พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในปลายยุคพลังงานเก่า (The End of Old Age) นี้
มนุษย์โลกโดยรวมมีจิตสามนึกตกต่ำเกินเยียวยา
เพราะไม่สามารถยกระดับจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
ให้สูงขึ้นทางด้านบวกจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับแก่นแท้คือ #จิตวิญญาณ ของตนเองได้
อันหมายถึง “คนตนเอง” เพื่อเป็น “มนุษย์” ไม่ได้
เมื่อจิตวิญญาณมาเกิดแล้วไม่อาจเป็นมนุษย์ได้
ภารกิจหลักในการร่วมกันผลิตพลังไฟฟ้าด้านบวก
ในรูปของ #ความรักเพื่อให้ ของชาวดาวโลก
ในช่วงปลายยุคพลังงานเก่ามาจนกระทั่งถึงวันนี้
จึงล้มเหลวจนมิอาจค้ำจุนโลกให้สมดุลดังเดิมได้
โดยพวกท่านจะสังเกตได้จากภัยพิบัติต่างๆ
ที่มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลกถี่ขึ้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุหมุนรุนแรง
อุทกภัย ดินฟ้าอากาศวิปริตแปรปรวน พายุหิมะ
พายุลูกเห็บ คลื่นอากาศร้อน คลื่นอากาศหนาว
ไฟป่าลุกลาม สึนามิ โรคระบาด เป็นต้น
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริงเหล่านี้
มีสาเหตุแห่งการเกิดรวมทั้งสิ้น 3 ประการ
แต่หนึ่งในสามประการที่ว่านี้ก็คือ
เกิดจากโลกขาดพลังงานความรักอันบริสุทธิ์
ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จากการสั่นสะเทือนจิตสามนึกโดยรวมของชาวโลก
ที่พึงจะมอบจะมีให้แก่กันและกันตามพันธสัญญา
ตั้งแต่ก่อนจะมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติแรกแล้ว
เมื่อมนุษย์โลกโดยรวมไม่สามารถ
ใช้ความรักอันศักดิ์สิทธิ์จากจิตสามนึกของตน
ผลิตพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กในแบบที่โลกต้องการ
ด้วยเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิง
ในพระนามพระเจ้าผู้ทรงอนุญาตให้มาทำหน้าที่ได้
โลกจึงเสียสมดุลเพราะตัวแทนพระเจ้าเหลวไหล
เพราะจิตสามนึกตกต่ำและไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่
ในพันธะสัญญา 6 ที่ได้ให้สัจจะไว้ต่อพระบิดา
เพราะมนุษย์ไม่รู้ว่าตนเป็นตัวแทนของพระเจ้า
ไม่รู้ว่าจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนผู้ขันอาสาเข้ามา
เกิดเป็นคนสองมิติอยู่ในระบบดาวโลกเสรีดวงนี้นั้น
ก็เพื่อใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์สองมิติ
ผลิตสร้างพลังงานไฟฟ้าด้านบวกมอบให้แกนโลก
ตามแผนการที่พระเจ้าหรือพระบิดาทรงออกแบบไว้
เพื่อพิสูจน์ทดลองว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่
โดยมิต้องทรงลงพระหัตถ์กระทำด้วยพระองค์เอง
ซึ่งพระองค์ได้ทรงพิสูจน์ว่าเป็นจริงได้ตามแผน
ตั้งแต่ยุคของพลียะเดี้ยนส์จากกลุ่มดาวพลียะดิสแล้ว
เมื่อมาถึงยุคของมนุษย์เผ่าดาวโลกเสรีในปัจจุบัน
ปัญหานั้นมิใช่แผนการออกแบบของพระองค์ล้มเหลว
แต่เป็นเพราะมนุษย์โลกเองไม่ปฏิบัติการไปตามแผน
ความล้มเหลวในภารกิจของพระเจ้าจึงบังเกิด
ท่านต้องรู้ว่าความหายนะของดาวโลกและเอกภพ
รวมทั้งทุกสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ในอนันตจักรวาลนี้
จะเสียสมดุลจนแตกสลายหายไปจนหมดสิ้นทันที
ถ้าพระบิดาทรงยอมให้ดาวโลกดวงเดียวที่สำคัญ
สูญเสียความสมดุลไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
เพราะดาวโลกเป็นผู้ค้ำจุนความสมดุลของเอกภพ
โดยมีมนุษย์เป็น “เพื่อนร่วมงาน” ของดาวโลก
วิธีการสร้างสมดุลให้แก่ดาวโลกดวงนี้ก็คือ
ต้องร่วมกันผลิตพลังงานในแบบที่โลกต้องการ
โดยใช้ความรัก ความเมตตา อดทน อดกลั้น อภัย
มอบให้แก่กันและกันในทุกเงื่อนไขในทุกกรณี
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขดีชั่วบวกลบถูกผิดต่อกันก็ตาม
ซึ่งพวกท่านจะตอบสนองกันด้วยความรักแบบนี้ได้
ก็ต้องปิดกั้นกิเลสมารในเวทนาขันธ์ของขันธ์ห้า
โดยใช้ “ธรรมชาติสมาธิ” หรือที่เรียกว่า #มหาสติ
คอยกำกับควบคุม “สภาวะจิต” ให้สมดุลไว้ให้ได้
เพื่อให้เวทนาขันธ์ที่มีความรักของพระบิดาบรรจุอยู่
ถูกนำออกมามอบให้แก่ทุกคนได้อย่างไร้อุปสรรค
นอกจากนั้น “มหาสติ” หรือธรรมชาติสมาธิ
ยังจะช่วยให้ท่านเข้าถึงพลังอำนาจทางปัญญา
ในการคิดรู้ด้วยกลไกกระบวนการของสมองสองซีก
เพื่อตอบคำถามตนเองได้อย่างง่ายดายยิ่งว่า
จะมอบความรักให้คนที่ทำตัวไม่น่ารักได้อย่างไร
จะให้อภัยแก่คนที่ทำตัวไม่น่าอภัยได้อย่างไร
แทนการตอบสนองด้วยอารมณ์ขยะรายวัน
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราจะบอกความจริงให้ท่านรู้ว่า
มนุษย์โลกอย่างพวกท่านมีความน่าเห็นใจยิ่ง
ที่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าตนนั้นถูกรังแกถูกทำร้าย
หลากหลายสาระพัดวิธีมาตั้งแต่หลายหมื่นปีแล้ว
โดยเฉพาะการถูกตัดต่อ DNA ที่บริเวณก้านสมอง
ซึ่งเป็น DNA ของพระเจ้าด้วย DNA ของสัตว์ร้าย
ซึ่งก้านสมองเป็นที่ตั้งของ #จิตสัญชาติญาณ
ที่เป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณในมนุษย์ทุกคน
ที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับ “จิตหยาบ” ตัวแทนของตน
ในการส่งสัญญาณเตือนพิเศษที่จิตหยาบไม่รู้
เช่น ความหิว ความง่วง ความกระหาย เหนื่อยล้า
ความมีอันตราย ความเจ็บปวด ความไม่ปลอดภัย
ความไม่หมาะไม่ควรกระทำ ความฉุกคิด เป็นต้น
เพื่อช่วยให้จิตหยาบไม่ผิดพลาดพลั้งเผลอ
จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตหรือพิการในกรณีที่ไม่ควร
เพราะความประมาทขาดสติที่มิใช่กฎแห่งกรรม
พวกศัตรูของมนุษย์โลกทำร้ายมนุษย์
ด้วยการสร้างกลไกสกัดกั้นจิตหยาบ
มิให้เข้าถึงจิตวิญญาณได้ตามที่ทรงกำหนดไว้
ด้วยการใส่กิเลสมารไว้ในเวทนาขันธ์ซึ่งเดิมไม่มี
เพื่อให้พลังกิเลสนำไปเชื่อมต่อกับก้านสมอง
อันเป็นที่ตั้งของสัญชาติญาณที่มี DNA ของสัตว์
ซึ่งถูกตัดต่อเติมเต็มเอาไว้แล้ว
นี่จึงเป็นที่มาของความล้มเหลวในภารกิจ
ที่จิตวิญญาณมนุษย์มิอาจเข้าถึงได้ง่ายๆ
ถ้าจิตหยาบของมนุษย์หมกมุ่นอยู่กับกิเลส
โดยถูกสอนให้เสพ “กิเลสมาร” จนเป็นอาจิณ
ด้วยความชั่วร้ายของประดามอดมารดังกล่าว
มนุษย์โลกจึงกลายเป็นคน “โง่ง่าย” แถมด้วย
การที่พวกท่านเป็นคนโง่ง่าย งมงาย
เป็นคนกิเลสหนา ตัณหาจัด
เพราะพวกศัตรูของพระเจ้าในคราบมนุษย์
ขยันผลิตสร้างวัตถุเท็คโนโลยี
คิดสร้างอบายมุข สิ่งเสพติด โฆษณาชวนเชื่อ
เพื่อกระตุ้นให้เวทนาขันธ์ในขันธ์ห้าตื่นตัวง่ายๆ
จนยังผลให้มนุษย์ “หมุนธรรมจักร” ไม่สำเร็จ
เปลี่ยนไปหมุน “กรรมจักร” ที่ชั่วร้ายแทน
มนุษย์ส่วนมากในปัจจุบันจึงมีจริตวิปริตมาก
ทั้งโง่ ทั้งบ้า ทั้งงมงาย ลุ่มหลง ทั้งเลอะเทอะ
อันเกิดจากการขาดสติและความรักที่พึงมีต่อกัน
จนหลายคนมีอาการโง่โดยไม่รู้ตัวว่าโง่กันแล้ว
เราขอถามท่านทั้งหลายว่า
ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ทำให้แผนการของพระเจ้า
ต้องมีอันล้มเหลวไปกับเขาด้วยอีกหรือไม่
ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ยอมตกอยู่ภายใต้การครอบงำ
ของพวกศัตรูมนุษย์ที่เป็นอริกับพระเจ้าต่อไปไหม
ท่านจะยอมเป็นทาสมารซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามพระบิดา
เพื่อเป็นต้นไม้ที่จะถูกถอนทิ้งเพราะมิได้ทรงปลูกไว้
หรือจะเป็นวัชพืชขึ้นอยู่ในนรกที่จะถูกเผาทำลายทิ้ง
ล้วนเป็นท่านทั้งหลายจักต้องพิพากษาตนเองแล้ว
ในขณะที่เวลาแห่งการตัดสินใจยังคงพอมีเหลืออยู่
จงอย่าไปสับสนวุ่นวายหลงไหล
ในแผนการจูงใจของมอดมารกันต่อไปอีกเลย
หน้าที่พวกท่านคือนำพาจิตวิญญาณกลับบ้าน
ด้วยการนิพพานกิเลสมารซึ่งเป็นอุปสรรคของท่าน
ในการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณในตัวท่านเองให้สิ้น
ถ้าท่านดับการเกิดดับของกิเลสมารในขันธ์ห้าได้
ขันธ์ทั้งห้าก็จะสะอาดบริสุทธิ์เหมาะที่จะนำมาใช้
ถวายงานศักดิ์สิทธิ์สมพระเกียรติแก่พระผู้เป็นเจ้า
ในการประทานความรักให้แก่โลกและทุกสรรพสิ่ง
ในพระนามของพระองค์ซึ่งเป็นพระบิดาของท่าน
ก่อนกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าในเร็วๆนี้ได้เสียที
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11/04/2022
