29 กุมภาพันธ์ 2559

ความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม: 1


จิตจักรวาลอ่านกรรม:
*********************
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อท่านได้เรียนรู้กันมาบ้างแล้วว่า
กฎแห่งกรรมในมิติทางพลังงาน
ด้านของจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านนั้น
กระบวนการและกฎเกณฑ์ตามคำกล่าวที่ว่า
"กรรมสนองกรรม" เป็นเช่นไรแล้ว

ท่านจักต้องรู้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า
กรรมเวรที่ทำซึ่งมันจะสะท้อนกลับมาหาท่าน
ในรูปของ "เวรกรรม" แบบต่างๆ
ในภพชาติต่อมานั้น
แท้จริงแล้วมันมิใช่การ "ชดใช้"
เยี่ยงการคิดแบบจิตมนุษย์แต่อย่างใด
มันเป็นบทเรียนทางจิตวิญญาณต่างหากล่ะ

การรับผิดชอบเบื้องแรก
ในกรรมเวรที่ทำไว้
ทันทีที่จบสิ้นอายุขัยในภพชาตินี้
ก็คือจิตวิญญาณของท่าน
จะถูกนำส่งลงไปยังภพภูมินรกก่อน
เพื่อปรับสมดุลให้กับจิตวิญญาณนั้น
เนื่องจากจิตหยาบทำให้
จิตวิญญาณมีการหลงมิติเกิดขึ้น

จนเมื่อปรับสมดุลได้ดังเดิมแล้ว
จิตวิญญาณนั้นจึงจะได้รับโอกาสให้
คืนกลับสู่การเกิดเป็นมนุษย์
ในภพชาติถัดไปอีกครั้ง

ถ้าใครก็ตามก่อกรรมเวรไว้ในชาตินี้
ด้วยการทุบตี ทำร้าย ดุด่า 
บิดรมารดาของตัวเอง

บทเรียนโลกที่คนๆนั้น
จะต้องเผชิญในภพชาติหน้าก็คือ 
"ชะตากรรม" ที่จะเป็นบทเรียน
ให้เขาคนนั้นได้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เพื่อจะใช้เวลาทั้งอายุขัยในภพชาตินั้น
สร้างสำนึกใหม่ที่ถูกต้องดีงามให้ได้ว่า

ตนเองนั้นได้กระทำกรรมเวรอันใดมา
จึงต้องเผชิญกับชะตากรรมเยี่ยงปัจจุบันนั่น

ท่านว่ามันยากมั้ยล่ะ...
ที่ท่านหรือใครก็ตามจะสามารถสำนึกบาป
ที่ตนได้กระทำไว้ในอดีตชาติได้ง่ายๆ
ในเมื่อตาที่สามของท่าน
ถูกอำนาจแม่เหล็กโลกปิดบังมิติเอาไว้

ในฐานะที่เราได้กลับมาอีกครั้งตามสัญญา
เพื่อจะช่วยนำพาแก่นแท้ของท่านกลับบ้าน
เราจึงจะเฉลยความจริงให้ท่านเก็บตุนไว้
เผื่อท่านจะได้ใช้มัน
กระตุ้นจิตสำนึกที่ถูกต้องของท่าน
หากวันนี้...ชาตินี้...
ท่านมีชะตากรรมที่ต้องเผชิญคือ

1.แขนขาพิการ หูหนวก 
มาตั้งแต่เกิด....

เหตุเพราะได้ทำผิดบาปไว้ในชาติที่ผ่านมา
ด้วยการใช้มือและเท้าทุบตีทำร้ายพ่อแม่
อันเป็นการใช้มือและเท้าก่อกรรมเวร
ต่อผู้มีพระคุณของตนเอง
อย่างไม่รู้คุณค่าของอวัยวะที่ตนมีอยู่

2.เป็นใบ้มาตั้งแต่กำเนิด
และมีเสียงพูดที่น่าเกลียด.....

เหตุเพราะชาติที่ผ่านมา
เป็นคนที่ชอบดุด่าว่ากล่าว
ตัดพ้อต่อว่าใช้วาจาก้าวล่วง
พ่อแม่บุรพการีของตนเองอยู่เป็นนิจ

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
เวรกรรมทั้งสองประเภทนี้
มันจะเป็นโมฆะกรรม
หรือมันจะสิ้นสุดยุติได้ก็ต่อเมื่อ

ในภพชาตินี้ทั้งภพชาติ
ท่านหรือใครคนนั้นจักต้อง
สำนึกผิดด้วยจิตหยาบ 
สำนึกบาปด้วยจิตวิญญาณให้ได้ว่า

บิดรมารดาเป็นดั่งพระอรหันต์ในบ้าน
ท่านทั้งสองเป็นผู้มีพระคุณ
เพราะเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่บุตรเช่นท่าน
ท่านจึงจะกระทำการใดๆก้าวล่วง
ในบทบาทของบุตรอกตัญญูไม่ได้
และท่านจักต้องยอมรับชะตากรรม
อันไม่พึงประสงค์ของตนนั้นให้ได้ด้วย
จึงจะสามารถ "ยุติกรรมนั้น" ได้
อย่างสิ้นเชื้อ.....

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-2-2016