

เพราะการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองในแนวระนาบ
ของกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม (Milky Way)
ซึ่งเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพนั้น
มันคือกฎหลักของจักรวาลที่ทรงกำหนดไว้ว่า
ทุกสรรพสิ่งจะสมดุลได้ก็ต่อเมื่อ
สรรพสิ่งนั้นจะต้องเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
อย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเร็วคงที่เสมอ

ดังนั้น
บนกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม
จึงทรงสร้างระบบสุริยจักรวาลไว้สองระบบ
โดยทรงกำหนดติดตั้งเอาไว้คนละด้านกัน

ทรงกำหนดให้ดาวเคราะห์โลก
ทำหน้าที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของเอกภพ
โดยเป็นผู้นำของดาวเคราะห์ทั้งแปดดวง
ในการโคจรไปรอบดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะ
และทรงกำหนดให้ระบบสุริยะฝั่งตรงข้าม
ที่มีดาวเคราะห์ทั้งหมดห้าดวง
ร่วมออกแรงเพื่อทำให้เกิดการเหวี่ยงหมุน
ของกาแล็กซี่ธารสายน้ำนมขนาดใหญ่นี้ด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

น่าเศร้าใจหรือไม่ถ้าเราจะกล่าวความจริงว่า
ดาวพลูโต ดาวเคราะห์ในวงโคจรนอกสุด
ของระบบสุริยะของโลกเสรีที่มนุษย์อวดอุตริ
จะปลดระวางเขาออกจากระบบสุริยจักรวาลนี้
เพราะมองไม่เห็นนัยสำคัญจึงไม่รู้ค่าว่า
ดาวพลูโตเป็นเศษส่วนสำคัญของเมอริเดี้ยน
ของระบบสุริยจักรวาลทั้งสองระบบเลยล่ะ
ซึ่งจักรวาลทั้งสองระบบและเอกภพระบบใหญ่
จะขาด "ดาวพลูโต" ดวงนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ท่านทั้งหลายต้องรู้กันเอาไว้ด้วยว่า
เพราะดาวพลูโตดวงนี้นี่แหละ
ที่เป็นกลไกเชื่อมโยงระหว่างสองระบบสุริยะ
ทำให้กาแล็กซี่ธารสายน้ำนมเหวี่ยงหมุนได้
ในแนวระนาบอย่างต่อเนื่อง
เพื่อค้ำจุนห้องทดลองของพระองค์เอาไว้
ตั้งแต่เมื่อแรกสร้างตราบจนกระทั่งบัดเดี๋ยวนี้
การฉลาดคิดฉลาดทำกันแต่เรื่องโง่ๆนั้น
พวกเผ่าพันธุ์สืบจากยุคแอตแลนติสถนัดนัก

แน่นอนว่า
ในระบบสุริยะทั้งสองระบบที่ทรงสร้างไว้
จักต้องมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถผลิตสร้างพลังงาน
ในการขับเคลื่อนกาแล็กซี่ใหญ่นี้ด้วย
ซึ่งเราได้เปิดเผยความลับให้ท่านรู้กันมาแล้วว่า
สิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ก็คือ ต้นไม้ สัตว์ประจำโลก
รวมทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ด้วย

โดยสัตว์ประจำโลกและรูปธรรมมนุษย์
บนดาวบางดวงของสองระบบสุริยะนี้
พระบิดาทรงออกแบบไว้เหมือนกันหมด
เช่น ให้มีจิตวิญญาณจากแดนสุญตา
ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่นอกระบบเอกภพ
ขันอาสาพระองค์เข้าไปเกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์
เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม
ด้วยกระบวนการของ "ขันธ์ 5" เหมือนกัน
โดยให้จิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
ถ้าเป็นผู้ขันอาสามาเกิดเป็นมนุษย์

แต่ถ้าหากมาเกิดเป็นสัตว์ประจำโลกนั้นๆ
ก็ทรงกำหนดให้ใช้สัญชาตญาณของจิตวิญญาณ
ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมสัตว์ได้เลย

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เราเปิดเผยความลับเบื้องหลังมิติโลก
ให้ท่านทั้งหลายที่ได้โอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์
ได้รู้ความจริงว่า

การยึดติดพระศาสดาพระองค์เดียว
เหมือนเด็กเลือกลูกอมขนมหวานที่ตนชอบ

การทำสงครามศาสนา
เพราะนำเอาศาสนามาทำเป็นลัทธิ
นำเอาพระศาสดามาทำเป็นเจ้าลัทธิ

การยึดติดถ้อยความในพระคัมภีร์
ด้วยการท่องจำแล้วทำตามนั้น
ซึ่งพระศาสดามิได้ทรงลงพระหัตถ์บันทึกเอง
โดยไม่ยอมคิดตามจึงผิดถูกอย่างไรก็ไม่รู้

การหลงทางนิพพาน
เพราะไปเชื่อตามคนนำทางตาบอด
จึงหาทางกลับบ้านไม่พบ

การจำผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตนไม่ได้
ด้วยการทำตนเป็นดั่งลูกกำพร้า

การจำบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณไม่ได้
ด้วยการทำตนเป็นผู้พเนจรร่อนเร่อนาถา

ปรากฏการณ์ต่างๆที่เรากล่าวมานี้
ยังผลให้พระบิดาทรงเสียพระทัยเป็นที่ยิ่ง
เอกภพและโลกเสรีทั้งระบบ
คาดหวังอะไรจากมนุษย์ยุคนี้ได้บ้างหนอ...

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

ปรากฏการณ์ที่เรากล่าวไว้นี้

พระบิดาทรงเสียพระทัยยิ่งนัก

เอกภพและโลกเสรีทั้งระบบ

คาดหวังอะไรจากมนุษย์

ในปลายยุคนี้กันได้บ้างหนอ


เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24/06/2021