24 ธันวาคม 2563

สนทนาประสาจิตจักรวาล 24/12/2020

สนทนาประสาจิตจักรวาล

24/12/2020



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ถ้าท่านปรารถนาจะนำพาจิตวิญญาณของท่าน
สู่การหลุดพ้นนิพพานไปจากอนันตจักรวาลแล้ว
ท่านจักต้องดูแลจิตหยาบหรือจิตมนุษย์ให้ดีๆ
ด้วยการยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงสุดด้านบวก
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณให้ได้

ท่านทั้งหลายจะทำสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ
ท่านต้องรักให้ได้ อภัยให้เป็น ไม่ก้าวล่วงใคร
ท่านต้องละวางโลภะ โทสะ โมหะ ราคะให้สิ้น

โดยค่อยๆยกระดับการสั่นสะเทือนของจิต
ให้สูงขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่เผชิญกับเงื่อนไขต่างๆ
ทั้งด้านบวกและลบจากคนรอบข้างทุกวันเวลา
แรกๆอาจสอบตกบ้างแต่นานวันเข้าจะก้าวหน้าขึ้น
ซึ่งมันหมายถึงต้องฝึกฝนเคี่ยวกรำนั่นเอง

นอกจากนั้น
บนเส้นทางแห่งการหลุดพ้นในชาตินี้
ตาม มรรควิถีจิตจักรวาล นั้น
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ท่านจักต้องประพฤติปฏิบัติ
นั่นคือท่านต้องไม่ก้าวก่ายล่วงเกินผู้อื่น
ไม่ว่าจะกระทำด้วยกายวาจาหรือจิตใจ
ไม่ว่าจะเกิดจากประมาทหรือขาดสติก็ตาม

เพราะมันจะเป็น "ความผิดบาป" ที่เกิดขึ้น
ทั้งในมิติโลกทางกายภาพ
และในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกันด้วย

ความผิดบาปที่เกิดขึ้นในมิติทางกายภาพ
คือพฤติกรรมขยะที่ท่านแสดงออกมาภายนอก
ซึ่งผู้ที่ถูกท่านกระทำสามารถสัมผัสรู้ดูเห็นได้
ด้วยกลไกอายตนะภายนอก เช่น ตาหรือหู
แล้วเกิดอาการเสียสมดุลทางจิตใจทันที

พฤติกรรมขยะที่ท่านกระทำต่อผู้อื่น
แล้วยังผลให้ผู้อื่นเสียสมดุลทางจิตใจ
จนเกิดอาการโกรธ เกลียด เคียด แค้น
งมงาย ลุ่มหลง เศร้าโศก เสียใจ ฯลฯ
มันคือ ความผิดบาป ของท่านทั้งสิ้น

ในขณะที่ท่านกระทำผิดบาปต่อผู้อื่น
เพราะเป็นเหตุให้เขาเสียสมดุลทางจิตใจแล้ว
ท่านยังทำผิดบาปต่อจิตวิญญาณของท่าน
ควบคู่กันไปในเวลาเดียวกันด้วย
เนื่องจากจิตวิญญาณของท่านเองนั้น
ต้องการให้ "ตัวแทน" คือจิตหยาบหรือตัวท่าน
สั่นสะเทือนจิตสามนึกเป็นด้านบวกอย่างเดียว
เพื่อแสดงออกหรือกระทำที่ถูกต้องดีงาม
ต่อเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆเท่านั้น

ดังนั้น
เมื่อใดก็ตามที่ท่านเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียสมดุล
แสดงว่าเมื่อนั้นท่านกำลังกระทำผิดบาป
ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นอยู่

ท่านทั้งหลายจึงต้องใช้ชีวิตอย่างระวัง
ท่ามกลางผู้อื่นในสังคมเดียวกันกับท่าน
จงอย่ากระทำก้าวล่วงผู้อื่น
จนเป็นเหตุให้พวกเขา "จิตตก" เสียสมดุล
เพราะท่านจะเกิดการผิดบาปขึ้นเมื่อนั้น

เมื่อเกิดความผิดบาปขึ้นไม่ว่ากรณีกรรมใด
จิตวิญญาณท่านเมื่อตายไปจากชาตินี้แล้ว
จักมีสังสารวัฏเพื่อเกิดใหม่ในภพชาติใหม่อีก
ที่เกิดใหม่ก็เพื่อกลับมาแก้ไขความผิดบาป
และชำระผลกรรมทางพลังงานที่เป็นขยะนั้นด้วย
เนื่องจากจะให้ใครอื่นช่วยชำระกรรมแทนมิได้

ท่านทั้งหลายจึงต้องรับรู้ในเรื่องนี้ไว้
มิเช่นนั้นการปิดยุคพลังงานเก่าแล้วนี้
พวกท่านจะหลุดพ้นนิพพานมิได้เลย
ถ้าหากจิตหยาบของท่านยังใฝ่ต่ำอยู่
จนไม่อาจสั่นสะเทือนในระดับเดียวกัน
กับจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของท่านเองได้

นอกจากนั้นหากท่านยังทำผิดบาปอยู่
จนทำให้คนอื่นๆ "จิตตก" เสียสมดุลอยู่เนืองๆ
พวกเขาก็จะเป็นเจ้ากรรมนายเวร
ผู้คอยฉุดรั้งจิตวิญญาณของท่านเอาไว้
ด้วยความอาฆาตโกรธแค้นหมายเอาคืนอีกด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เรากลับมาเกิดเป็นมนุษย์
ทำหน้าที่เป็นบุตรเอกของพระองค์
เพื่อฉุดพาจิตวิญญาณพวกท่านให้หลุดพ้นเท่านั้น
เรามิได้กลับมาพิพากษาคนที่ฟังพระโอวาท
แล้วไม่ยอมปฏิบัติตามแต่อย่างใด

เพราะถ้าใครไม่ยอมรับเรา ไม่ยอมฟังเรา
ไม่ยอมปฏิบัติตามโดยไม่ยอมรับคำของเรา
พระโอวาททุกพระคำที่เรากล่าวให้ท่านรู้นี่แหละ
จะพิพากษาเขาในวันสุดท้ายแห่งชีวิต

ถ้าเราไม่กลับมาสื่อสอนท่านทั้งหลาย
โลกเสรีนี้ก็คงจะไม่มีความ "ผิดบาป"
เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือความผิดบาป
อย่างไรคือสิ่งที่พระบิดาฯไม่ทรงโปรด
แบบไหนที่จะยังผลให้หลุดพ้นนิพพานไม่ได้

เดี๋ยวนี้มนุษย์โลกทุกคน
จะไม่มีข้อแก้ตัวในเรื่องผิดบาปใดๆอีก
เพราะเรากลับมาช่วยทำความไม่รู้
เรื่องความผิดบาปของท่านทั้งหลาย
ให้แจ่มกระจ่างชัดเจนแล้ว

กราบพระบาทพระบิดาฯ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24/12/2020