สนทนาประสาจิตจักรวาล
07/03/2021
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ถ้าขั้วต่างทางไฟฟ้าของดิจิตัลลิส
ที่อยู่ในนิวคลิโอไทด์ของเซลอวัยวะร่างกาย
มีความสมดุลกันกับ อำนาจแม่เหล็กโลก
เซลอวัยวะร่างกายของมนุษย์ทุกเซล
จะสามารถได้รับ พลังงานจักรวาล
ตามสัดส่วนของแม่เหล็กที่เกิดจากการเหนี่ยวนำ
ของเส้นใยเกลียวแม่เหล็กในแต่ละเซล
สอดคล้องกับ กรรมเก่า ของแต่ละคน
ได้อย่างถูกต้องสอดคล้องกันเสมอ
คำสั่งที่ถูกต้องที่ว่านี้จะเกี่ยวข้องกับ
การกระตุ้นให้เซลนั้นๆมีการเจริญเติบโต
ให้เซลนั้นมีการฟื้นฟูตนเอง
และให้เซลนั้นๆป้องกันตนเองจากเชื้อโรคร้าย
โดยใช้พลังงานจากการเผาผลาญสารอาหาร
ที่พวกท่านบริโภคกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม
ซึ่งมันจะเป็นไปตามรหัสบุรพกรรม
ที่ถูกกำกับไว้ทุกประการ
ความเสื่อมโทรมของสังขารร่างกาย
จะสอดคล้องกันกับรหัสพันธกรรมเพื่อการเจ็บป่วย
และเพื่อการตายตามวันเดือนปีที่คำนวนไว้
จะเป็นไปตามนั้นอย่างไม่ผิดพลาด
ถ้าจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านใดก็ตาม
ไม่มีอำนาจกรรมเก่าใดๆติดตัวมาเกิดเป็นมนุษย์ด้วย
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ ของท่านนั้น
ก็หมดหน้าที่ๆจะต้องตายหรือไม่สิ้นอายุขัย
จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นอมตะชั่วนิรันดร์
จนกว่ามนุษย์ท่านนั้นจะพอใจ
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายได้รู้ว่า
กระบวนการทางไฟฟ้าในร่างกายท่านทั้งระบบ
ถ้าไม่มีกระบวนการทางไฟฟ้าเคมี
ที่เกิดจากกระบวนการอื่นระบบอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
พลังแสงออร่า ที่เปล่งกระกายรอบๆร่างกายท่าน
จะมีสีม่วง คราม หรือน้ำตาลค่อนไปทางสีเข้มเสมอ
ซึ่งแสงสีเหล่านี้จะเป็นสีสันเดียวกัน
กับคุณสมบัติของจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้
ของเครื่องยนต์แห่งกรรมของมนุษย์คนนั้นนั่นเอง
การที่สีสันของแสงออร่าผิดแผกออกไปจากนี้
โดยที่เวลาต่างกันสีสันจะเปลี่ยนไปไม่คงที่
เนื่องจากภายในกายสังขารมนุษย์
มีกลไกสำคัญในการสร้างคลื่นไฟฟ้าเคมีได้เอง
ซึ่งเป็นกลไกทางไฟฟ้าอีกระบบหนึ่ง
นั่นคือ กลไกทางจิตสามนึก กลไกอิสระที่สำคัญ
ในการสร้างคลื่นการคิดรู้กับอารมณ์รู้สึกต่างๆ
เพื่อใช้ในการผลักดันให้เกิดการกระทำ
ทั้งในมิติโลกและในมิติทางพลังงานด้วย
การสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกของมนุษย์
เมื่อเกิดอารมณ์รู้สึกกับการนึกคิดต่างๆในขณะนั้น
คลื่นไฟฟ้าจะมีความเข้มข้นสูงมาก
ตั้งแต่จุดศูนย์กลางคือสมองลงมาถึงช่วงหน้าอก
จนทำให้เปล่งสีสันออกมาภายนอก
เกิดเป็นสีสันต่างๆอย่างหลากหลาย
สีสันที่วัดได้แปลความหมายจาก
คลื่นพลังงานความร้อนแรง
ตามคุณสมบัติทางความถี่
ของคลื่นกระแสไฟฟ้าโดยรวมในร่างกายขณะนั้น
ที่เปล่งออกมาภายนอกนั่นเอง
ถ้าท่านต้องการจะตรวจวัดว่า
กลไกอวัยวะร่างกายของท่านขณะยังมีชีวิตอยู่
มีคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กไหลเวียนตลอดเวลาจริงหรือไม่
ก็สามารถตรวจวัดตรงปลายนิ้วมือนิ้วเท้าได้ทุกนิ้ว
เพราะเป็นปลายทางสุดท้ายของการเคลื่อนไหล
ภายในอวัยวะร่างกายของมนุษย์ทุกคน
อันเป็น จุดสิ้นสุดของการเดินทาง ของมันนั่นเอง
ดังนั้น
ในสภาวะจิตใจปกติเปี่ยมด้วยความรักเมตตา
พลังงานออร่าที่เปล่งออกมาจะเป็นสีขาวสดใส
ถ้าท่านกำลังใช้สมาธิเพื่อการคิดรู้
ด้วยการกดปุ่มใช้กลไกของสมองซีกขวา
เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับจักรวาลอยู่
พลังงานออร่าก็จะเป็นแสงสีเข้ม
ในเฉดสีม่วง คราม หรือ น้ำตาลอมเหลือง
ถ้ากำลังอยู่ในสมาธิขณะมีจิตที่สุขสงบได้
พลังงานออร่าก็จะเป็นแสงสีม่วงและสีครามผสมกัน
ถ้าท่านกำลังโกรธ กำลังเครียด กำลังหงุดหงิด
พลังงานออร่าที่เปล่งแสงออกมาในขณะนั้น
จะเป็นสีแดงเข้ม
ถ้าท่านกำลังโศกเศร้าเสียใจ
พลังงานออร่าที่เปล่งออกมาจะเป็นแสงสีน้ำเงินเข้ม
ถ้าท่านกำลังวิตกกังวล หม่นหมองใจ
พลังงานออร่าที่เปล่งแสงออกมา
ก็จะเป็นสีเทาหรือสีดำ
ด้วยเหตุนี้เอง
ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
เครื่องยนต์แห่งกรรมหรือกายสังขารของท่าน
ที่มันสามารถทำงานหรือทำหน้าที่ของมันได้
เพื่อการมีชีวิตอยู่หรือมีชีวิตรอดนั้น
นอกจากจะต้องหล่อเลี้ยงด้วยธาตุอาหารบริโภค
เพื่อสร้างพลังงานชีวิตเพื่อการเติบโตและดำรงอยู่แล้ว
มนุษย์ยังต้องอาศัยพลังงานพื้นฐาน
ที่ได้จาก "พลังงานจักรวาล" ในมิติคู่ขนานด้วย
โดยจะขาดพลังงานด้านใดด้านหนึ่งมิได้
การที่มนุษย์เข้าใจว่า
การหาหนทางรับเอาพลังงานจักรวาล
เข้าสู่ระบบร่างกายของตนได้มากๆ
จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของตน
หรือจะเพิ่มพลังอำนาจใดๆในตนเองให้มากขึ้นได้
มันเป็น "ความเชื่อ" ที่งมงายไม่ถูกต้องตรงจริง
เพราะว่ามนุษย์ไม่มีทาง
ที่จะแก้ไขเส้นใยเกลียวแม่เหล็กให้มันเปิดรับ
พลังงานจากจักรวาลเกินจากสัดส่วนที่กำกับไว้ได้
ไม่ว่าจะใช้พลังจิตที่ฝึกฝนมาอย่างดีปานใดก็ตาม
มนุษย์ไม่มีวันที่จะก้าวล่วงกระบวนการทางเท็คนิก
ในระดับไมโครที่เราเปิดเผยมาให้รู้นี้ได้เลย
นี่จึงเป็นความจริงระดับ "อนุตรธรรม"
อีกบทหนึ่งแล้วที่มนุษย์ไม่รู้ว่าไม่รู้แต่ต้องรู้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
7/03/2021