04 กุมภาพันธ์ 2563

จงอย่ายอมให้จิตวิญญาณของท่าน แทรกแซงงานของ "จิตหยาบ" เด็ดขาด



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ขอให้ท่านจงยกระดับจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณ
เพื่อขับเคลื่อนพฤติกรรมทุกอย่าง
ในการดำเนินชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น
เพื่อช่วยกันสร้างสันติสุขบนโลกเสรีนี้
ด้วยจิตวิญญาณของท่านให้จงได้

เพราะมันเป็นหน้าที่ของจิตหยาบ
จักต้องเรียนรู้ที่จะทำเช่นว่านี้ให้จงได้
เพราะภารกิจของจิตวิญญาณทั้ง 6 อย่าง
ที่ขันอาสาองค์จิตจักรวาลกันมานั้น
จะสำเร็จไม่ได้เลยสักอย่าง
ถ้าจิตหยาบเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณมิได้

การเป็นหนึ่งเดียวกันของสองจิต
จักต้องกระทำที่จิตหยาบหรือจิตปัจจุบัน
ด้วยการสั่นสะเทือนเป็นความรักเพื่อให้
เช่น อดทน อดกลั้น ให้อภัย
เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
เมื่อเผชิญกับเงื่อนไขใดๆจากใครก็ตาม
ที่สัมผัสผ่านอายตนะภายนอกเข้ามาสู่จิตท่าน

กระบวนการที่จิตสร้างขึ้นนี้
มันคือการแทรกแซงขันธ์ 5
ด้วยการดับ "เวทนา" หรือความรู้สึกให้สิ้นไป
ซึ่งมันจะทำให้ "สังขาร" หรืออารมณ์ของท่าน
พลอยดับสิ้นตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ
กระบวนการนี้คือ #การหมุนธรรมจักร นั่นเอง

ถ้าท่านสามารถหมุนธรรมจักร
แทนกรรมจักรเป็นผลสำเร็จอย่างยั่งยืนได้
แสดงว่าท่านสามารถยกระดับจาก #คน
สู่การเป็น #มนุษย์ ได้เรียบร้อยแล้ว
ท่านจึงไม่เสียทีที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เพราะท่านพร้อมทำภารกิจของจิตวิญญาณ
นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนั้นแล้ว

แต่พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ท่านจงระลึกไว้เสมอว่า
พระบิดาให้จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ข้ามมิติเข้ามาสู่การเกิดเป็นคนสองมิติ
ทรงกำหนดให้ "จิตหยาบ" หรือจิตปัจจุบัน
ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณจนจบสิ้นอายุขัย

นั่นคือจิตหยาบของท่านต้องทำ 2 สิ่ง คือ
ต้องสั่นสะเทือนด้วยคุณสมบัติของแก่นแท้
และต้องทำตามความต้องการของแก่นแท้
ซึ่งแก่นแท้ก็คือจิตวิญญาณของท่านเอง

แต่...จงอย่ายอมให้จิตวิญญาณของท่าน
แทรกแซงงานของ "จิตหยาบ" เด็ดขาด

โดยท่านจะต้องท่องจำย้ำเน้นไว้เสมอว่า

ท่านจะยอมให้จิตวิญญาณเข้าแทรกแซง
กระบวนการของ "คนสองมิติ" ไม่ได้
เพราะมันอาจเกิดเรื่องเลวร้ายสุดๆในชีวิต
ที่ตัวท่านเองจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

เรื่องเลวร้ายสุดๆในชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้น
ถ้าท่านเปิดช่องให้จิตวิญญาณ
เข้าแทรกแซงการทำงานของจิตหยาบ
ก็คือ การแก้แค้นเอาคืนคนใกล้ตัว
ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม
ที่เป็นคู่อาฆาตของตนซึ่งเกี่ยวกรรมกันมา
เช่น เป็นพ่อแม่ลูกร่วมสายเลือดเดียวกัน
เป็นญาติพี่น้องร่วมตระกูลเดียวกัน
เป็นเพื่อนบ้านหรือเป็นเพื่อนร่วมงานกัน

ความเป็นคนใกล้ตัวเหล่านี้
ถ้ามีใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของใคร
มันจะเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุดของกันและกัน
ที่ใครพลาดเผลอเมื่อใดอาจถูก "แก้แค้น"
จนคนทั่วไปจะแปลกใจว่ามันเป็นไปได้ยังไง

ตัวอย่างที่น่ากลัว

1.ลูกทำปิตุฆาตฆ่าพ่อหรือแม่ของตัวเอง
เพียงแค่ขอเงินไปซื้อยาบ้ายาเสพติดไม่ได้

2.สามีหรือภรรยาที่รักกันมานาน
ลุกขึ้นมาทะเลาะกันทำร้ายร่างกายกัน
อย่างโหดร้ายทารุณ จนพิการหรือเสียชีวิต

3.พ่อเลี้ยงข่มขืนลูกเลี้ยงแล่วฆ่าปิดปาก

4.พี่น้องสามคนรักกันดีไม่มีปัญหา
จู่ๆพี่ชายคนโตก็คว้าปืนออกมา
ฆ่าน้องๆตายทั้งหมดอย่างเหี้ยมโหด

5.สามีฆ่าหั่นศพภรรยาของตนเอง
แล้วแยกชิ้นส่วนเอาไปทิ้งทำลายหลักฐาน

6.ขับรถกวนประสาทกันบนถนน
ฝ่ายหนึ่งคว้าปืนออกมายิงคู่กรณีถึงตาย
เหตุเกิดจากบันดาลโทสะ

7.เสี่ยใหญ่มีอีหนูเป็นภรรยาน้อย
เลี้ยงดูกันมายาวนาน
พอทราบว่าหล่อนปันใจให้หนุ่มอื่น
จึงลวงไปฆ่ายัดศพใส่รถเก๋งทิ้งถ่วงน้ำ
ทั้งๆที่ปกติเป็นคนมีธรรมะธรรมโม
ฯลฯ

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เรื่องราวที่เรายกมาอ้างอิงทั้งเจ็ดกรณีนั้น
มันไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ใช่หรือไม่
เพราะมันโหดร้าย อัมหิต ผิดมนุษย์เหลือเกิน
แต่มันก็เป็นไปแล้วเพราะเกิดแล้วบนโลกนี้

มันเป็นกรณีตัวอย่างที่ต้องใส่ใจ
อย่างน้อยการทะเลาะกันมีปากเสียงกัน
ระหว่างสามีภรรยา
ระหว่างนายกับลูกน้อง
ระหว่างเพื่อนร่วมงานทีมเดียวกัน
ระหว่างนักการเมืองในพรรคหรือต่างพรรค
ไปจนถึงการก่อสงครามกลางเมือง
เพื่อทำร้ายประเทศตนเองอย่างสิ้นคิด
ระหว่างคนต่างสีเสื้อต่างอุดมการณ์กัน
มันคือเรื่องเลวร้าย
อันเกิดจากปัญหาด้านจิตวิญญาณ
ที่มนุษย์ไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้

เนื่องจากมนุษย์ทุกคนต่างมีอดีตชาติ
หลายคนอาจเคยมีแค้นแบบฝังหุ่นต่อกันมา
ภพชาตินี้จึงตามมาเกิดร่วมกัน
เพื่อคอยจ้องหาโอกาสแก้แค้นกันนั่นเอง

การมาเกิดอยู่ในสังคมเล็กๆด้วยกัน
ก็เพราะมันง่ายดายต่อการแก้แค้นกัน
โดยไม่ต้องเที่ยวตามหาว่าคนที่ตนต้องการ
มันไปเกิดอยู่แห่งหนตำบลไหน
เพื่อติดตามหาทั้งใกล้หรือไกลให้เสียเวลา

ดังนั้น
จงจำไว้เถิดว่าพระบิดาทรงยอมให้
พวกท่านทั้งหลายที่ยังอาฆาตกันอยู่มิรู้หาย
มาเกิดใหม่ในชาตินี้อย่างใกล้ชิดกัน
ก็เพื่อเปิดโอกาสให้แก้แค้นชำระความกัน
สำหรับผํู้ที่ดับแค้นของตนไม่ได้ให้จบสิ้น
เนื่องจากโลกสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว

สิ่งที่ทุกท่านต้องทำและจำไว้นับแต่นี้
หากท่านต้องการอยู่รอดปลอดภัยในชีวิต
คำเตือนของเราก็คือ...
จงอย่าทำตน "เป็น" เงื่อนไขด้านลบ
จงอย่าทำตน "สร้าง" เงื่อนไขด้านลบ
จนเป็นเหตุให้คนรอบข้างตัวท่านไม่ว่าใคร
ถูกท่านยั่วยุเสียจนเกิดการ #เสียสติ เด็ดขาด

เพราะขณะที่คนนั้นเขาขาดสติหรือสติแตก
ไม่ว่าจะเกิดจาก "โกรธจัด" หรือ "ตกใจ"
จิตหยาบของเขาจะเสียสมดุลทันที
จนไม่พร้อมที่จะขับเคลื่อนจิตสามนึกได้
จิตวิญญาณก็จะฉวยโอกาสเข้าสวมรอยแทน
ขณะที่จิตหยาบกำลังอ่อนแอขาดพลัง

ณ บัดนั้น
พวกท่านก็จะกล่าวว่า
จะเกิด "อารมณ์ชั่ววูบ" ที่น่ากลัวขึ้น
จนสามารถทำร้ายหรือเอาชีวิต
คนที่ยั่วยุนั้นอย่างไม่น่าเป็นไปได้

เพราะจิตวิญญาณของคนนั้นจะฉวยโอกาส
นำความแค้นอาฆาตที่ถือติดตัวมาจากอดีต
มาสางแค้นคู่อาฆาตจากชาติที่แล้ว
ในขณะที่จิตหยาบขาดสติหรืออ่อนแอ
แม้แต่เพียงชั่ววูบชั่วขณะก็ตาม

ที่ผ่านมาเราจึงเตือนท่านเสมอว่า
ให้หมั่นฝึก #ครองมหาสติ เอาไว้ให้จงหนัก
ยิ่งพายุสุริยะเข้มข้นรุนแรงมากเท่าใด
ยิ่งสนามแม่เหล็กโลกอ่อนไหวอ่อนแอแย่ลง
โอกาสที่มนุษย์จะเสียสติง่ายก็มีสูงอยู่แล้ว

เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ท่านจงใช้ Parinya Model 3:
คือ #กฎแห่งการปิดประตูกรรม
ด้วย 6 จอ คือ
1.จงอย่าทำอะไรโดยไม่แคร์ผู้อื่น
2.จงอย่าใช้อำนาจเหนือนำผู้อื่น
3.จงอย่าเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น
4.จงอย่าหมายเอาชนะผู้อื่นจนพร่ำเพรื่อ
5.จงอย่าเป็นอุปสรรคขัดขวางประโยชน์ผู้อื่น
6.จงอย่าทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเขาต่ำต้อยด้อยค่า

ขอให้ท่านทั้งหลาย
จงชำระกรรมให้เหลือไม่เกิน 30%
เพื่อรับรางวัลพิเศษจากองค์จิตจักรวาล
ให้ทันก่อนกาลชำระโลกคาบสุดท้าย
ในระหว่าง 56 วัน หรือ 8 ราตรีเถิด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
04/02/2020