29 กุมภาพันธ์ 2559

การงมงาย



บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย

ความเชื่อของพวกเจ้าในสิ่งใดเรื่องใด
โดยมิได้ใช้ปัญญา
พิจารณาให้ถ่องแท้เสียก่อน
เพียงแค่เพราะหลงผิด
นึกคิดไปเองว่าใช่จึงเชื่อเลยนั้น
มันคือ "การงมงาย" โดยแท้

งมงายเพราะเชื่อ
ทั้งๆที่ตนเองยังอธิบายมันไม่ได้
ว่าอะไรเป็นอะไร

งมงายเพราะเชื่อ
ทั้งๆที่ตนเองยังไม่เข้าใจ
ว่าอะไรเป็นอะไร

งมงายเพราะเชื่อ
ทั้งๆที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า
สิ่งที่เชื่อนั้นถูกต้องเป็นจริงแน่แล้ว

ตัวอย่างเช่น....
เพียงแค่เจ้ารู้เห็นว่า
จิตวิญญาณแก่นแท้ของครูบาจารย์
เมื่อสิ้นอายุขัยไปจากการเป็นมนุษย์แล้ว
ท่านก็ "หลุดลอย" ขึ้นไป
ติดค้างอยู่บนสวรรค์มายา
โดยนามสมมติของสวรรค์ตรงนั้น
อาจเรียกกันว่า "ดุสิต" หรืออะไรก็ตาม

เพียงเพราะเจ้าศรัทธาเชื่อมั่นว่า
ครูบาจารย์ของเจ้านั้นเป็นผู้เข้าถึง
ความสมดุลทางจิตวิญญาณได้
จึงย่อมบรรลุมรรคผลสูงสุด
คือนิพพานได้แล้วแน่ๆ
ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่
ความเชื่อส่วนตัวของเจ้าเท่านั้น
เพราะความเชื่อกับความจริงน่ะ
มันเป็นคนละเรื่องกัน

เมื่อเจ้าเชื่อว่าครูบาจารย์นิพพานได้แล้ว
ดินแดนที่จิตวิญญาณของครู
หลุดลอยขึ้นไปติดคาอยู่ตรงดุสิตมายา
มันก็จะกลายเป็น "แดนนิพพาน" 
ตามความเชื่อของเจ้าไปทันที
ทั้งๆที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่

นอกจากนั้น
พวกเจ้าบางคนยังสามารถสื่อสารทางจิต
กับดวงวิญญาณของครูบาจารย์ท่านนั้น
ได้อีกต่างหากด้วย
จึงยังผลให้ทั้งครูทั้งศิษย์หลงผิด
คิดว่านิพพานเป็นอัตตาเข้าให้อีก

โดยหลงผิดคิดว่า
แดนดุสิตมายาคือสถานีสุดท้าย
ปลายทางของจิตวิญญาณ
ทั้งๆที่มันไม่ใช่หรือไม่จริง

จึงหลงผิดต่อไปอีกว่า
ถ้าตนสามารถสื่อจิตกับครูบาจารย์ได้อยู่
แสดงว่าแดนนิพพานนั่นต้องเป็นอัตตา
กล่าวคือต้องเป็นดินแดนที่ยังมีอัตตาอยู่
ไม่งั้นครูของตนจะสื่อสารกับพวกตนได้อย่างไร

นี่แหละ...บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
ใยจึงเชื่อทั้งๆที่อธิบายไม่ได้
ใยจึงเชื่อทั้งๆที่พระศาสดา
ก็ทรงตรัสสอนเอาไว้แล้วว่า
นิพพานคือดับการเกิดดับอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เมื่อดับสิ้นแล้วมันยังจะเหลืออะไร
ไว้สื่อสารสัมพันธ์กับใครกันอยู่อีกหรือ
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดา
เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา
กล่าวตามพระโอวาทที่ทรงเมตตา
26-2-2016