09 กุมภาพันธ์ 2563

ปัญหาด้านจิตวิทยา (Psychological Problem)


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

กรณีข่าวใหญ่สะท้านประเทศ  
เหตุเกิดที่ จ.นครราชสีมา
เมื่อจ่าทหารลากอาวุธสงครามออกมา  
ฆ่า 20 ศพ บาดเจ็บกว่า 40 ราย
ทำเอาวุ่นวายไปทั้งเมืองเมื่อวานนี้นั้น

หลายคนที่วิจารณ์กันต่างก็รู้สาเหตุอยู่ว่า ที่ฆาตกรทำเช่นนี้ได้ก็ด้วยความคลั่งแค้น   
ด้วยการระเบิดอารมณ์ออกมา  เพราะตนรู้สึกถูกกดขี่ข่มเหงรังแก
เพราะตนถูกเอาเปรียบด้านผลประโยชน์  จนหาทางออกให้ตนเองไม่ได้  
จึงเกิดการ สติแตก หรือน้อตหลุด
ทำให้เกิดเรื่องใหญ่จนดังไปทั่วโลก  เมื่อเขาต้องกลายเป็นฆาตกรโหด
ลากอาวุธสงครามขึ้นรถตรวจการณ์ "ฮัมฟรี่"  กราดยิงศัตรูของตน 3 คนแรกเสียชีวิต  
และคนต่อๆมาอีกนับสิบชีวิตที่ไม่รู้เรื่องด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

คนสมัยนี้ถ้าถูกกดดันทางจิตประสาทแรงๆ
เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆในชีวิตเข้า
ถ้าคนๆนั้นไม่ได้ผ่านการฝึกอบรม  
เพื่อเพาะบ่มจิตปัญญาให้แข็งแกร่งมาก่อน
เขาก็จะเป็นคนมีปัญหาและน่ากลัวทันที   
ทั้งๆที่เขาเป็นคนมีคุณภาพ (Quality People)
เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบองค์ 3 คือ
1.เป็นคนฉลาดคิดฉลาดใช้ปัญญาของสมอง
2.เป็นคนเก่งขั้นรอบรู้และเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
3.เป็นคนดีประพฤติดีเป็นศรีแห่งสังคม

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ท่านรู้หรือไม่ว่า......
คนที่ "น้อตหลุด" สติแตกง่าย   
จนสามารถฆ่าคนตายอย่างโหดเหี้ยมได้   หรือสามารถจะฆ่าตัวเองตายก็ได้นั้น
ร้อยทั้งร้อยเป็นคนที่ได้ชื่อว่า   เป็นผู้มี "คุณภาพ" ด้วยกันทั้งนั้น
แสดงว่า "ฆาตกร" หรือ "อาชญากร" นั้น   มิได้จำกัดว่าต้องเป็นคนสันดานชั่วเสมอไป
ประดาคนฉลาด คนเก่ง และคนดีทั้งหลาย   ก็พร้อมที่จะกลายเป็นฆาตกร
หรือเป็นอาชญากรได้ด้วยกันทั้งสิ้น   ถ้าพวกเขาขาดพร่องในเรื่องสำคัญดังต่อไปนี้

1.ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์
เป็นคนเสียสมดุลทางจิตใจว่องไวมากเกินปกติ
จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์เสียของตนไว้ได้
เมื่อควบคุมไม่ได้ก็พยายามระบายอารมณ์ออก
แต่กับบางคนตนก็ไม่อาจระบายอารมณ์นั้นได้
จึงต้องทน "เก็บกด" ด้วยการ "กดดัน" ตนเองไว้
เหตุเพราะเป็นคนไม่มี "มหาสติ" คอยกำกับไว้

ดังนั้น......
เมื่อมีปัญหาเข้าไปกระทบจิตใจทีไร  ก็จะทำได้แค่เก็บกดอดกลั้นกดดันตนเองไว้
นานวันเข้าความกดดันทางอารมณ์จะยิ่งสูงขึ้น   เพราะสภาวะพื้นฐานทางจิตไม่สมดุลมากยิ่งขึ้น
จนเมื่อความอดกลั้นนั้นถึงขีดสุดจึงสติแตก   เพราะไม่อาจควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้

ในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่  
มักชอบเก็บกดจนเกิดการกดดันตัวเองสูงมาก
เมื่อพื้นฐานของจิตใจไม่สมดุลอยู่แล้ว  
พอถูกยั่วยุด้านลบแม้เพียงเล็กน้อยก็สติแตก
จนแสดงความก้าวร้าวแบบสัตว์เดรัจฉาน  
ตอบโต้คืนกลับมาอย่างดุดันและน่ากลัว
โดยทำตัวประพฤติตนผิดไปจากมนุษย์มาก

2.ขาดวุฒิภาวะทางปัญญา
เป็นคนที่ไม่สามารถใช้ปัญญา
จากสมองทั้งสองซีกของตนเองอย่างคุ้มค่าได้
ด้วยสาเหตุหลายประการด้วยกัน
เป็นต้นว่า...
  • เป็นคนไม่ชอบคิด
  • เป็นคนไม่ช่างคิด
  • เป็นคนชอบวานให้คนอื่นคิดแทน
  • เป็นคนไม่เห็นคุณค่าของการคิด
  • เป็นคนที่คิดไม่เป็นไม่มีทักษะด้านการคิด


ดังนั้น......
เมื่อใดที่ตนตกอยู่ในท่ามกลางปัญหา   ตกอยู่ในสังคมรอบข้างที่เป็นปัญหา
ก็ไม่สามารถใช้ปัญญาจัดการกับปัญหาได้  จึงมัก "เลือก" ใช้อารมณ์ก้าวร้าวแบบสัตว์ป่า
จัดการกับ "เหยื่อ" ที่ทำให้ตนมีปัญหาแทน  จึงเป็นที่มาของพฤติกรรม "ขยะ" เหล่านี้   คือ
  • การทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน
  • การทำร้ายร่างกายกันและกัน
  • การเข่นฆ่าเอาชีวิตกันอย่างโหดเหี้ยม
เป็นต้น

3.ขาดวุฒิภาวะทางสังคม
เป็นคนที่เข้าสังคมกับใครไม่ได้
ถ้าไม่เป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้คนอื่น
ก็ตั้งรับคนอื่นๆที่เป็นคนเจ้าปัญหาไม่ได้
ชีวิตประจำวันจึงมีแต่ความกดดันในจิตใจ

เมื่อผ่านไปนานวันเข้า
ความกดดันในจิตใจยิ่งเพิ่มสูงขึ้นๆเรื่อยๆ  จนในที่สุดก็กลายเป็นคน "สติแตก"
เที่ยวทะเลาะเบาะแว้งกับคนเขาไปทั่ว
เพื่อน......ฆ่าเพื่อน
ลูกน้อง.......ฆ่านาย
เป็นผู้ที่ทำให้....ทีมไม่เวิร์ค
เป็นผู้ที่ทำให้.....ตนเอง   และคนรอบข้างไม่มีความสุข

ในที่สุด....ก็ต้องเปลี่ยนงาน
เปลี่ยนเพื่อนร่วมงาน
ย้ายที่ทำงาน......ย้ายบ้านหนี

ถ้าไม่ย้ายตนเองออกไป  ก็จะจัดการให้คนอื่นย้ายไป
จนถึงขั้น...ทำร้ายหมายชีวิตคนอื่นไปก็มี

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

คนที่ขาดวุฒิภาวะทั้งสามด้านที่เรากล่าวมานี้
แม้คนที่มีคุณภาพทั้งหลาย  ซึ่งเป็นทั้งคนเก่ง คนฉลาด และเป็นคนดี
หากได้รับความบีบคั้นทางจิตใจที่รุนแรง  ก็สามารถจะกลายร่างเป็นคนสติแตกได้เสมอ
จะเก่งแค่ไหน ฉลาดเพียงใด หรือดีปานใด  ถ้าขาดทักษะการควบคุมจิตใจตนเองแล้ว
ก็สติแตกจนสามารถจะเป็น "ผู้ร้าย" ได้ทันที

ถ้าเขามีปากก็จะใช้ปาก "ทำร้าย" ผู้อื่น
ถ้าเขามีตาก็จะใช้ตา "ทำร้าย" ผู้อื่น
ถ้าเขามีหูก็จะใช้หู "ทำร้าย" ผู้อื่น
ถ้าเขามีจิตก็จะใช้มโนจริต "ทำร้าย" ผู้อื่น
ถ้าเขามีมือมีเท้าก็จะใช้มือใช้เท้า "ทำร้าย" ผู้อื่น

แต่ถ้าใช้อายตนะทำร้ายผู้อื่นแล้วยังไม่หนำใจ
เขาก็จะลากเอาปืนเอามีดเอาอาวุธสงคราม  ออกมาทำร้ายหมายชีวิตผู้อื่นแทน

ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงกล่าวต่อผู้บริหารองค์กร   ผู้บังคับบัญชา   หรือผู้ที่รับผิดชอบงาน
ด้านการพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ว่า......
งบประมาณการฝึกอบรมคนของท่านทุกปี
อย่าใช้ไปเพียงเพื่อจัดอบรมตามประเพณี
โดยทำเหมือนพิธี "แก้บน" กันเท่านั้นเอง

งานฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร
จงอย่าเน้นแต่การอบรมทางวิชาการ  เพื่อพัฒนา #คนเก่ง แต่เพียงอย่างเดียว  เพราะคนที่เก่งคนที่รอบรู้คนที่เชี่ยวชาญ  ต่อให้ท่านสร้างขึ้นไว้จนเต็มหน่วยงานของท่านต่อให้ท่านสร้างพวกเขาขึ้นไว้จนเต็มสังคม 
ท่านก็หาประโยชน์อะไรจากพวกเขาไม่ได้

ต่อให้ท่านพาพวกเขาขึ้นเขาเข้าวัด
พาพวกเขาไปเข้าค่ายปฏิบัติธรรม
ด้วยการหยุดงานราชการลางานบริษัท
ไปฝึกหัดนั่งกรรมฐานร่วมสามวันสามคืน
เพื่อหวังว่าเขาจะเป็นคนดีจากที่ไปปฏิบัติธรรม
หลักสูตรของท่านแม้หวังพึ่งวัด
ก็ไม่สามารถที่จะดัดนิสัยแก้ไขสันดานไม่ดี
ของบุคลากรของหน่วยงานท่านคนไหนได้

ด้วยเหตุนี้เอง......
งานพัฒนาบุคลากรของท่าน   
ที่ปั้นคนขึ้นมาจนเป็นคนเก่งและรอบรู้   และส่งเข้าค่ายปฏิบัติธรรมหมายให้เป็นคนดี
หน่วยงานของท่านก็ยังคงมีปัญหาเดิมๆอยู่   คืองานยังไม่ค่อยได้ผล   คนทำยังไม่ค่อยมีสุข   
บุคลากรยังมีแตกแยกยังมีขัดแย้งอยู่เนืองๆ

เพราะสาเหตุว่า......
บุคลากรคนเก่งและมีธรรมะของท่านนั้น   
พวกเขายังขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์  ยังขาดวุฒิภาวะทางปัญญา  และยังขาดวุฒิภาวะทางสังคมกันอยู่

เพราะแผนการพัฒนาหลักสูตร  
เพื่อพัฒนาคนทั้งหมดในองค์กรหรือหน่วยงาน
ยังขาดพร่องที่จะเติมเต็มในเรื่องใหญ่นี้  
ทั้งๆที่เป็นเรื่องของคุณภาพบุคลากรที่จะขาดพร่องไม่ได้เลย

เพราะเรื่องวุฒิภาวะทั้งสามด้านนี้   
มนุษย์ในธรรมชาติล้วนขาดพร่อง   ต้องอาศัยการเติมเต็มด้วยการฝึกอบรมให้  
เนื่องจาก "วุฒิภาวะ" ทั้งสามประการ  เป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางจิตวิทยาของมนุษย์
ที่เปรียบได้ดั่ง "รากแก้ว" ของต้นไม้ใหญ่

ถ้ารากแก้วไม่แข็งแรง  ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นหรือมนุษย์คนนั้น
เมื่อลมแรงพัดมาต้นไม้นั้นก็จะล้มลงมา  จนพาให้ต้นอื่นล้มตามไปด้วยเป็นทิวแถว

มนุษย์ก็เช่นกัน
เมื่อเจอแรงต้านเมื่อเผชิญปัญหา
ถ้าสภาวะจิตไม่แข็งแรงสติแตกง่าย
ก็จะใช้อารมณ์จัดการกับคนที่สร้างปัญหาให้
จนพากันวุ่นวายไปทั้งทีมทั้งองค์กรทั้งสังคม
ทั้งๆที่พวกเขาก็เป็นคนเก่งคนดีและมีศีลธรรม
ก็ดูตัวอย่างจากจ่าทหารปืนดุสิ
ท่านเห็นด้วยกับเรามั้ยล่ะ ?

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

นายกประยุทธ จันทร์โอชา   
ท่านพูดเรื่องการพัฒนา จิตสำนึก ข้าราชการ  ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร อยู่บ่อยๆ
เราได้ยินแต่ท่านพูดในอากาศ  แต่เราไม่เคยได้ยินท่านหันมากล่าวกับเรา
ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของท่านนายก  ด้วยปฏิบัติการ PsychoShow เลย

หลักสูตรการพัฒนาจิตสำนึก   
ที่จะนำไปใช้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน  มิให้สติแตกง่ายจนทำร้ายคนอื่นรอบข้างนั้น
มันต้องใช้วิธี "ปรับเปลี่ยนพฤตินิสัย"  ด้วยการแก้ไขที่จิตสำนึกเท่านั้น
มิใช่ทำแค่เอาธรรมะเข้าข่มอย่างที่ทำกันมา
ซึ่งท่านนายกฯเองก็รู้อยู่ว่ามันไม่ได้ผล

สถาบันฯ HBMI   
ขอท้าให้ท่านนายกฯพิสูจน์ว่า...
1.ด้วยวิธีการพัฒนาที่ถูกต้อง
2.ด้วยกลยุทธการฝึกอบรมที่ถูกต้อง
3.ด้วยหลักสูตรที่ถูกต้อง
4.ด้วยวิทยากรนักจิตวิทยาที่ถูกต้อง

ทั้ง 4 ประการนี้  จะสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพขั้นพื้นฐาน  
สำหรับพนักงานบริษัท โรงงาน ข้าราชการ  ทหารและตำรวจผู้ถืออาวุธได้ทุกวุฒิภาวะ
เพื่อให้เป็นคนเก่ง เป็นคนฉลาด เป็นคนดี  และมีโครงสร้างทางจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง
ไม่น้อตหลุดง่ายไม่สติแตกง่ายไม่ลุแก่โทสะ  แล้วทำร้ายคนอื่นด้วย "ปาก" หรือ "ปืน"
จะได้ร่วมใจกันสร้างสันติสุขในทุกที่   ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมกันอย่างแท้จริง

จะเป็นการฉลาดใช้งบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด
เพื่อสร้างข้าราชการคุณภาพของพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าต่อองค์กร
เพื่อสร้างชาติไทยให้เข้มแข็ง  ทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ
และสามารถป้องกันมิให้เกิดเรื่องตื่นตระหนก  อย่างกรณี #เทอร์มินัลยี่สิบเอ็ด โคราชโมเดล  
ได้อีกตลอดกาลนานด้วย

ท่านผู้เกี่ยวข้องท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ขอคำปรึกษาหารือกันได้เสมอ  
ที่ Tel.081-6681478, 089-1052727   หรือที่ Tel. 081-9349789

หมายเหตุ :
ปัญหาของจ่าทหารที่ตกเป็น "ฆาตกร"
เพราะตัวท่าน "ขาดสติ" จากการกดดันตนเอง
จนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้
ซึ่งเป็นปัญหาด้านจิตวิทยา  (Psychological Problem) ที่แก้ไขยาก
แต่สามารถป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้  ด้วยกระบวนการ "ไซโคโชว์" ของปริญญา


เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
10/02/2020