08 กุมภาพันธ์ 2563

การฝัน เป็นเรื่องของ"จิตใต้สำนึก"

Question :
กราบเรียนถามพระบุตรเอกเจ้าค่ะ

1.การที่เราฝันแล้ว
ควบคุมอารมณ์ในฝันไม่ได้
ทั้งเรื่องเศร้า เรื่องดี เรื่องสนุกสนาน
เป็นเพราะเหตุใดคะ

2.เหตุการลางบอกเหตุในความฝัน
จะส่งผลในอนาคตข้างหน้าได้หรือไม่

3.ลูกควรประปฏิบัติตัวเช่นไร
ถึงจะสอบผ่านเจ้าคะ

Answer 1 :

การที่ท่านฝันแล้ว
ควบคุมอารมณ์ในฝันไม่ได้
มิได้เป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
ใครๆเขาก็มีอาการแบบนี้ทั้งนั้น

เนื่องจากภาพมายาที่ปรากฏในฝันนั้น
กลไกซึ่งทำหน้าที่ในการรับรู้ก็คือ
จิตกับสมองสองซีกซ้ายขวาของท่านนั่นเอง
จึงไม่แปลกอะไรที่เมื่อท่านฝันแล้ว
อารมณ์ของท่านจะคล้อยตามเรื่องราวในฝัน
ทั้งเรื่องเศร้า เรื่องดี และเรื่องสนุกสนาน

Answer 2 :

ลางบอกเหตุในความฝัน
ที่จะเป็นผลเช่นนั้นในอนาคตนั้นมีจริง
ถ้า "ลาง" นั้นเป็นสัญชาตญาณ
ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านเป็นผู้สื่อ
เพื่อให้ "จิตหยาบ" ของตนรู้ตัวล่วงหน้า
เพราะมันเป็นเรื่องร้ายๆ

ในขณะเดียวกัน
จิตวิญญาณของท่านก็สามารถ
บอกกล่าวข่าวดีให้จิตหยาบรู้ก่อนล่วงหน้า่ได้
โดยใช้สัญชาติญาณผ่านการฝันเช่นกัน
แต่ไม่เรียกว่า "ลาง" เพราะเป็นเรื่องดีๆ
โดยจะเรียกความฝันดีๆ
ที่จะบอกเหตุการณ์อนาคตว่า "นิมิต"

Answer 3 :

เรื่องของการฝัน
เป็นเรื่องของ จิตใต้สำนึก
ไม่มีใครควบคุมมันได้หรอกลูก

จะกำหนดให้ฝันดีอย่ามีฝันร้ายก็ไม่ได้
จะห้ามตนเองมิให้ฝันก็ไม่ได้
จะบังคับตนเองให้ฝันก็ไม่ได้ด้วย

การฝันของลูกและมนุษย์ทุกคน
มันเป็นเรื่องของ "คนสองมิติ" ตามปกติ
มิใช่บททดสอบจิตสามนึก
ที่ทุกคนจะต้องสอบผ่านมันไปให้ได้

เรื่องของการฝันนั้น
มันเป็นเรื่องของคนอาหารไม่ย่อยมื้อค่ำ
เวลาหลับนอนยามค่ำคืนท้องไส้ไม่ปกติ
ทำให้กระบวนการเมตาบอลิซั่มขัดข้อง
ก็สามารถเป็นเหตุให้ "ฝันร้าย" ได้

เรื่องของการฝันนั้น
อาจเป็นการสื่อสารระหว่าง
จิตวิญญาณของตัวท่านกับอีกจิตวิญญาณหนึ่ง
ที่ดำรงอยู่บนโลกนี้ด้วยกันแต่อยู่ที่ไหนไม่รู้
ซึ่งทั้งสองมาจากตัวตนภาคแรกที่สูงส่ง
ที่เรียกว่า "จิตจักรวาลดวงเล็ก" ดวงเดียวกัน

การสื่อสารระหว่างสองจิตวิญญาณที่ว่านี้
จะเกิดขึ้นตลอดเวลาทั้งท่านหลับและตื่น
ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต
ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันนั่นเอง

ภาพมายาในฝันที่ท่านสามารถรับรู้และจำได้
มักจะเป็นช่วงเวลาที่ท่านกำลังจะตื่นนอน
โดยสมองซีกซ้ายจะตื่นก่อนที่ตัวท่านจะตื่น
เพราะสมองซีกซ้ายเริ่มมีสำนึกแล้ว
จึงสามารถบันทึกภาพมายานั้นเป็นความจำได้

เรื่องของการฝันนั้น
บ่อยครั้งเป็นความฝันที่ไร้สาระ
ที่จิตวิญญาณของท่านสื่อสารมายังจิตหยาบ
เพื่อฝึกให้จิตหยาบกับสมองสองซีก
มี "บทเรียน" ในการคิดการใช้ปัญญา
เมื่อเห็นว่า "จิตหยาบ" คือ ตัวท่านเอง
ติดจะโง่ติดจะงมงายมากเกินไปแล้ว

จึงหาเรื่องฝึกทักษะการคิดให้ด้วยความฝัน
จะคิดเป็นโชค คิดเป็นลาง หรือคิดเป็นหวย
ก็ขอให้ได้คิดได้ใช้ปัญญาดีกว่าสิ้นคิด
เพราะจิตวิญญาณรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้
จิตหยาบโง่งมงายจนใช้ปัญญาของสมองไม่ได้
จิตวิญญาณก็จะไม่สามารถ "หลุดพ้น" ได้แน่

ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
อย่าไปวิตกจริตกับความฝัน
เพราะบางทีการฝันก็คือการผ่อนคลาย
อาการเครียดทางจิตประสาท
ที่พลียะเดี้ยนพระพี่เลี้ยงของจิตวิญญาณ
เป็นผู้ช่วยให้เกิดการระบายคลายออกเช่นกัน

จงอยู่กับโลกแห่งความจริงให้มาก
แล้วรับฟังสัญชาตญาณผ่านการฝันเอาไว้บ้าง
แต่อย่าใส่ใจเกินเหตุจนเกิดทุกข์
เพราะบททดสอบจิตสามนึกมิได้มากับความฝัน
ซึ่งจะมาในชีวิตจริงในยามตื่นอยู่เท่านั้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
08/02/2020