พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เป้าประสงค์หลักอีกข้อหนึ่ง
ซึ่งท่านทั้งหลายทั่วทั้งโลกเสรีจักต้องเรียนรู้
จากหลักสูตร "สงครามโรค สงครามรัก"
ในบทเรียนที่ชื่อว่า "โรคโควิด-19"
ผ่านกระบวนการ PsychoShow ของ Parinya
ที่ดำเนินสืบเนื่องกันมาย่างเดือนที่สี่แล้วนี้
คือ ต้องสอบผ่านบททดสอบการ รักเพื่อให้
ในกิจกรรมสำคัญนี้กันให้ได้
เราขอบอกความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในกิจกรรมมหันตภัยบทต่อๆไปที่จะติดตามมา
หนึ่งในเป้าประสงค์ใหญ่ที่สุดก็คือ
การยื่นบททดสอบความรักเพื่อให้ด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะตลอดครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
จิตจักรวาลวัดค่าพลังงานความรัก
ผ่านความเข้มสนามแม่เหล็กโลก
ในระบบโครงข่ายที่ห่อหุ้มดาวโลกไว้
ด้วยการส่งก้อนเทหวัตถุหรืออุกกาบาต
ผ่านเข้ามาในระบบแล้วพบว่า
ในระดับความสูงเพียง 6 หมื่นกิโลเมตร
ถ้ายิงก้อนอุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศก.ราว 1 กม.
ให้พุ่งผ่านเข้ามาในสนามแม่เหล็กโลก
แม้จะแตกระเบิดได้แต่ก็ยังลุกไหม้ไม่หมด
บางส่วนยังตกลงมาถึงพื้นดินอยู่หลายชิ้น
ซึ่งเป็นการเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นแรงบิดตัวของแกนแม่เหล็กโลก
ก็อ่อนแรงลงและมีค่าไม่สม่ำเสมอ
ยังผลให้โลกแกว่งส่ายขณะหมุนรอบตัวเอง
จนส่งผลถึงเวลากลางวันกลางคืน
สภาวะภูมิอากาศและฤดูกาลของโลก
เกิดการวิปริตแปรปรวนรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ถ้ากล่าวโดยรวมก็คือโลกเสียสมดุลมากขึ้น
เพราะมนุษย์โลก "สอบตก" ในเรื่องความรัก
โดยรักกันไม่ได้ ให้อภัยไม่เป็น
ก้าวล่วงคนอื่นง่ายเพราะความไร้สติ
ตัวอย่างพฤตินิสัยด้านลบ
จากการที่มนุษย์สอบตกเรื่องความรักเพื่อให้
ซึ่งพอกล่าวเป็นสังเขปได้ 13 ประการ คือ
1.การทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น
2.การทำร้าย การเข่นฆ่าเอาชีวิตผู้อื่น
3.การเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น
4.การดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่น
5.การนินทาว่าร้ายผู้อื่นลับหลัง
6.การอาฆาตพยาบาทผู้อื่น
7.การรังเกียจเดียจฉันผู้อื่น
8.การไม่ให้เกียรติผู้อื่น
9.การมองผู้อื่นในแง่ร้าย
10.การไม่ให้อภัยแก่ผู้อื่น
11.การไม่แบ่งปัน ไม่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น
12.การแก่งแย่งผลประโยชน์ของผู้อื่น
13.การไม่กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
สาเหตุหลักที่ทำให้สอบตก
จนแสดงพฤตินิสัย "ขยะ" เหล่านี้
ออกมาให้เห็นเป็นเพราะว่า
1.ไม่รู้จักรักคนอื่นๆ
2.ไม่รู้จักรักผู้มีพระคุณ
3.ไม่รู้จักการรักเพื่อให้
ดังนั้น
ในแผนปฏิบัติการชำระโลกด้วยภัยพิบัติ
จึงแทรกบททดสอบ "จิตสำนึกแห่งรัก" เอาไว้
ให้มนุษย์ได้ฝึกทักษะการใช้มันในยามคับขัน
เพื่อช่วยกันปรับสมดุลโลกให้ก้าวสู่ยุคใหม่
ได้อย่างองอาจสง่างามทั้งมนุษย์ทั้งโลก
โดยเฉพาะในสถานการณ์ภัยพิบัติ
อันเกิดจากการแพร่ระบาดของโรค "โควิด-19"
ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการไซโคโชว์กันอยู่นี้
ท่านทั้งหลายจักถูกทดสอบว่า
1.กลัวตัวเองว่าจะติดเชื้อโรคไหม
2.กลัวตัวเองว่าจะเจ็บป่วยไหม
3.กลัวตัวเองว่าจะเป็นภาระคนอื่นไหม
4.กลัวตัวเองว่าจะป่วยตายไหม
ทั้ง 4 ประการนี้
ถ้าใครสอบผ่านคนผู้นั้นย่อมรักตนเองจริง
ซึ่งมันจะนำไปสู่พฤตินิสัยที่ดีๆ
ที่สอดคล้องกับความกลัวในสี่ประการนั้นได้
ตัวอย่างเช่น
ถ้ากลัวว่าจะติดเชื้อโรคร้าย
ก็จะไม่ทำตัวแร่ดไปแร่ดมาในสังคม
จะระวังเรื่อง Social Distancig
โดยรัฐบาลไม่ต้องออกกฎหมายบังคับ
ถ้ากลัวว่าตนเองจะเจ็บป่วย
หากรักตนเองจริงๆแล้ว
ก็จะศึกษาเรียนรู้วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นว่า
คนที่ป่วยเป็นโรคนี้เขามีอาการกันอย่างไร
แล้วจดจำเอาไว้สังเกตอาการของตนเอง
โดยไม่ปล่อยทิ้งไว้จนเกิดอาการทรุดหนักแล้ว
ซึ่งเป็นการเสี่ยงตายมากกว่าเสี่ยงรอด เป็นต้น
นอกจากนั้นในภัยพิบัติต่างๆ
ยังมีบททดสอบการรักผู้อื่นแทรกอยู่ด้วย
เพราะมนุษย์จะรักตนเองฝ่ายเดียวมิได้
เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม
ทุกท่านมิได้มีชีวิตอยู่คนเดียวในระบบโลก
แต่ยังมีคนส่วนใหญ่อีกตั้งมากมาย
ที่อาสาพระบิดามาเกิดเพื่อทำหน้าที่ร่วมกัน
ในการใช้เมตตาธรรมคือพลังไฟฟ้าบวก
ค้ำจุนโลกด้วยสมการซัมเบต้าเอ็กซ์
ตามที่เราได้เปิดเผยต่อโลกไว้นานครันแล้ว
โดยกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ท่านทั้งหลายจะสอบผ่านบททดสอบ
จิตสำนึกในการรักคนอื่นได้นั้นตัวชี้วัดก็คือ
ถ้าท่านกลัวว่าจะเป็นผู้แพร่เชื้อจริง
เพราะโรคชนิดนี้แม้มีเชื้อโรคอยู่ในตัว
ภายในระยะเวลา 4 -7 วันแรกที่รับเชื้อมา
มันจะไม่แสดงอาการให้ท่านรู้ตัวเลย
พฤตินิสัยที่ดีๆที่ท่านจะแสดงต่อคนอื่น
เพื่อปกป้องคนอื่นมันก็จะเกิดขึ้นได้เอง
จากจิตสำนึกรักผู้อื่นโดยมิต้องให้ใครสั่ง
หรือมิต้องให้ใครบังคับข่มขืนใจ
หรือมิต้องให้ใครนำสิ่งจูงใจมาล่อ เป็นต้น
โดยบทเรียนต้นๆเพื่อสั่นสะเทือนความรักนี้
จะยังไปไม่ถึงการกลัวคนอื่นต้องตาย
เพราะมีตนเองเป็นสาเหตุ
แค่ให้กลัวคนอื่นจะติดเชื้อโรคร้ายนี้
เพราะมีตนเป็นพาหะนำโรคให้ได้ก่อนเท่านั้น
ทั้งหมดที่เรากล่าวนี้
เป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการไซโคโชว์
สำหรับพี่น้องทั้งห้องเรียนโลกอันกว้างใหญ่
จักต้องเข้าถึงความรักเพื่อให้
และต้องสั่นสะเทือนตอบสนองออกมา
ให้เพื่อนมนุษย์ได้ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม
โดยไม่รั้งรอชักช้าและไม่สอบตกเด็ดขาด
กราบพระบาทพระบิดาฯ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
8/04/2020
