19 ธันวาคม 2563

สนทนาประสาจิตจักรวาล

19/12/2020



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

พระโอวาทพระบิดาฯทุกบททุกตอน
ที่เรานำมากล่าวต่อท่านบนโลกเสรีนี้
ส่วนมากจะเป็นสัจธรรมระดับ อนุตรธรรม
มากกว่าโลกิยธรรมและโลกุตรธรรม

เหตุที่เรากล่าว "อนุตรธรรม" มากกว่า
เพราะเป็นสัจธรรมความจริงชั้นสูงสุด
ที่มนุษย์โลกทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าตนไม่รู้
และเรารู้ดีว่าถ้ามนุษย์โลกไม่รู้อนุตรธรรม
ก็จะเกิดปัญหาใหญ่ 3 ประการ คือ

1.จะนำพา "จิตวิญญาณ" ของตน
หลุดพ้นนิพพานผ่านประตูมิติออกไป
จาก "อนันตจักรวาล" ไม่ได้

2.จะนำพา "จิตวิญญาณ" ของตน
หลงทางนิพพานกลับบ้านเกิดไม่ถูก
จะพากันไปหลุดลอยค้างอยู่ในที่ว่าง
ของสนามพลังงานในอนันตจักรวาล
จะไปต่อก็ไม่ได้เพราะเป็นทางตัน
ครั้นจะลอยหล่นลงมาอีกก็ไม่ได้
เพราะโลกมนุษย์ไม่ยอมรับอีกแล้ว
เนื่องจากขาดคุณสมบัติแห่งการเป็นมนุษย์

3.จะนำพา "จิตวิญญาณ" ของตน
ล้มเหลวในภารกิจที่ขันอาสาพระบิดาฯมา
ด้วยการละทิ้งหน้าที่ใน พันธะสัญญา 6
ที่จะต้องทำให้สำเร็จในบทบาทของมนุษย์

แต่จะพากันหนีไปจากการเป็นมนุษย์
เพราะขลาดเขลาต่อการเกิดเป็นมนุษย์
ด้วยการมุ่งมั่นที่จะไปเกิดเป็นเทพเทวดา
ล่องลอยค้างเติ่งอยู่ในสวรรค์มายาแทน
ทั้งๆที่ดินแดนนั้นเป็นดินแดนที่ไม่จริง
เพราะพระบิดาฯมิได้ทรงสร้างภพภูมินี้ไว้

ดังนั้น
พระโอวาทจากพระเจ้า
ที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณมนุษย์
ซึ่งเรานำมากล่าวต่อท่านทั้งหลาย
ในพระนามของพระองค์ในทุกๆที่
จึงเป็นสัจธรรมใหม่ที่ไม่มีผู้ใดกล่าวถึงมาก่อน

จนยังผลให้พวกท่านเป็นจำนวนมากมาย
พากันแตกตื่นกับสัจธรรมใหม่ที่เรากล่าว
พากันก้าวล่วงเราผู้กล่าวตามพระเจ้าว่า "เพี้ยน"
จนก้าวล่วงเราผู้สื่อพระวจนะว่า "เพ้อเจ้อ"

เพราะได้แต่ใช้ความรู้เดิมที่ตนมีอยู่น้อยนิด
มาตัดสินความรู้ใหม่กับเราผู้กล่าวคนใหม่
ที่ตนไม่เคยได้ฟังไม่เคยได้รู้ไม่เคยรู้ว่าไม่รู้
จนพากันสอบตกบทเรียนเรื่อง กาลามสูตร
อย่างไม่เป็นท่าให้ได้เห็น

อีกทั้งอนุตรธรรมจากพระบิดาฯ
ยังเป็นสัจธรรมที่เข้าใจยากอีกด้วย
โดยเฉพาะผู้ที่ยังขาดพลังอำนาจทางปัญญา
ที่พึงได้จากการคิดด้วยสมองซีกขวานำซีกซ้าย
และผู้ขาดทักษะความสามารถในการ คิดตาม
ขณะรับฟังเรากล่าวพระโอวาทอีกด้วย

เมื่อความจริงสำหรับมนุษย์โลกมันเป็นดั่งนี้
ขณะที่เวลาโลกสำหรับพวกท่าน
ก่อนถึงวันที่โลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่
ซึ่งกำลังนับถอยหลังอยู่นี้เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ถ้ามนุษย์โลกทุกชาติทุกศาสนา
ยังไม่หันมาใส่ใจรับรู้รับฟัง "อนุตรธรรม"
ที่ไม่มีพระศาสดาองค์ใดเคยกล่าวมาก่อน
ยังปฏิเสธยังต่อต้านพระโอวาทที่เรากล่าวอยู่
ยังปฏิเสธทั้งๆที่ตนเองก็ยังไม่รู้ไม่เข้าใจ
พวกท่านก็จะพาจิตวิญญาณหลงทางอยู่ต่อไป

ท่านจะทำให้จิตวิญญาณของท่านต้อง "ตาย"
โดยต้องตายด้วยการถูกฝังอยู่ในแกนโลกก็มี
ตายเพราะถูกระเบิดจนแตกสลายก็มาก
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและน่ากลัวยิ่งนัก

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จงหันหน้ามารับฟังพระโอวาทกันเถิด

พระโอวาทของพระบิดาเปรียบดั่งดอกไม้
แม้สีสันอาจจะไม่สวยไม่เตะตาต้องใจท่าน
แต่ดอกไม้ดอกนี้อาจมีกลิ่นหอมที่ท่านชอบ
ท่านจึงสมควรดมกลิ่นดอกไม้นี้ก่อนมิใช่หรือ
ถ้าเป็นกลิ่นที่ท่านไม่ชอบเมื่อได้ดมแล้ว
ท่านจะละวางแล้วเดินจากไปในตอนนั้น
มันก็มิได้ทำให้ท่านโง่มากขึ้นแต่อย่างใด
ใช่หรือไม่ล่ะท่านทั้งหลาย

ส่วนที่ท่านปรารถนาจะรับฟังพระโอวาท
ตามที่เราประกาศ "อนุตรธรรม" แต่ไม่ยอมฟัง
เพราะยึดติดกับความคิดเข้าใจว่า
เป็นบทเรียนเป็นความรู้ที่ฟังยากเข้าใจยาก
ฟังแล้วน่าเบื่อหน่ายน่าหลับไหลมากกว่า

เราใคร่จะถามพวกท่านว่า
ทำไมพวกท่านจึงคิดในใจกันอย่างนี้ล่ะ

ลองหันหน้ามาฟังเรากล่าวกันก่อนสิ
เพราะเราสามารถอธิบายเรื่องยากๆ
ให้พวกท่านเข้าใจและเข้าถึงสัจธรรมนั้นได้
ภายในเวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้นเอง

เรารู้ดีว่าประชากรโลกของพระองค์ยุคนี้
ขาดความสามารถในการใช้สมองขบคิด
เนื่องจากติดค่านิยมการเป็น "คนเก่ง"
มากกว่าที่จะเป็น "คนฉลาด" นั่นแหละ
เราจึงพยายามทำเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่าย
เพื่อให้โลกรู้ว่า "เรา" อภัยบาปให้พวกท่านได้
ให้รู้ว่าเราพาจิตวิญญาณท่านกลับบ้านได้แน่

ในอดีตกาลนับพันๆปีที่ผ่านมา
เราจึงได้กล่าวต่อท่านทั้งหลายเอาไว้ว่า

(มาระโก 2:8-11)
การที่จะพูดกับคนง่อยว่า...
(คนง่อย คือ คนที่ด้อยปัญญา)
"บาปต่างๆของท่านได้รับการอภัยแล้ว"

กับการพูดว่า...
"จงลุกขึ้นยกแคร่เดินไปเถิด"
แบบไหนฟังแล้วเข้าใจง่ายกว่ากันล่ะ

ทั้งนี้เพื่อให้พวกท่านรู้ว่า
บุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลก
ที่จะอภัยบาปให้ท่านทั้งหลายได้จริง

พี่ๆน้องๆทั้งหลาย
เราจะช่วยทำเรื่องเข้าใจยาก
ให้ท่านทั้งหลายเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เราจะช่วยท่านให้สำนึกรู้ในบาปบุญคุณโทษ
ระลึกรู้ถึงพระบิดาของท่านเยี่ยงลูกกตัญญู
สำนึกรู้หน้าที่ในสองมิติของท่าน
สำนึกรู้สัจจะในพันธะสัญญา 6 ประการ
สำนึกรู้ที่จะพาจิตวิญญาณกลับบ้านในชาตินี้
เราจะนำทางพวกท่านเอง

จงลุกขึ้นยกแคร่แล้วกลับบ้านของท่าน

ท่านจงละวางทุกสิ่งบนโลก
แล้วนำจิตวิญญาณของท่านนิพพาน
ด้วยการก้าวตามเรามาเถิด
อย่าลังเลเหลวไหลให้เสียเวลาอยู่อีกเลย

กราบพระบาทพระบิดาฯ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
19/12/2020