09 ธันวาคม 2563

สนทนาประสาจิตจักรวาล 09/12/2020

สนทนาประสาจิตจักรวาล

09/12/2020



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ในปลายยุคพลังงานเก่าของโลกเสรีนี้
มีเวลาโลกเหลืออยู่เพียงน้อยนิดแล้ว
ที่จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ซึ่งเป็น "ลูกแกะ" ขององค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้เราติดตามดูแล
จักต้องเลิกก้าวตาม คนนำทางตาบอด ได้แล้ว

เพราะเหตุว่าท่านทั้งหลาย
ผู้จำเส้นทางกลับบ้านไม่ได้
โดยไม่รู้ว่าการกลับบ้าน
ด้วยการ นิพพาน เพื่อ การหลุดพ้น นั้น
ต้องดั้นด้นก้าวย่างไปทางใด
จึงต่างตกอยู่ในสภาพของ คนตาบอด
ผู้ที่มองไม่เห็นแสงสว่าง
เหมือน "คนนำทาง" ที่พวกท่านก้าวตามเช่นกัน

สภาพของคนตาบอดในที่นี้
เราหมายถึง "มองไม่เห็น" คือ ไม่รู้ว่า
เส้นทางหลุดพ้นกลับบ้านเดิมของแก่นแท้นั้น
จักต้องก้าวย่างไปทิศทางใด

นอกจากนั้นเรายังหมายถึง
ผู้ที่ขันอาสานำพาพวกท่านที่ตาบอดอยู่
ก้าวย่างไปในเส้นทางที่พวกเขาเข้าใจเองว่าใช่
ก้าวไปในเส้นทางที่พวกเขา "เดา" เองว่าถูกต้อง
ทั้งๆที่เส้นทางที่พวกเขานำพวกท่านก้าวไปนั้น
มันมิใช่เส้นทางที่ถูกต้องแท้จริงแต่อย่างใด

เหตุที่พาหลงทางเพราะว่าขาดพร่องทางปัญญา
กับขาดองค์ความรู้ที่เป็น อนุตรธรรม
ซึ่งคนนำทางต่างล้วนขาดพร่องทั้งสองสิ่งนี้

พวกคนนำทางที่ขาดพร่องทางปัญญา
เพราะมีค่านิยมเพิ่มพูนความรู้เพื่อเป็นคนเก่ง
โดยละทิ้งความต้องการพัฒนาภูมิปัญญา
จึงไม่ฝึกคิด ไม่กล้าคิด ไม่ชอบใช้ความคิด
ฝึกแต่การท่องจำเพื่อ "ทำตาม" อย่างเดียว
เมื่อถึงคราวที่ไร้ครูอยู่เคียงข้างแล้ว
พวกเขาจึงไม่อาจพึ่งสติปัญญาของตัวเองได้
เหตุเพราะไม่ชำนาญในการใช้สมองนั่นเอง

ในที่สุดแล้ว
ถ้าพวกเขาไม่พาท่าน "หลงทาง" นิพพาน
ไปขึ้นเขาวงกตลดเลี้ยวขึ้นเขาพระสุเมรุ
พาท่านขึ้นๆลงๆนานนับเป็นอสงไขยแล้ว
ยังจะนำพาพวกท่านหลงผิดไปคิดเข้าใจว่า
แดนสวรรค์มายาของประดาผู้หลุดลอย
เป็นแดนนิพพานของผู้หลุดพ้นเสียอีกด้วย
ทั้งๆที่มันเป็น นิพพานเทียมเท็จ เท่านั้น

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจึงขอย้ำต่อท่านทั้งหลายว่า

เรามาจากพระบิดาฯ
พระองค์ให้เรากลับมานำพาพวกท่านกลับบ้าน
ที่เรากล่าวต่อท่านว่า อย่าหลงทางนิพพาน
มันคือความจริงที่จริงแท้ที่เรากล่าวด้วยความรัก
เพื่อช่วยสร้างสติทางวิญญาณแก่ท่านให้ฉุกคิด
อีกทั้งยังช่วยติดอาวุธทางปัญญาให้ท่านด้วย

ถ้าท่านทั้งหลายไม่ยอมฟังเราแล้วฉุกคิด
ท่านก็จะดำเนินชีวิตอยู่ในความมืดกันต่อไป
เพราะท่านจะมีมุมมองและความเชื่อแบบเดิมๆ
เนื่องจากบนเส้นทางสู่ ด่านนภาลัย
ประตูแห่ง "การหลุดพ้น" ของจิตวิญญาณนั้น
ตลอดทางจะเต็มไปด้วยอุปสรรคและความมืด
ที่จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่านทั้งหลาย
จักต้องเผชิญมันเพื่อการข้ามผ่านหรือฟันฝ่า
ซึ่งต้องใช้ภูมิธรรมและภูมิปัญญาชั้นสูงยิ่ง

ถ้าท่านไม่ฟังเรา ไม่ยอมคิดตามเรา
ท่านจักไม่มีวันรู้ตัวว่าท่านเป็นหนึ่งในคนตาบอด
ที่ถูกคนนำทางตาบอดพาหลงทางมานานแล้ว
และปัจจุบันทั้งผู้นำกับผู้ตามก็ยังหลงทางกันอยู่
พวกท่านก็จะยังคงหลงทางกันอยู่ต่อไปอีก
จะยังผลให้เมื่อถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่านี้
จิตวิญญาณพวกท่านจักสิ้นอนาคตไปพร้อมกัน
นั่นคือจะกลับบ้านไม่ได้และจะแตกสลาย
เพราะถูกชำระทิ้งออกไปจากระบบดั่งชำระขยะ
โดยช่างเท็คนิกผู้เป็นฑูตสวรรค์ของพระบิดา

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า

(ยอห์น 8:12)
เราเป็นความสว่างของโลก
คนที่ตามเรามา
จะไม่ต้องเดินในความมืด
แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต

กราบพระบาทพระบิดาฯ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
9/12/2020