พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่าพระบิดาทรงมีพระบัญชาให้พิพากษาโลกแล้ว
เพราะมนุษย์กับโลกเป็นเพื่อนร่วมงานกันมา
นานเกินหกหมื่นปีโลกตาม #พันธสัญญา 6
ที่พวกท่านได้ให้สัจจะไว้ต่อพระผู้เป็นเจ้า
ก่อนจะเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์ตั้งแต่ภพชาติแรก
เพื่อเข้ามาใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
สั่นสะเทือนในสองมิติผลิตสร้างพลังงานด้านบวก
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้วยพลังแห่งรักแท้
โดยใช้ขันธ์ 5 ที่จิตวิญญาณถือติดตัวมาด้วย
เป็นเครื่องมือในการผลิตร่วมกันกับคนอื่นๆ
มอบให้โลกเอาไปใช้เป็นพลังหมุนรอบตัวเอง
เพื่อช่วยค้ำจุนความสมดุลของโลกและจักรวาล
ซึ่งได้ถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าตามกำหนดแล้ว
สาเหตุที่เราจำเป็นจะต้องกล่าวซ้ำในเรื่องนี้
เพราะเราต้องการจะบอกความจริงต่อพวกท่านว่า
จงอย่าไปเสียเวลาใส่ใจในคำโพนทนาชวนเชื่อ
จากศัตรูของชาวเผ่าดาวโลกผู้ปากดีแต่หวังร้าย
ของพวกที่ไม่เคยรู้จักตัวตนของพระเจ้า
ซึ่งเป็นพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งทั้งอนันตจักรวาลนี้
พระผู้ที่ให้กำเนิดพวกเขาไว้บนดวงดาวต่างๆด้วย
โดยจูงใจว่าจะพาท่านทั้งหลายยกระดับให้สูงส่ง
เพื่อนำพวกท่านให้เชื่อมสัมพันธ์กับจักรวาลได้
ซึ่งพวกเขาจะนำพวกท่านไปสู่การเปลี่ยนแปลง
อันยิ่งใหญ๋ในระดับที่พวกเขาเป็นกันมานานแล้ว
แทนที่จะงมงายอยู่ใต้การปกครองของความมืด
ในแบบที่มนุษย์ดำเนินชีวิตกันมาอย่างยาวนาน
ทั้งๆที่แท้แล้ววิถีชีวิตสากลของพวกเขา
คือการเป็นผู้พเนจรเร่ร่อนไปในจักรวาล
เพราะถูกขับออกมาจากเผ่าดาวของตนเองก็มี
เพราะดาวของตนแตกระเบิดจากการลองของ
จนต้องกลายเป็นผู้แทรกแซงรุกรานผู้อื่นก็มี
ซึ่งมีแต่ชีวิตยืนยาวก้าวหน้าทางจิตปัญญาเรื่อยๆ
โดยไม่มีหน้าที่อะไรจะต้องทำเหมือนมนุษย์โลก
ที่จะต้องหยัดยืนอยู่ในระบบโลกจะทิ้งโลกไม่ได้
พวกเขาจึงสนุกกับการสร้างวัตถุเท็คโนโลยีขยะ
จึงสนุกกับการรังแกมนุษย์แบบผู้ใหญ่รังแกเด็ก
จึงเพลิดเพลินกับการเบียดเบียนและหลอกลวง
โดยมนุษย์โลกถูกทำร้ายตลอดมานับหมื่นๆปีแล้ว
ซึ่งทุกยุคจะมีมนุษย์จำนวนน้อยที่ทรยศต่อพระเจ้า
เลือกข้างฝ่ายมารหันมาทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง
เพราะพวกเขาไม่มีพระศาสดาที่มาจากพระเจ้า
เข้าไปกล่าวอนุตรธรรมโอวาทให้รู้เหมือนมนุษย์
พระบิดาหรือพระผู้สร้างก็ไม่เคยสื่อสารกับพวกเขา
จึงหลงเข้าใจผิดคิดว่าพวกตนเกิดมาจาก “แสง”
จนเชื่อว่าแสงเป็นต้นกำเนิดตัวตนของพวกตนไป
เหตุที่เชื่อผิดเพราะเป็นความจริงระดับอนุตรธรรม
ซึ่งพวกเขาไม่อาจรู้ความจริงที่ว่านี้ด้วยตนเองได้
จึงกลายเป็นผู้ไม่รู้ว่าตนไม่รู้ดังเช่นมนุษย์ส่วนใหญ่
นอกจากนั้นเพราะความไม่รู้และหลงตัวเอง
จึงพากันเหยียดหยามชาวโลกว่าเป็นผู้ต่ำต้อยกว่า
เพราะไม่รู้ความเป็นมาของมนุษย์ว่ามาจากไหน
จึงเหมาเอาเองว่ามนุษย์โลกเกิดจาก “ความมืด”
ที่มองว่าเป็นความมืดเพราะตนเองมิอาจรู้เห็นได้
พวกนี้จะมองว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์มีชีวิตที่โง่ง่าย
เพราะเป็นเผ่าที่ถูกชักจูงด้วยกิเลสได้แสนง่าย
จึงเชื่อสนิทใจว่าความมืดเป็นเหตุให้มนุษย์โง่
ทั้งๆที่ใครมีปัญญาก็จะคิดรู้ได้เองว่าใครโง่กันแน่
เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า
จิตวิญญาณมนุษย์เป็นใครมาจากไหน
ไม่รู้ว่าพวกท่านมาเกิดบนโลกกันทำไม
ไม่รู้ว่าพวกท่านมีหน้าที่ต้องทำอะไรกันบ้าง
จึงมองมนุษย์โลกว่าต่ำต้อยด้อยกว่าพวกเขา
โง่ก็โง่ฉลาดก็ไม่ฉลาดขยันออกลูกแถมอายุสั้น
จึงมองว่ามนุษย์เป็นเหมือนผู้ที่เกิดมาเพื่อตาย
พวกท่านทำตนเป็นทรากศพ (Corpse) เดินได้
เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า
ดาวเคราะห์โลกเป็นดาวแห่งทางเลือกเสรี
จึงมีธรรมชาติแวดล้อมที่ต่างกันอย่างหลากหลาย
มนุษย์เองก็มีลักษณะนิสัยบุคลิกที่แตกต่างกันไป
ที่พระบิดาทรงออกแบบให้มนุษย์ใช้เป็นเงื่อนไข
เพื่อการยกระดับ #จิตตปัญญา ของจิตหยาบ
ให้สั่นสะเทือนสูงขึ้นทางด้านบวกด้วยตนเอง
โดยใช้ความแตกต่างทั้งเป็นคู่และหลากหลาย
ให้เป็นประโยชน์ต่อภารกิจในการเลื่อนมิติที่ว่านี้
โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาแทรกแซงหรือทำแทน
ซึ่งพวกท่านก็รู้กันอยู่ว่าแม้แต่แฟนก็ทำแทนมิได้
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
ปฏิบัติการชำระโลกครั้งสุดท้ายในปลายยุคนี้
จะยังผลให้โลกเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงกว่าครั้งใดๆ
ในพระคัมภีร์จิตจักรวาลเกี่ยวกับ #วันพิพากษา
ที่จะเปิดเผยแผนปฏิบัติการชำระโลกของพระเจ้า
ซึ่งเราจะนำมาบันทึกไว้เป็นภาคสองในอนาคต
ให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้กันล่วงหน้านั้นต้องมีแน่
นับแต่นี้ไปจงเลิกใส่ใจในเรื่องที่มิใช่หน้าที่
อย่าเป็นทาสของกิเลสกับความอยากรู้อยากเห็น
ถ้าพลังจิตไม่เข้มแข็งก็จะถูกจูงจิตด้วยฤทธิ์มาร
ถ้าอำนาจทางปัญญายังอ่อนด้อย
ก็จะถูกน้าวโน้มให้หลงเชื่อตามเพราะถูกจริต
เช่นบอกว่าพระพุทธเจ้าสื่อมาจากเบื้องบน
ให้พวกท่านทำโน่นนั่นนี่ตามที่พวกเขาต้องการ
เพราะพวกท่านเชื่อพระพุทธเจ้าและรักพระองค์
ก็จะคล้อยตามการชักจูงของเขานั้นอย่างว่าง่าย
เพราะพวกนี้ไม่เคยตายไม่เคยนิพพานกลับบ้าน
จึงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระพุทธองค์ทรงอยู่ที่ไหน
แต่ก็จะใช้ความเชื่อในพระองค์มาเป็นเครื่องมือ
ถ้าท่านลืมพิสูจน์ความจริงว่าใช่พระองค์จริงหรือ
ก็จะพากันคล้อยตามนั้นอย่างว่าง่ายทันที
ในพระไตรปิฎกก็มีบันทึกไว้ว่า
ถ้าทรงดับขันธปรินิพพานไปจากโลกแล้ว
ไม่มีเทพเทวดาและมนุษย์คนไหนในจักรวาล
จะได้แลเห็นพระองค์กันอีกตลอดไป
พระจิตวิญญาณของพระองค์จะไม่กลับมาเกิดอีก
เพราะทรงเสด็จคืนสู่ผู้อิ่มเอิบอยู่กับความว่าง
นอกระบบเอกภพหรือนอกอนันตจักรวาล
ซึ่งพวกมอดมารต่างเผ่าจำไม่ได้และไม่เคยกลับ
โดยมิทรงมีภารกิจอะไรจักต้องกระทำต่ออีกแล้ว
ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
เพื่อสร้างสติทางวิญญาณให้แก่ท่านทั้งหลาย
ด้วยพระเมตตาจากพระจิตแห่งจักรวาล
ที่ทรงประทานผ่านเรามา ณ เพลาอันวิกฤตนี้
ความโง่ง่ายดื้อรั้นดันทุรังไม่เอาถ่านไม่เอาไหน
เป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้นกลับบ้านของท่าน
อะไรมิใช่หน้าที่ก็จงอย่าหาทำอย่าหามาใส่หัว
สิ่งใดเป็นหน้าที่ก็จงรีบทำให้สำเร็จลุล่วงเถิด
พิบัติภัยกำลังเดินทางมายังประตูบ้านท่านแล้ว
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
8/04/2022
