07 กุมภาพันธ์ 2559

มาร มี 2 จำพวก


เราจะกล่าวความจริงเรื่องการชำระโลก
ที่ท่านทั้งหลายจักต้องระวัง
มิให้ถูกมารหลอกล่อ หลอกลวง
ให้หลงผิดคิดเป็นถูก 
ล่อให้หลงทางไปนิพพานกันง่ายๆ

โดย "มาร" ที่ท่านต้องระวัง
จะมี 2 จำพวก คือ 

1.มารภายใน:

เป็นมารที่เร้นอยู่ในจิตใจของท่านเอง
ยิ่งถ้าท่านเป็นคนที่ไม่มี "มหาสติ"
ไม่สามารถถือครองได้ในชีวิตประจำวันแล้ว
ท่านก็จะตกเป็นทาสของ "มาร" ทันที
เพราะมันจะคอยรอโอกาส
ในยามที่ท่านเผลออยู่แล้ว

ผู้ที่ไม่สามารถแทรกแซง
กระบวนการสั่นสะเทือนของขันธ์ 5
ที่เป็นการหมุน "กรรมจักร" 
สืบเนื่องมาตั้งแต่อายุสามขวบได้
จะเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงสูง

มารภายในที่ว่านี้ก็คือ
ตัวกิเลสตัณหาซึ่งอยู่ในรูปของ 

"ความรู้สึก ความนึกคิดต้องการ 
และความอยาก"

ถ้าท่านยอมให้มันเป็นนาย
โดยตกเป็นทาสของพวกมันอย่างง่ายดาย
ท่านก็จะเป็นผู้หมุนกรรมจักรไปตลอดชีวิต
ซึ่งจะปิดหนทางหลุดพ้นคือนิพพาน
ของแก่นแท้ของท่านจนสนิทเลยทีเดียว

ดังนั้น
ในคาบเวลาแห่งปฏิบัติการชำระโลกนี้
ท่านจึงต้องเร่งปฏิบัติการชำระจิตให้ใส 
ชำระใจให้สวยด้วยตัวท่านเองด้วย
โดยจักต้องสอบให้ผ่าน "บททดสอบกิเลส"
ที่ท่านจะถูกหยิบยื่นมาให้จากคนรอบข้าง
อย่างไม่ว่างเว้นเลยในแต่ละวัน

เจ้าโลภะ โทสะ โมหะ นี่แหละ
ฝึกนั่งกรรมฐานสมาธิมาแยะแล้วนี่
ลองเผชิญหน้ากับบททดสอบหลากหลาย
ในขณะลืมตา ตื่นรู้ หูเปิดกันดูสิว่า
ท่านจะรักษาสมดุลของจิตเอาไว้ได้
เหมือนตอนนั่งหลับตาอยู่คนเดียวหรือไม่
ลองตรวจสอบตนเองดูนะ

ส่วนท่านที่ฝึกครองมหาสติ
หรือ "ธรรมชาติสมาธิ" 
ตามวิถีจิตจักรวาลได้จนชำนาญแล้วนั้น
เรามิได้ห่วงใยท่านแต่ประการใดแล้ว
เพราะมารภายในนั้นท่าน "เอาอยู่" แน่ๆ

2.มารภายนอก:

เป็นมารที่มีรูปลักษณ์หน้าตาตัวตนเป็น "คน"
เหมือนกับท่านทั้งหลายนี่แหละนะ
พวกท่านจึงไม่กลัวทั้งๆที่พวกเขาน่ากลัว

พวกเขาจะแสวงหาคนที่
มีคุณสมบัติของควาย 9 ตัวที่เราชี้ไว้
ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้สภาวะจิตอ่อนแอมากสุด

จุดอ่อน 9 จุดที่ว่านี้ คือ
1.ความไม่รู้
2.ความไม่ฉลาด
3.ความลุ่มหลงงมงาย
4.ความอยากรู้อยากเห็น
5.ความอยากรวย
6.ความต้องการที่จะประสบผลสำเร็จ
7.ความกลัว
8.ความลี้ลับมหัศจรรย์
9.ความหัวอ่อน เชื่อง่าย

ใคร? กับ ใคร? (มีค้านเราอยู่สองคน)
ที่ขึ้นมาเม้นท์ "คัดค้าน" คำกล่าวของเรา
โดยเน้นควายตัวที่ ชื่อ "ความรวย" 
ในทำนองไม่เห็นด้วยว่า
จะให้ปฏิเสธความรวยได้ไง
เป็นมนุษย์ยังต้องแสวงหาความร่ำรวยอยู่
หรืออะไรทำนองนั้น...

เอาเป็นว่า "รอฟังพระโอวาท" ตอนต่อไป
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านฟังว่า
สิ่งที่ท่านเชื่อกับสิ่งที่เราจะสื่อ
จากพระบิดามาสอนพวกท่าน
ความจริงที่จริงแท้นั้น "อะไรเป็นอะไร"

ท่านอย่าเพิ่งชิง "ไม่อะไร กับอะไร"
อย่างที่ฮิทฟิตสอนกันเสียก่อนก็แล้วกัน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
7-2-2016