06 มกราคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 06/01/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

06/01/2021



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

กฎหลักของจิตจักรวาล
สำหรับมนุษย์โลกเสรีนี้และทุกสรรพสิ่ง
ที่ดำรงตนอยู่ร่วมกันภายใน อนันตจักรวาล
อันหมายถึง เอกภพ อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้นั้น
จักต้องมีคุณสมบัติเหมือนกันข้อหนึ่งก็คือ

ทุกคนและทุกสรรพสิ่ง
จักต้องมีพลังอำนาจในตนเอง
ในอันที่จะดึงดูดเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้เสมอ

ถ้าอยู่ใกล้ชิดกันมากก็ใช้พลังเหนี่ยวรั้งไว้ได้มาก
ถ้าอยู่ห่างออกไปก็เหนี่ยวรั้งไว้เพียงมิให้ลืมกัน

ไม่ต่างจากคนที่ใกล้ชิดกันมาก
ย่อมต้องใช้อำนาจแห่งรักยึดรั้งกันไว้มากหน่อย
เพื่อใช้ค้ำจุนความสมดุลในจิตใจกันไว้ให้มั่นคง
หากเมื่อใดเกิดการกระทบกระทั่งกันเข้า
จึงนอกจากจะเหนี่ยวรั้งกันไว้ด้วยความรักแล้ว
มนุษย์ยังจะต้องมีความอดทน
มีความอดกลั้น และรู้จักการให้อภัยกันด้วย

สำหรับคนที่อยู่ห่างไกลตัวท่าน
ขอเพียงแค่คิดถึงกันไว้เสมอ
ไม่ลืมความเป็นบิดามารดา บุตรหลานหรือบริวาร
ไม่ลืมความเป็นญาติสนิทมิตรสหาย
ไม่ลืมความเป็นครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณ
นี่ก็เป็น "คุณสมบัติแห่งคุณธรรม"
ที่มนุษย์โลกและทุกสรรพสิ่งล้วนมีต่อกันทั้งสิ้น

เพราะทุกท่านต้องมี สำนึกแห่งรัก นี่เอง
เราจึงหมั่นย้ำเตือนให้มนุษย์โลกทั้งหลาย
ต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกของตนร่วมกัน
ให้เกิดเป็น จิตสามนึกแห่งหมู่คณะ ให้จงได้
เพื่อให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับทุกสรรพสิ่ง
ที่ดำรงอยู่ในจักรวาลอันไพศาลนี้
ตามที่พระบิดาหรือพระผู้สร้างทรงกำหนดไว้ให้

แปลว่าพระองค์มิได้ทรงบังคับพวกท่าน
แต่ให้พวกท่าน รู้สำนึก ได้ด้วยตนเองว่า
พวกท่านจักต้องทำไม่ทำไม่ได้
โดยจะยึดถือตนว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ
จึงมีอภิสิทธิ์พิเศษหรือเป็น "เด็กเส้น" ไม่ได้

เพราะพวกท่านเป็นมนุษย์
ที่มีพลังงานชนิดพิเศษเป็นแก่นแท้
คือ เป็นกล่องพลังงานที่เรียกว่า จิตวิญญาณ
ซึ่งสามารถสั่นสะเทือนแก่นแท้
เพื่อแสดงออกซึ่ง คุณสมบัติ ที่เป็นสากลได้เอง

เพราะพระบิดาฯหรือพระผู้สร้าง
ทรงอนุญาตให้มนุษย์ทุกรูปนาม
ซึ่งเป็นมนุษย์ที่ดำรงอยู่บน โลกแห่งทางเลือกเสรี
ที่สามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึก
ด้วยจิตตปัญญาที่ติดตั้งอยู่ในกายสังขาร
ซึ่งสร้างพลังอำนาจในตนเองได้อย่างเสรีอยู่แล้ว
โดยพระองค์มิพักต้องทรงกำหนด "คุณสมบัติ"
เอาไว้ให้พวกท่านต้องแสดงตามที่ทรงบังคับไว้
เหมือนสรรพสิ่งอื่นๆภายในอนันตจักรวาลนี้เลย

หมายความว่า
ทรงอนุญาตให้มนุษย์เช่นพวกท่าน
สามารถสั่นสะเทือนเป็นความรัก
เพื่อดึงดูดเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันได้โดยเสรี
โดยต้องสั่นสะเทือนเป็น "รักเพื่อให้"
ให้กับทุกคนทุกสรรพสิ่งอย่างไร้เงื่อนไขเท่านั้น

คำว่า รักเพื่อให้ หรือ "รักอย่างไร้เงื่อนไข"
ที่พวกท่านทั้งหลายต้องแสดงออกหรือกระทำ
ต่อคนรอบข้างให้ได้ไม่ว่าเขาคือใครก็คือ

ไม่ว่าจะเป็นคนกันเอง
คนแปลกหน้า หรือ คนทำตัวไม่น่ารัก

จะเป็นหมู หมา กา ไก่ เป็นดอกไม้ หรือก้อนหิน
จะเป็นคนข้างบ้าน ใกล้บ้าน ไกลบ้าน
จะเป็นคนดี คนชั่ว หรือ คนที่ยังไม่แน่ว่าดีหรือชั่ว
จะเป็นคนที่ชอบ หรือ คนที่ชัง
ท่านจักต้องหา "เหตุผล" เพื่อรักเขาให้ได้ทุกคน
ซึ่งท่านต้องขีดเส้นใต้คำว่า ทุกคน ไว้เสมอ

เพราะว่า "ดวงจันทร์" กับ "โลก" ต่างรักกัน
ดาวทั้งสองจึงเหนี่ยวรั้งกันไว้ด้วยพลังรัก
อันเป็นความรักเพื่อช่วยให้ทั้งสองดวง
มีความสมดุลกันขณะโคจรร่วมกัน
โดยไม่เฉี่ยวชนกันหรือไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน
ที่จะเป็นเหตุให้ดาวทั้งสองดวงวิบัติไปด้วยกัน
ต่างจึงดำรงอยู่ร่วมกันมานานนับล้านๆปีแล้ว

สรรพสิ่งไม่มีชีวิตและสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆ
ซึ่งไม่มีโครงสร้างทางกายภาพสลับซับซ้อน
ทั้งไม่มีจิตสามนึกที่สูงส่งเหมือนมนุษย์
แต่พวกเขาสามารถสำแดงคุณสมบัติแห่งรัก
ออกมาเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้อย่างมั่นคง
โดยไม่ทำผิดพลาดบกพร่องเหลวไหลได้
แล้วใยมนุษย์เช่นพวกท่านทั้งหลายจึงทำไม่ได้
จนยังผลให้ดาวเคราะห์โลกเสียสมดุลไปมาก
ทำให้ภัยพิบัติต้องเกิดขึ้นมาอย่างไม่น่าจะเกิด

คนจะตายจำนวนมากและแผ่นดินโลกบางส่วน
จะลบหายย้ายออกไปจากพื้นที่ตรงปัจจุบันนั้น
มันกำลังจะทะยอยเกิดขึ้นให้โลกได้ประจักษ์
โดยท่านทั้งหลายมิพักต้องรอชม

กราบพระบาทพระบิดาฯ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา

6/01/2021