13 มิถุนายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล

13/06/2021





สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงเรื่องพระผู้สร้าง
ต่อท่านทั้งหลายอีกว่า

กว่าพระบิดาจะทรงพอพระทัย
ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรุ่นใหม่ที่ทรงออกแบบ
เพื่อตอบโจทย์สำคัญที่จะส่งเข้ามายังโลก
ซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพทั้งสองมิตินั้น
เราขอกล่าวตามตรงว่ามันมิใช่เรื่องง่ายเลย

โจทย์ที่ยากที่สุดของพระองค์มีดังนี้

เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่นี้
จะต้องมีพลังอำนาจร่วมกันที่จะผลิตความรัก
เพื่อค้ำจุนความสมดุลของดาวเคราะห์โลกได้
โดยพระองค์มิต้องทรงสร้างใหม่เพิ่มอีกแล้วนั้น

จะทรงออกแบบเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ว่านี้
ให้เป็นแบบไหนลักษณะใดและจะทรงสร้างอย่างไร
จึงจะเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง
ซึ่งสามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

จากการทดลองของพระองค์เพื่อการนี้เอง
จึงยังผลให้มีรูปธรรมที่มีชีวิตดำรงอยู่บนดาวหลายดวง
ทั้งที่อยู่ในระบบสุริยจักรวาลของกาแล็กซีต่างๆ
และที่อยู่บนดาราประดับฟ้าบางดวงในเอกภพนี้
ล้วนเป็นพระปรีชาญาณปาฏิหาริย์ของพระองค์
เป็นพระผู้ทรงกำหนดสร้างพวกเขาขึ้นมาทั้งสิ้น

โดยมีทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่มีรูปธรรมไม่เหมือนมนุษย์
ที่มีรูปธรรมลักษณะคล้ายมนุษย์
ที่มีรูปธรรมลักษณะเหมือนมนุษย์

ซึ่งเป็นการคิดสร้างของพระองค์
ด้วยการทดลองแล้วพัฒนารูปแบบกันมาเรื่อยๆ
ในที่สุดพระองค์ก็ค้นพบรูปธรรมแบบที่ต้องการ
จากห้องทดลองในกลุ่ม ดาวพลียะดิส
ซึ่งทุกวันนี้มนุษย์โลกเรียกว่า กลุ่มดาวลูกไก่
โดยเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมที่ทรงสร้างนี้
ทรงเรียกว่า พลียะเดี้ยนส์ นั่นเอง

พระองค์ทรงทดลองให้รูปธรรม "พลียะเดี้ยนส์"
มีจิตวิญญาณอาสาจากแดนสุญตาหมื่นรูปธรรม
เข้ามาทำการทดลองขับเคลื่อนรูปธรรมที่สร้างใหม่
โดยมีกลไกสำคัญที่ทรงคิดสร้างขึ้นใหม่หลายชิ้น
ซึ่งพอจะเปิดเผยได้บ้างดังนี้ คือ

1. ระบบประสาทสมอง
จากเดิมที่ทรงสร้างไว้ในสัตว์ประจำโลก
เป็นสมองก้อนเดียวที่เป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
ในการสั่นสะเทือนเคลื่อนไหวทางกายภาพ
และสั่นสะเทือนให้เกิดพลังงานที่โลกต้องการ
ในมิติของจิตวิญญาณด้านของแก่นแท้
ซึ่งเป็นกลไกสมองที่ยังไม่สลับซับซ้อนอะไร

จึงทรงกำหนดให้
เครื่องยนต์แห่งกรรมที่สร้างใหม่
ซึ่งต่อมาทรงเรียกว่า "มนุษย์" นี้
มีสมองที่แบ่งออกเป็นสองซีก
โดยมีความฉลาดทางปัญญาให้ใช้ถึงสามระดับ
คือ สัญชาตญาณ สติปัญญา และปัญญาญาณ
ขณะที่สัตว์ประจำโลกมีแต่สัญชาตญาณเท่านั้น

2.ทรงอนุญาติให้จิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้
แบ่งภาคตนเองออกมาเป็น "จิตหยาบ"
เพื่อทำหน้าที่ทุกอย่างแทนจิตวิญญาณ
จนกว่าจิตหยาบจะยกระดับแรงสั่นสะเทือน
ให้สูงขึ้นทางด้านบวกจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนเองได้

ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้จิตวิญญาณหลงมิติรุนแรง
คือมีอาการป่วยเพราะมิอาจสั่นสะเทือนด้านบวก
ตามคุณสมบัติเดิมแท้ของตนเองได้
เพราะไปสั่นสะเทือนตามจิตหยาบของตนเข้า
ซึ่งจิตวิญญาณที่หลงมิตินี้จะสามารถรักษาได้
เพราะยังไม่เกิดอาการเสียสมดุลถึงขั้นโคม่า

พระองค์จึงทรงสร้างโรงพยาบาลบำบัดเอาไว้ให้
พร้อมส่งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดรักษา
ไปประจำทำเวรอยู่ที่โรงพยาบาลสถานบำบัดนี้ด้วย

ทรงเรียกโรงพยาบาลนี้ว่า นรก
ทรงเรียกแพทย์ผู้บำบัดรักษาว่า ยมบาล
ทรงเรียกผู้อำนวยการโรงพยาบาลว่า พญายม

โดยพระองค์ทรงกำหนดให้
ประดาจิตวิญญาณที่หลงมิติไม่มาก
ทำการรักษาในขุมนรกชั้นเดียวกันกับโลก
ส่วนจิตวิญญาณที่หลงมิติมากกว่าปกติ
จะส่งลงไปรักษาในขุมนรกที่ลึกลงไปเบื้องล่าง

จิตวิญญาณรายที่หลงมิติมากๆ
จนถูกส่งลงไปรักษาในขุมนรกที่ลึกกว่าขุม 13
ก็จะเป็นจิตวิญญาณพวกที่ลงนรกไปแล้ว
ไม่สามารถกลับออกมาจากนรกขึ้นสู่ชั้นบน
เพื่อย้อนกลับมาเกิดใหม่มีภพชาติใหม่ได้อีกเลย
มนุษย์จะมองพวกนี้ว่ามีอาการสาหัสเข้าขั้นโคม่า
ทั้งแพทย์ทั้งพยาบาล "ไม่รับ" บำบัดรักษาแล้ว

3.ทรงกำหนดให้เครื่องยนต์แห่งกรรมแบบใหม่นี้
มีคุณลักษณะที่งดงามลงตัวสมสัดส่วนทั้งสองเพศ
โดยทรงกำหนดค่าความเข้มสนามแม่เหล็กของดาว
ให้มีสัดส่วนเหมาะสมกับกลไกทางไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้
ในระดับเซลของเครื่องยนต์แห่งกรรมนั้นนั่นเอง

ซึ่งอำนาจแม่เหล็กของดาวที่เหมาะสม
ยังจะเป็นเครื่องกำกับความฉลาดทางปัญญา
ของสมองของรูปธรรมที่ทรงสร้างใหม่นี้ด้วย

ผลการทดลองปฏิบัติจริงใช้จริง
โดยรูปธรรม "พลียะเดี้ยนส์" ในกลุ่มดาวลูกไก่
ปรากฏว่าพระองค์ทรงประสบผลสำเร็จ
เป็นที่น่าพอพระทัยเป็นล้นพ้น

รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์รุ่นทดลองนี้
สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น
และพวกเขาร่วมกันผลิตพลังงานความรัก
ผ่านกระบวนการของขันธ์ 5
โดยมีสมองเป็นเครื่องมือ
เพื่อหมุนธรรมจักรร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม

ใช้เวลาเพียงหนึ่งหมื่นปีเศษเท่านั้น
จิตหยาบของพวกเขาก็นิพพานกิเลสได้สิ้น
ทั้งตัณหาราคะและอารมณ์ขยะทั้งปวง
ก็พลอยนิพพานตามไปด้วย
ในที่สุดจิตวิญญาณของพวกเขาก็บริสุทธิ์
เมื่อจิตวิญญาณพวกเขาบริสุทธิ์
จิตวิญญาณพวกเขาจึงไม่ต้องตาย
จนกลายเป็นผู้มีชีวิตเป็นอมตะอยู่จนทุกวันนี้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์นี่เอง
คือ "บรรพบุรุษ" ของมนุษย์โลกทั้งหลาย
ที่พระบิดาทรงตัดสินพระทัยเลือกใช้

เพราะเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ทรงสร้างใหม่นี้
ทรงพบว่าสามารถสอบผ่านได้ทุกบททดสอบ
สามารถเรียนรู้ได้ในทุกบทเรียน
สามารถผลิตพลังงานความรักให้กับดาวของตน
ได้อย่างมีประสิทธิผลเกินความคาดหมาย
โดยมีพลังอำนาจทางปัญญาของสมอง
ที่ทรงออกแบบขึ้นมาใหม่ที่แตกต่างกว่าสัตว์ใช้
เป็นพลังอำนาจอันสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อน
จนประสบผลสำเร็จเป็นที่พอพระทัยเป็นอย่างสูง

เนื่องจากพระองค์ทรงค้นพบว่า
รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์เหล่านี้
นอกจากพวกเขาโดยจิตหยาบ
สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนได้
เพราะขันธ์ 5 ปลอดจากขยะทางพลังงาน
จนเกิดสภาวะ "จิตใสใจสวยรวยรัก" ได้แล้ว
ในความเป็นธรรมชาติของพวกเขาเหล่านี้
ก็ยังเข้าถึงสิ่งที่มนุษย์โลกเรียกว่า อภิญญา
อันเป็นกฤษดาภินิหารจากจิตบริสุทธิ์แท้ด้วย

พวกเขาเหาะเหินเดินอากาศได้เหมือนนก
สามารถย้ายมวลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
ซึ่งมนุษย์เรียกว่า "ล่องหน-หายตัว" ได้

พวกเขาสามารถหยั่งรู้ดินฟ้าอากาศได้
สามารถหยั่งรู้วาระจิตของคนอื่นได้
สามารถระลึกชาติอดีตของตนและผู้อื่นได้
สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตได้

เพราะพลียะเดี้ยนส์มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
พระผู้สร้างจึงทรงมีพระบัญชาให้
รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์จากกลุ่มดาวลูกไก่
จำนวน 600 รูปธรรมทั้งชายหญิงหรือ 300 คู่
เฉพาะผู้ที่ยังไม่บรรลุมรรคผลสูงสุด
ให้เดินทางข้ามมิติจากกลุ่มดาวลูกไก่มายังโลก
โดยรูปธรรมที่เป็นเพศชายทรงเรียกว่า “อดัม”
รูปธรรมเพศหญิงทรงเรียกว่า อีฟ หรือ "เอวา"

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์จากกลุ่มดาวลูกไก่
จึงเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์โลกเสรีโดยแท้
จากอนุตรธรรมความจริงที่พระผู้สร้างทรงเมตตา
ให้เรานำมาเปิดเผยต่อท่านทั้งหลายให้ได้รู้

รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์จึงเป็นผู้ที่รักมนุษย์โลก
ซึ่งเป็นสายโลหิตของตนอย่างแท้จริง
พวกเขาจะเดินทางเข้าออกระบบโลก
เพื่อคอยดูแลช่วยเหลือพวกท่านมานานแล้ว
พวกเขาสอนให้พวกท่านฉลาดในการดำเนินชีวิต
เช่น ฉลาดผลิตสร้างเสื้อผ้าปกคลุมร่างกาย
สอนให้พวกท่านรู้จักการหุงข้าว
ให้เก็บเมล็ดธัญพืชและผักผลไม้มากินเป็นอาหาร
สอนให้รู้จักการทำนา ทำไร่ เพาะ ปลูก
สอนให้รู้จักสร้างภาชนะจำพวกเครื่องปั้นดินเผา
สอนให้รู้จักรักธรรมชาติของพระบิดา ฯลฯ

นอกจากนั้น
ยังคอยระวังภัยจากนอกโลกให้มนุษย์ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นก้อนอุกกาบาตหรือผู้บุกรุกก็ตาม
แม้กระทั่งการคอยป้องปรามศึกสงคราม
ที่พวกมนุษย์ก่อกันขึ้นมาเพื่อฆ่ากันเอง
ในอันที่จะทำลายโลกและทุกสิ่งของพระบิดา
จนเกิดหายนะในระดับที่จะให้อภัยกันไม่ได้
เพราะจิตสามนึกตกต่ำย่ำแย่จนถึงที่สุดด้วย

ทุกวันนี้รูปธรรมกลุ่มพลียะเดี้ยนส์
จะเข้ามาใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์มากขึ้น
ซึ่งมนุษย์จะมิอาจรู้ได้ว่าใครคือพลียะเดี้ยนส์
เพราะตัวตนรูปลักษณ์หน้าตางดงามลงตัว
เหมือนมนุษย์แทบทุกกระเบียดนิ้ว

พวกเขาจะคอยปกป้องคนดีที่พระบิดาทรงคัดไว้
ให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติที่ทรงใช้ชำระโลก
ให้ปลอดภัยจากหมู่มารที่จะทำร้ายหมายชีวิต
บุตรรักของพระบิดาเพื่อสกัดกั้นมิให้หลุดพ้น
กลับบ้านแดนสุญตาก่อนวันสิ้นยุคทุกวิถีทาง

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13/06/2021