"อย่านำท่านเข้าในการทดลอง" หมายความว่าอย่างไร?

ตอบคำถาม : #‎ภูษิตา สุริยวงศ์

Question :
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
มีคำถามเจ้าค่ะ

จากสไลด์เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2019 ความว่า

"ตราบที่กายสังขารท่านยังอ่อนกำลัง
และจิตวิญญาณท่านยังไม่พร้อม
จงเร่งรัดปฏิบัติตนและอธิษฐาน
ขอพระองค์อย่านำท่านเข้าในการทดลอง "

ความตอนท้ายที่ว่า...
"อย่านำท่านเข้าในการทดลอง"
หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ

Answer :

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

การที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน

ขันอาสาพระองค์ลงมาเกิดเป็นคน
เพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์บนโลกเสรีนี้
ซึ่งมีความหมายเดียวกัน
กับการเข้ามาแทรกแซงขันธ์ 5
ด้วยการ "หมุนธรรมจักร" แทน "กรรมจักร" นั้น

จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
จักต้องเขียน "บทละคร" ร่วมกันเป็นครอบครัว
เพื่อร่วมแสดงไปตามบทละครนั้น

โดยมีหน้าที่ต้องทำร่วมกัน 5 ประการ คือ

1.เรียนรู้โลกและชีวิตร่วมกันว่าอะไรเป็นอะไร

2.ต้องเรียนรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษผิดถูกดีชั่ว

เพื่อการยกระดับจิตตปัญญา
และพัฒนาจิตสามนึกของตนเอง
ให้สูงสุดทางด้านบวกในชีวิตประจำวันให้ได้
เพื่อสร้างสังคมโลกให้มีสันติสุขและสมดุล

3.ต้องสอบให้ผ่าน "บททดสอบ" จิตสามนึก
ที่ต่างคนต่างผลัดกันช่วยยื่น "เงื่อนไข" ให้
ทั้งที่เป็นข้อสอบด้านดีและด้านร้าย
ทั้งที่เป็นข้อสอบที่ยากๆและแสนง่าย

โดยจะต้องใช้ปัญญา "รัก" ทุกคนให้ได้
ต้องใช้ปัญญาให้อภัยให้เป็นโดยไม่ถือสา
แม้ว่าใครคนนั้นจะทำตัวไม่น่ารัก
และจะต้องไม่ก้าวล่วงใคร
แม้ว่าใครคนนั้นจะก้าวล่วงท่านก่อนก็ตาม

4.ต้องเรียนรู้ที่จะสอบผ่านการมีภพชาติ
ด้วยการ "คน" มิติกายหยาบกับมิติจิตวิญญาณ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันให้สำเร็จให้จงได้
เมื่อท่านได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์

5.ยกระดับ "จิตหยาบ" ให้สั่นสะเทือนด้านบวก
เพื่อทำหน้าที่แทน "จิตวิญญาณ" ของตนให้ได้

โดยใช้จิตสามนึกและกายสังขารหรือกายหยาบ
เป็นเครื่องมือทางจิตวิญญาณของท่าน
แสดงบทบาทของคนสองมิติที่เรียกว่า #มนุษย์
ด้วยการปฏิบัติตาม "พันธะสัญญา 6"
ที่จิตวิญญาณของท่านขันอาสาพระบิดาว่า
จะรักษาสัจจะด้วยการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ได้รับโอกาสมาเกิดแล้ว

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ภารกิจทางจิตวิญญาณ 5 ประการข้างต้นนี้
จิตหยาบหรือจิตปัจจุบันของท่าน
มี "หน้าที่" จะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้

โดยใช้ความฉลาดทางจิตคือรักได้

และใช้ปัญญาของสมองคือฉลาดคิดรู้
ฉลาดเรียนรู้ และฉลาดตอบสนองด้านบวก
ร่วมกับพลังอำนาจแห่งกายสังขาร
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิบัติ

ดังนั้น

จิตหยาบของท่านต้องสั่นสะเทือนด้านบวก

ให้เป็นคุณสมบัติเดียวกันกับจิตวิญญาณให้ได้

ถ้าจิตหยาบยังอ่อนแอไม่เข้มแข็ง
โดยยังตกเป็นทาสอารมณ์ขยะรายวันอยู่
ท่านก็ยังไม่พร้อมต่อภารกิจทางจิตวิญญาณ

หนึ่งสมองของท่านทั้งสองซีกซ้ายขวา
จิตหยาบของท่านจะต้องสามารถกดปุ่มใช้งาน
ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
ต้องใช้งานได้อย่างปราดเปรียวเชี่ยวชาญ
ทั้งงานด้านการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์

กายสังขารของท่าน
จะต้องไม่พิการหรือทุพลภาพ
ทั้งสองมือสองเท้าและอวัยวะร่างกาย
จักต้องแข็งแรงและมีพลานามัยดีไม่อ่อนแอ
กลไกอายตนะทั้งหมดจักต้องสมบูรณ์
พร้อมที่จะใช้เพื่อการ "รับรู้" แล้ว "เรียนรู้"
โดยไม่พิการจริงและไม่พิการเทียมเท็จ
จนไม่สามารถหมุนเวียนธรรมจักรในตนเอง
ร่วมกับการหมุนธรรมจักรของคนรอบข้างได้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

จิตหยาบของท่าน
จะต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนกายหยาบ
เพื่อทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณให้สำเร็จ
ทั้งในมิติโลกและมิติของจิตวิญญาณ
ทั้ง 5 ประการตามที่เรากล่าวมา
ตั้งแต่ทันทีที่เจ้ากุมารน้อยคนนั้น
มีอายุขัยครบ 3 ขวบปีบริบูรณ์แล้ว

การเรียนรู้ของจิตหยาบในทุกขั้นตอน
ในทุกกระบวนการของทั้งสองมิติ
ที่แต่ละท่านต้องทำให้สำเร็จร่วมกัน
เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับดาวเคราะห์โลก
ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกัน
กับการคนตนเองให้เป็นมนุษย์นั้น
มันคือ "แผนการทดลอง" ของพระบิดา
ที่พวกท่านขันอาสาพระองค์มาว่า
จะต้องทำให้สำเร็จก่อนสิ้นยุคพลังงานเก่า
คือยาวนาน 6 หมื่นปีโลก

ด้วยเหตุนี้เอง

ถ้าหากท่านพบว่าตนเองนั้น

ยังไม่พร้อมและยังไม่มั่นใจมากพอ
ที่จะเข้าร่วมแผนการทดลองของพระองค์
เพื่อการปฏิบัติตามบทละคร
และเผชิญบททดสอบที่ท่านเลือกมาเอง
ท่านก็สามารถร้องขอต่อพระองค์
อย่านำท่านเข้าทดลองเป็นการชั่วคราวได้

ความไม่พร้อมที่ท่านสามารถร้องขอ
ไม่เข้าร่วมทดลองชั่วคราวได้มีดังนี้

1.ในภพชาตินี้
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ต้องการเวลาที่จะพักผ่อนบ้าง

เนื่องจากในภพชาติต่างๆที่ผ่านๆมานั้น
ท่านได้ผ่านการเรียนรู้และการถูกทดสอบ
อย่างสะบักสะบอมมากจนอ่อนล้ามาแล้ว

2.ในภพชาตินี้
เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่านไม่สมบูรณ์
เพราะยังถูกกฎแห่งกรรมครอบงำอยู่
เนื่องจากจิตหยาบในอดีตชาติ
สอบตกบททดสอบจิตสามนึกบางอย่าง
จึงต้องมีพันธะกรรมรับผิดชอบ
ในความผิดพลาดล้มเหลวนั้น
มาถึงในภพชาติปัจจุบัน

ซึ่งมันทำให้ท่านขาดความพร้อม
ที่จะเผชิญกับทุกสิ่งอย่างมั่นใจได้ว่า
จะสามารถผ่านการทดลองของพระองค์
ได้อย่างราบรื่นและองอาจสง่างาม

3.ในภพชาตินี้
แม้กายสังขารจะพร้อมเข้าสู่การทดลอง
แต่ถ้าหากสภาวะจิตใจของท่าน
ยังต้องการเวลา
เผชิญกับบทเรียนบททดสอบด้านดี
ที่เรียบง่ายไม่สลับซับซ้อนบ้าง

ท่านก็สามารถร้องขอต่อพระองค์
สลับเอาบทเรียนบททดสอบในอนาคต
เข้ามาใช้ในกระบวนการทดลองในปัจจุบัน
ได้ตามความประสงค์เสมอ

แต่ท่านจักต้องระลึกเอาไว้เสมอว่า
การกระทำของท่านเช่นว่านี้
จะมีผลต่อบทเรียนบททดสอบที่เหลือ
ที่ตัวท่านเองกับจิตวิญญาณ
จะต้องเผชิญกับมันในอนาคตด้วย

เช่น ถ้าขอเอาสิ่งดีๆมาใช้ก่อนจนหมดสิ้น
เหลือไว้แต่บทเรียนกับบททดสอบร้ายๆ
ในอนาคตนั้นท่านจะรับมือกันไหวแน่หรือ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24/01/2020