สนทนาประสาจิตจักรวาล
22/12/2020
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
กรณีกรรม "หัวร้อนทั้ง 5" ที่เกิดขึ้นนี้
หากใครคิดว่าเป็นเพราะ "จิตเรา...อยากรู้"
แสดงว่าท่านคงขาด "มหาสติ" แล้วล่ะ
เพราะท่านคงจะลืมไปแล้วว่า...
1.Fb. วิสุทธิปัญญา นี้
เป็นห้องเรียนของมนุษย์ทุกคนที่เข้ามาเรียน
2.เราเป็นผู้กล่าวพระโอวาทในพระนามพระบิดา
เรามิได้กล่าวอะไรเอาเองตามใจเรา
แต่เรากล่าวตามพระองค์
3.เรามิได้กล่าวถาม...ด้วยความอยากรู้
เพราะเรารู้ดีว่าท่านที่กดการ์ตูนหัวร้อนทั้ง 5
มิได้มีผู้ใดเจตนาให้ร้ายต่อเราแน่นอน
เรามิได้ทำอะไรตามจิตหยาบหรอกนะท่าน
ต่อให้ทั้งห้าท่านกดหัวร้อนให้เราจริงๆ
เหมือน "ผู้พเนจร" หลายคน
ที่เคยเข้ามาในห้องเรียนนี้
แล้วก้าวล่วงพระบิดาและล่วงเกินเราไว้
เรายัง อโหสิกรรม ให้มาแล้วทุกรายไป
เพราะเรารักมนุษย์ทุกคนหรือแกะทุกตัวเสมอ
แต่คำถามของเรา...ที่ยกมานี้
เป็นคำกล่าวนิ่มๆของคนที่เป็น ครู
เพื่อช่วยสร้างสติให้แก่ท่านทั้ง 5 และคนอื่นๆ
มันคือบทเรียนจากชีวิตจริง
ในกระบวนการไซโคโชว์ของเรา
ที่คนไม่เคยเข้าค่ายอบรมที่ภูกระต่าย
จะไม่มีวันรู้ไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า
ปฏิบัติการชำระจิตพัฒนามหาสติปัญญา
มันคืออะไรอย่างไร
เราหยิบยกกรณีกรรมนี้มาเพื่อเป็น บทเรียน
สำหรับคนที่ "อยากเรียนรู้" ทุกๆคน
ให้มีมหาสติและใช้มหาสติให้มากกว่าเดิม
จะได้ไม่เกิดความผิดพลาดบกพร่อง
ทั้งด้านการเรียนรู้และการดำเนินชีวิต
เพราะว่าถ้า จิต อายตนะ และสมอง
บกพร่องในการใช้มันเมื่อไหร่
จิตปัญญาของคนนั้นจะตกต่ำ ต่ำต้อย ต่ำตม
การทำผิดพลาดเช่นนี้มันจะเป็นเหตุให้
ไปเกี่ยวกรรมกับผู้อื่นจนเกิดเป็นอุปสรรคสำคัญ
บนเส้นทางของการหลุดพ้น
ตาม มรรควิถีจิตจักรวาล ในชาตินี้ไปทันที
4.ถ้าเราไม่เตือนสติพวกท่านทันทีที่พบเห็น
ปล่อยให้ท่านทั้งห้ากดหัวร้อนต่อเรากับพระบิดา
เพราะความสะเพร่า บกพร่อง ประมาท ขาดสติ
ท่านว่าเรารักพวกท่านจริงหรือ?
การปล่อยวางท่านทั้งหลายให้คิดแต่เพียงว่า
คนกดทั้งห้าคนมิได้มีใครเจตนาคิดร้ายคิดลบ
ขอให้เราอโหสิกรรมให้พวกเขาเถิด
อย่าเอาเรื่องเอาราวกับพวกเขาทั้งห้าเลย
อย่าไปโกรธเคืองพวกเขาเลย
หรือมองว่า...เราใช้จิตหยาบถามขึ้นมา
เพื่ออยากรู้ว่า "เรากล่าวล่วงเกิน" ทั้งห้าคน
ด้วยเรื่องอะไรหนอ....
ทั้งสองประเด็นนี้เป็นการนึกคิดแบบจิตมนุษย์
ถ้าเราเป็นได้แค่ที่ท่านพิพากษาเราดั่งนี้
พระองค์คงมิทรงวางใจเราให้เป็นพระบุตรเอก
เพื่อกลับมาเป็น อนุตรธรรมาจารย์ ของมนุษย์
เพราะจะเป็นแค่ บุตรโทตรีจัตวา ยังเป็นไม่ได้เลย
5.จงจำไว้ว่า...การก้าวล่วงผู้อื่นนั้น
จะเกิดได้เสมอถ้าพวกท่านแต่ละคน
5.1 จิตหยาบยังเกรอะกรังด้วยสนิมอยู่
5.2 ปัญญาของสมองยังต้องพัฒนาอยู่
5.3 อายตนะยังบอดอยู่
5.4 มหาสติหรือธรรมชาติสมาธิยังอ่อนแออยู่
5.5 ยังไม่รู้ว่าเราเป็นใคร
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
แท้จริงนั้นเรามิได้โกรธเคืองคนทั้งห้านี้เลย
เพราะเขาคือ "นักเรียนตัวอย่าง" ของพวกท่าน
ที่ผิดพลาดบกพร่องในสายตาเราต่างหาก
ท่านที่กล่าวเชิงตำหนิเราจงอย่าก้าวล่วงเราเลย
ชีวิตจะติดกรรมโดยใช่เหตุนะ
ส่วนใครที่คิดว่าแค่เปฺ็นการกดผิดเท่านั้น
ไม่ควรถือโทษอะไรใครหรอก
เพราะใครๆก็มีโอกาสผิดพลาดกันทั้งนั้น
เราก็จะขอถามท่านว่า...คิดแค่นี้แล้วจบ
ทุกท่านจะได้รับบทเรียนกรรมอะไรบ้างมั้ย?
กฎแห่งกรรมนั้นมันมีจริงๆ
คนที่ทำผิดด้วยการก้าวล่วงต่อเรา
และพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา
หรือว่าท่านทั้งหลายจะก้าวล่วงใครก็ตาม
ไม่ว่าจะเพราะขาดสติหรือด้วยเจตนากระทำ
กรรมนั้นมันก็ได้ก่อ ผลกรรม ขึ้นมาแล้ว
ท่านต้องรับผิดชอบกรรมนั้นเสมอ
ท่านทั้งหลายต้องรู้ว่าในกรณีกรรมแบบนี้
จะมีคน 3 จำพวก ให้ท่านได้เรียนรู้ คือ
1.พวก "มักยาก"
คือ พวกที่กระทำผิดบาปแล้ว
นึกเข้าข้างตนเองว่าไม่เป็นไรหรอก
ทั้งๆที่บุรพกรรมหรือวิบากกรรมนั้นเกิดขึ้นแล้ว
เพราะการทำ "ผิดพลาด" นั้น
มันคือการกระทำ ผิดบาป แล้ว
2.พวก มักง่าย
คือ พวกที่เห็นการทำผิดบาปของผู้อื่นว่า
เป็นเรื่องน่าเห็นใจ เป็นเรื่องปกติธรรมดา
ที่ใครๆก็ทำผิดพลาดกันได้
เหมือนไม่เข้าใจเรื่อง "กฎแห่งกรรม"
จึงมองเห็นคนหัวร้อนทั้งห้านี้เป็นเรื่องปกติ
เราขอบอกความจริงเลยว่า
การเป็นคนชอบธรรมแต่หลุดพ้นมิได้
ก้าวหน้าทางจิตวิญญาณมิได้
ก็เพราะความนึกคิดมักง่ายเช่นนี้แหละ
เพราะหยุดการมีสังสารวัฏไม่ได้
ตายแล้วต้องกลับมาเกิดใหม่อีกเพื่อแก้ไข
วนเวียนกันไปอย่างนี้ไม่รู้ที่สิ้นสุด
เหตุเพราะความมักง่าย-มักยากในการนึกคิด
เมื่อรู้ความจริงเองไม่ได้ก็โชคร้ายไป
แต่พอมีเราเป็น "ครู" คอยช่วยเตือนสติให้
ก็กลับก้าวล่วงครูของตนเสียอีกแน่ะ
3.พวก "ผู้พิพากษา"
คือ พวกที่ตัดสินเราว่า "ขี้โมโห" ลูกศิษย์
จึงนำเอาเรื่องหัวร้อนนี้มาระบายอารมณ์
ตัดสินเราตามระดับภูมิธรรม ภูมิปัญญาที่ตนมี
กล่าวพิพากษาเราตามจริตนิสัยแห่งตน
โดยไม่เกรงผิดบาปเพราะการก้าวล่วง
6.นี่ถ้าเราไม่ออกมาเตือนท่านทั้งห้า
ท่านคิดมั้ยว่า...จะมีใครรู้สำนึกเองได้บ้าง
รวมทั้งนักเรียนท่านอื่นๆด้วย
ท่านอยากให้เราเป็น "ครู"
หรือให้เป็นแค่ คนยืนดู อย่างหดหู่ใจกันแน่
นี่แหละคือสิ่งที่ "จิตเรา...อยากรู้" จริงแท้
ขอทุกท่านอ่านบทเรียนนี้หลายๆเที่ยวเถิด
มันจะช่วยเปิดปัญญาให้ตัวท่านเอง
พระบิดาฯและเราเป็นพยานให้ท่านได้
กราบพระบาทพระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวง
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22/12/2020