12 ธันวาคม 2563

สนทนาประสาจิตจักรวาล 12/12/2020

สนทนาประสาจิตจักรวาล

12/12/2020


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ขณะนี้โลกสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
ท่านทั้งหลายจักต้องเร่งส่งจิตวิญญาณ
ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่านกลับบ้าน
โดย "หลุดพ้น" ออกไปจาก อนันตจักรวาล
เพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯ
ผู้ทรงอนุญาตให้พวกท่านมาเกิดเป็นมนุษย์
ตามที่ได้ให้สัจจะต่อพระองค์ไว้

ซึ่งท่านต้องกลับให้ทันก่อนวันที่โลกจะมืด
ยาวนานถึง 56 วัน หรือ 8 ราตรีของฟ้า
อันเป็นเวลาเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่

การที่จิตวิญญาณของท่านจะหลุดพ้นได้นั้น
ท่านจะต้องไม่ก่อกรรมใหม่เพิ่มขึ้น
และต้องแก้ไขกรรมเก่าให้หมดสิ้นด้วย
หรืออย่างน้อยผลกรรมของท่านที่ติดตัวอยู่
จักต้องเหลือไม่เกิน 30% เท่านั้น

เราได้กล่าวย้ำต่อท่านทั้งหลายเสมอมาว่า
การไม่ก่อกรรมใหม่เพิ่มขึ้นของจิตหยาบ
ให้เป็นภาระบาปของจิตวิญญาณของท่านนั้น
ชีวิตประจำวันของท่านท้ั้งหลาย
จักต้องถือครอง "แก้วสองดวง" เอาไว้ให้มั่น
นั่นคือ มหาสติ กับ ปณิธานแห่งการหลุดพ้น

มหาสติ คือ ธรรมชาติสมาธิ
ที่จะช่วยให้ท่านสามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึก
เพื่อมอบพลังงานด้านบวกให้แก่คนรอบข้างได้
ด้วยความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
ไม่ว่าใครจะทำดีทำชั่วต่อตัวท่านก็ตาม
อันหมายถึงการมีปณิธานแห่งการหลุดพ้นนั่นเอง

การไม่ทำชั่วกับใคร
การไม่ทำให้ใครเสียสมดุล
มันคือการไม่ก่อกรรมใหม่เพิ่มนั่นแหละท่าน
ส่วนความรักที่ไร้เงื่อนไขนั้น
คือการสอบผ่านบททดสอบจิตสามนึก
ที่เคยสอบตกมาแล้วในอดีตชาติโดยแท้

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราจะย้ำเตือนท่านทั้งหลายไว้อีกครั้งว่า

หากท่านปรารถนาการหลุดพ้นแล้ว
ท่านจะปฏิบัติบำเพ็ญตามที่ว่ามานั้น
มันยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ท่านหลุดพ้นได้
แม้ว่าจิตวิญญาณของท่านจะใสบริสุทธิ์
และท่านจะชำระกรรมหมดสิ้นแล้วก็ตาม
แต่จิตวิญญาณของท่านก็ยังต้องตาย
เพื่อการเกิดใหม่อยู่ในระบบโลกอยู่เช่นเดิม

ถ้าท่านเชื่อในพระบิดาศรัทธาเรา
โดยก้าวตามมรรควิถีจิตจักรวาลให้มั่นคง
จิตวิญญาณท่านจะไม่ต้องตายแต่จะมีชีวิต
เพื่อเดินทางกลับบ้านไปถึงพระบิดาได้
อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคน

เราจะบอกให้ท่านรู้ว่า
ถ้าท่านจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไม่ได้
หรือท่านปฏิเสธพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ
ท่านก็ไม่ต่างจากบุตรกำพร้า
ท่านก็จะเป็นบุตรอกตัญญู
ท่านก็จะเป็นดั่งคนไร้บ้าน

เมื่อท่านเป็นคนไร้บ้าน
เป็นคนไม่มีพ่อไม่มีแม่
ท่านก็ย่อมไม่มีเหตุอันใดที่จะไปไหนต่อได้
นอกจากเวียนว่ายอยู่บนโลกเสรีนี้เท่านั้น

นอกจากนั้น
ถ้าท่านไม่รู้ว่ามรรคผลสูงสุดในการปฏิบัติธรรม
คือการเดินทางกลับบ้านของจิตวิญญาณ
เพื่อกลับไปกราบองค์จิตจักรวาล
ไปกราบพระผู้เป็นเจ้าผู้ให้กำเนิดพวกท่าน
ตามกฎหลักของจักรวาล
คือ ผู้เริ่มต้นต้องเป็นผู้สิ้นสุดเสมอ

หมายความว่า
เมื่อพระบิดาฯซึ่งทรงเป็นผู้ให้กำเนิดพวกท่าน
ทรงเป็นผู้อนุญาตให้ท่านมาทำหน้าที่
ใช้ความรักค้ำจุนโลกตราบจนบัดนี้แล้ว
จิตวิญญาณของท่านทั้งหลายก็ต้องคืนกลับ
ไปเป็นหนึ่งเดียวกันคือไปสิ้นสุดที่พระองค์เสมอ
เพราะพระองค์เป็น "ผู้เริ่มต้น" ของพวกท่าน
พระองค์จึงต้องเป็น "ผู้สิ้นสุด" ของพวกท่าน

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

บัดนี้โลกสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
ไม่มีคนนำทางคนใดจะนำพาพวกท่าน
ไปถึงพระผู้เป็นเจ้าคือองค์จิตจักรวาลได้หรอก
นอกเสียจากท่านจะก้าวตามเราไป

เพราะเรารู้ดีว่าพระองค์เป็นใคร
และไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นพระบุตรเอก
นอกจากพระองค์เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงสามารถที่จะนำพาพวกท่านหลุดพ้น
เพื่อคืนกลับไปกราบพระบาทพระองค์ได้
โดยจะไม่นำพาพวกท่าน "หลงทาง"
จงเชื่อมั่นเถิดว่า.....

ยอห์น 14:6 )
เราเป็นทางนั้น
เป็นความจริงและเป็นชีวิต
ไม่มีใครไปถึงพระบิดาฯได้
นอกจากจะมาทางเรา

กราบพระบาทพระบิดาฯ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
12/12/2020