16 เมษายน 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 16/04/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ศัตรูของมนุษย์โลกผู้ตั้งตนเป็นอริกับพระบิดา
ได้ปฏิบัติการทำร้ายมนุษย์เพื่อต่อต้านพระองค์
นับแต่พวกเขาพากันบุกรุกเข้ามายังดาวโลกดวงนี้
เมื่อนานหลายหมื่นปีมาแล้ว

โดยพวกเขาได้ตัดต่อดีเอ็นเอของสัตว์ร้าย
เอาไว้กับดีเอ็นเอของพระเจ้าที่มีอยู่แต่เดิม
ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ตรงท้ายทอยที่เรียกว่าก้านสมอง (Brain Stem)
ซึ่งเดิมทีพระบิดาทรงติดตั้งไว้ให้จิตวิญญาณ
ตัวตนแก่นแท้ของมนุษย์แต่ละคนเป็นผู้ใช้งาน
เพื่อคอยเตือนให้จิตหยาบรักตัวกลัวตายไม่เสี่ยง
จนทำให้จิตวิญญาณต้องตายหรือร่างกายบาดเจ็บ

แต่เมื่อศัตรูของมนุษย์แอบมาผ่าตัดดัดแปลงไป
เพื่อให้ก้านสมองซึ่งเป็นที่ตั้งของจิตสัญชาตญาณ
เรียกว่า Reptilian Brain หรือ Dinosaur Brain
ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับหรือบงการให้จิตหยาบ
ทำตามอารมณ์รู้สึกนึกคิดก้าวร้าวแบบสัตว์ร้ายแทน
ยังผลให้จิตหยาบเข้าถึงจิตวิญญาณของตนไม่ได้
ซึ่งเดิมพระบิดาทรงติดตั้งไว้ให้เป็นระบบอัตโนมัติ
มนุษย์จึงตกเป็น #คนงาน หรือทาสของพวกมันไป

แผนการชั่วร้ายของมอดมารที่ว่านี้
มันยังผลให้มนุษย์ส่วนใหญ่โง่ง่าย
เพราะถูกหลอกล่อให้ใช้อารมณ์รู้สึกแทนปัญญา
มนุษย์จึงมีอาการจิตสามนึกตกต่ำลงมากขึ้นทุกวัน
รักไม่ได้ ให้อภัยไม่เป็น เห็นแก่ตัวและพวกตัว
มีจริตกริยาดุร้ายก้าวร้าวอาฆาตพยาบาท
หงุดหงิดงุ่นง่านฮึดฮัดดั่งสัตว์ร้ายมากขึ้นทุกวัน
จนเห็นการทะเลาะวิวาทฆ่ากันตายเป็นเรื่องปกติ
ทำให้จิตวิญญาณมีชีวิตอมตะโดยไม่ต้องตายไม่ได้
จึงต้องตกเป็นทาสกฎแห่งกรรมจึงต้องมีภพชาติหน้า
จนทำให้หนีการมีสังสารวัฏไปไม่พ้น

สิ่งแรกที่มอดมารผู้เป็นศัตรูของมนุษย์ต้องการก็คือ
พลังงานกิเลสที่ได้จากการหมุนกรรมจักรด้วยขันธ์ 5
ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านลบ
ที่พวกมอดมารศัตรูมนุษย์เรียกว่า #พลังงานแสง
ซึ่งใครที่ไม่รู้ความจริงก็อาจฟังดูแล้วหรูเริ่ดไปเลย
จึงไม่แปลกหรอกที่มนุษย์จะถูกเรียกว่า #ชาวแสง
จนเคลิ้มตามศัตรูทั้งๆที่ไม่รู้ว่าความจริงมันคืออะไร

อันโครงสร้างทางชีววิทยาของศัตรูมนุษย์นั้น
แม้จะเป็นรูปแบบเครื่องยนต์แห่งกรรมที่มีชีวิต
ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นสารโปรตีน
ทั้งดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอเช่นเดียวกับมนุษย์โลก
แต่ในมนุษย์นั้นร่างกายต้องการโปรตีนจากพืช
เป็นอาหารบำรุงดีเอ็นเอเพราะบริสุทธิ์มากกว่า
สารโปรตีนที่ได้จากเลือดเนื้อของสัตว์ประจำโลก

ถ้าดีเอ็นเอของมนุษย์
ได้รับสารอาหารโปรตีนจากพืชผักผลไม้
ตามที่พระบิดาทรงออกแบบและประทานไว้ให้
มันจะยังผลให้มนุษย์มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
มีภูมิต้านทานโรคสูง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย
จะมีชีวิตเป็นอมตะโดยไม่มีวันกำหนดให้ต้องตาย
เพราะผู้ไม่กินเลือดเนื้อของสัตว์ที่มิใช่อาหารมนุษย์
ก็คือ #ลูกแกะของพระเจ้า ที่กินขนมปังพระบิดา

ถ้าดีเอ็นเอของมนุษย์
ได้รับสารอาหารโปรตีนจากเลือดเนื้อของสัตว์
ซึ่งมิใช่อาหารบำรุงดีเอ็นเอของพระเจ้า
เมื่อมนุษย์กินอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการเข้าไป
คงจะมีก็แต่ดีเอ็นเอของสัตว์ร้ายในตัวท่านเท่านั้น
ที่มันจะกระดี๊กระด๊าเพราะพวกมันชอบเสพ
แล้วยิ่งมนุษย์คนใดขยันเสพกิเลสเพื่อสร้างกิเลส
ในรูปของพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านลบด้วยแล้ว
มนุษย์คนนั้นก็จะยิ่งตกเป็น “กรรมกร” ของมอดมาร
ที่จะคอยดูดเสพพลังงานขยะให้ตนเป็นอมตะแทน
ขณะที่มนุษย์ผู้เป็นกรรมกรแสงของมอดจะอายุสั้น

ยิ่งศัตรูผู้มาจากต่างเผ่าดาวเหล่านี้
หลอกลวงมนุษย์ว่าตนคือ #พระเจ้าของพระเจ้า
ยิ่งยังผลให้คนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าเกิดคล้อยตาม
เพราะศัตรูของมนุษย์จะใช้วิชามารคือการจูงใจ
ให้มองเห็นว่าพวกตนมีอำนาจเหนือพระเจ้า
เช่น หลอกมนุษย์ว่าจะยกระดับจิตวิญญาณ
จากมิติที่สามไปสู่มิติที่ห้าให้ได้ในไม่ช้านี้
เพราะแบบเดิมที่พระเจ้ากำหนดไว้มันคือความมืด
มนุษย์ถูกครอบงำด้วยความมืดและความแตกต่าง
ทำให้มนุษย์ทะเลาะกันทำสงครามสู้รบกันตลอด

มอดมารพวกนี้จึงขายฝันให้แก่มนุษย์โลกว่า
พระเจ้าของพระเจ้าหรือพระบิดาของพระเจ้า
จะเปลี่ยนโลกเก่านี้ให้เป็นโลกใหม่ที่เหนือกว่าเดิม
โดยมนุษย์จะเป็นหนึ่งเดียวกัน จะมีศาสนาเดียวกัน
จะมีประเทศเดียวกัน จะมีความคิดเดียวกัน
จะมีผู้นำโลกคนเดียวกัน จะมีวิถีชีวิตแบบเดียวกัน
โดยไม่เคยบอกมนุษย์ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร
จึงจะบันดาลให้ทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวตามที่ว่านั้นได้
แต่คนโง่ง่ายก็เชื่อตามศัตรูเหล่านี้ไปตั้งมากแล้ว

ท่านทั้งหลายจะรู้หรือไม่ว่า
ทำไมพวกมอดมารศัตรูของมนุษย์โลก
จึงหาญกล้ากล่าวต่อมนุษย์ว่าพวกตนนั้น
เป็นพระบิดาของพระเจ้าหรือพระเจ้าของพระเจ้า
เหตุผลสำคัญมีดังนี้ คือ

1.เพราะพวกเขาไม่เคยรู้จักพระเจ้าของมนุษย์
ทั้งๆที่พระเจ้าคือพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในเอกภพ
ไม่เว้นแม้แต่การทรงสร้างพวกเขาขึ้นมาด้วย
จึงหลงผิดคิดว่าพระเจ้าไม่มีจริงจึงไม่เชื่อพระเจ้า

ที่พวกนี้ไม่รู้จักพระเจ้าพระบิดาของตนเอง
เพราะรูปธรรมมีชีวิตในต่างเผ่าดาวเหล่านี้
ไม่เคยมีพระบุตรเอกของพระบิดาหรือพระเจ้า
ถูกส่งเข้าไปจุติบนดาวของพวกเขา
เพื่อกล่าวพระโอวาทในพระนามของพระเจ้า
แล้วกล่าวความจริงระดับอนุตรธรรมให้ได้รู้

เพราะพวกเขาไม่มีหน้าที่จะต้องรู้เหมือนมนุษย์
พระองค์จึงต้องมีพระบัญชาให้เรากลับมา
กล่าวอนุตรธรรมให้ได้รู้เพราะมนุษย์รู้เองไม่ได้
ถ้าไม่รู้อนุตรธรรมมนุษย์ก็จะทำหน้าที่ไม่ได้
เมื่อทำหน้าที่ของตนไม่ได้ภารกิจก็ล้มเหลว
การเสียสมดุลครั้งใหญ่จนอาจถึงขั้นแตกสลาย
ทั้งของทุกสรรพสิ่งในเอกภพรวมทั้งมนุษย์ด้วย
ก็จะบังเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จิตวิญญาณของพวกท่านก็จะหลุดพ้นไม่ได้
การแตกสลายทางจิตวิญญาณของพวกท่าน
จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประดาสิ่งที่ทรงสร้าง
พระบิดาจึงมิทรงยอมให้เกิดขึ้น

แต่สำหรับพวกสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่นนั้น
พวกเขาเป็นแค่ “สิ่งทดลอง” ของพระองค์
ในการกำหนดสร้างรูปธรรมมนุษย์ที่ดีที่สุด
ให้เหมาะสมต่อการเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวโลก
เพื่อค้ำจุนโลกและค้ำจุนห้องทดลองขนาดใหญ่
ที่เรียกว่า #อนันตจักรวาล ให้คงมั่นนิรันดรเท่านั้น

2.เพราะศัตรูของมนุษย์โลกพวกนี้
อิจฉามนุษย์ที่มีตัวตนรูปลักษณ์สมส่วนสวยงาม
ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเสรีภายในระบบโลก
ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย
ทุกคนอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมที่ไม่รู้ว่าใครควบคุม

จิตวิญญาณมนุษย์มีนรกเอาไว้รักษาอาการหลงมิติ
โดยสามารถตายจากการเป็นมนุษย์ไปลงนรกได้
เมื่อรักษาหายแล้วยังได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่อีก
ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นไปอย่างนั้นได้อย่างไร
แต่พวกเขาก็แอบเชื่อว่ามนุษย์โลกต้องมีอำนาจเหนือ
คอยกำกับดูแลและควบคุมทุกอย่างอยู่แน่นอน
พวกเขาจึงมองว่าพระเจ้าของมนุษย์ก็คือความมืด
ขณะที่พระเจ้าผู้ให้กำเนิดพวกตนก็คือ “แสงสว่าง”
โดยแสงสว่างของผู้ให้กำเนิดกายและจิตวิญญาณนี้
พวกตนเรียกว่า #ธาตุรู้อมตะ เป็นผู้สร้างให้ตนเกิด
ซึ่งธาตุรู้อมตะก็คือ #พลังงาน ที่ล่องลอยในจักรวาล
มารวมตัวกันจนเกิดเป็นตัวตนของสิ่งมีชีวิตขึ้น
เห็นหรือไม่ว่าเมื่อไม่รู้ความจริงของชาติกำเนิด
แม้จะฉลาดเพราะเกิดมานานยังไงๆก็ต้องเดาเอา

น่าเสียดายยิ่งนัก
ขณะที่มนุษย์มีพระศาสดาผู้เสด็จมาจากพระเจ้า
มีพระบุตรเอกที่พระบิดาประทานมาให้โลก
เพื่อบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดของจิตวิญญาณ
เพื่อมากล่าวพระโอวาทในพระนามของพระเจ้า
แต่มนุษย์กลับปฏิเสธพระเจ้าปฏิเสธพระบุตรเอก
ทำเหมือนจิตวิญญาณตนเองมาจากรูกระบอกไม้ไผ่
ทั้งๆที่จิตวิญญาณมนุษย์มีชาติกำเนิดที่สูงส่ง
มิใช่ผู้พเนจรร่อนเร่พลัดหลงเข้ามาเกิดโดยบังเอิญ
ทั้งๆที่เป็นคนมีปัญญามีเหตุผลแต่ไม่ฉลาดที่จะใช้
ตรงข้ามกับพวกมอดมารซึ่งบากบั่นที่จะรู้ให้ได้
เมื่อไม่มีใครบอกความจริงให้พวกเขารู้ก็ต้องเดาเอา

เพื่อให้ชาติกำเนิดของตนมันสูงส่งศิวิไลซ์
พวกเขาจึงเลือกที่จะเดาว่าพวกตนเกิดจากแสงสว่าง
เพราะในจักรวาลนี้แสงสว่างยังไงก็ดีกว่าความมืด
พวกเขาจึงเชื่อของพวกเขากันมาอย่างนั้น
โดยหยิบยื่นความต่ำชั้นให้กับมนุษย์ทั้งหลายว่า
มนุษย์เป็นผู้อยู่ใต้อำนาจการปกครองของความมืด
ความมืดจึงเป็นพระเจ้าซึ่งเป็นพระผู้สร้างมนุษย์
ทำให้ต่างดาวอย่างพวกตนจึงสูงส่งกว่ามนุษย์

3.เพราะพวกศัตรูจากต่างแดนดาวเหล่านี้
มีอำนาจเหนือมนุษย์ในทุกศาสตร์ทุกแขนง
ทั้งยังฉลาดกว่ามนุษย์ที่มีสมองถึงสองซีก
ซึ่งมีทั้งจิตหยาบและจิตวิญญาณในการขับเคลื่อน
ขณะที่พวกตนมีสมองแค่ก้อนเดียวเท่านั้น
โดยมีสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายคอยบังคับการคิด
พวกตนก็ยังฉลาดเหนือกว่ามนุษย์โลกหลายขุม
พลังจิตก็เหนือกว่า พลังทางปัญญาก็เลิศล้ำกว่า
พลังความสามารถก็ยอดเยี่ยมไร้เทียมทานกว่า
จึงพยายามจะให้มนุษย์โลกยอมรับตนเป็นพระเจ้า

ด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงคนที่โง่ง่าย
ให้ช่วยผลิตพลังงานกิเลสป้อนพวกตน
โดยสร้างเงื่อนไขยั่วกิเลสทุกวิถีทางที่มนุษย์ชอบ
เช่น สร้างวัตถุเท็คโนโลยีขึ้นมาล่อให้อยากเสพ
เผยแพร่ลัทธิวิชามารที่ลึกลับซับซ้อนดั่งมายากล
เมื่อทำตามแล้วเกิดผลแต่ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าคืออะไร
เพื่อหลอกให้มนุษย์งมงายจะได้ปิดกั้นการใช้ปัญญา
ให้หันมาฝักใฝ่หลงไหลในอุตริฤทธิปาฏิหาริย์แทน

ถ้ามนุษย์โง่ง่ายมากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะมีอำนาจเหนือนำได้มากเท่านั้น
ที่สำคัญก็คือพลังงานกิเลสจากจิตมนุษย์
เป็นคลื่นความถี่ชนิดเดียวกับอำนาจแม่เหล็กโลก
เพียงแต่พลังกิเลสมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นลบ
ซึ่งดาวโลกไม่ต้องการแต่พวกมอดมารต้องการ

ถ้าพวกเขาทั้งหลายไม่มีพลังงานในตนเอง
ที่สามารถโต้ตอบกันกับสนามแม่เหล็กโลกได้
พวกเขาก็จะใช้ชีวิตอยู่ในระบบโลกนี้ต่อไปไม่ได้
ทุกตัวตนจะต้องตายเพราะเซลล์อวัยวะร่างกายเสื่อม
เนื่องจากพระบิดาทรงสร้างกายสังขารพวกเขา
ให้โต้ตอบสนามแม่เหล็กเฉพาะดาวของตนเท่านั้น

ถ้ามนุษย์ทั้งโลกไม่รับฟังสิ่งที่เรากล่าวนี้
ยังคงโง่ง่ายยังเสพติดกิเลสและยังหลับมิรู้ตื่นอยู่
ทั้งมนุษย์และโลกจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
เพราะศัตรูของมนุษย์ผู้บุรุกมาจากต่างเผ่าดาว
มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะมากจนเกินกว่าจะรู้เท่าทัน
ทั้งรูปร่างหน้าตาก็เหมือนมนุษย์จนแยกไม่ออกด้วย

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
16/04/2022