28 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 28/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

กรณีที่เกิดมีปรากฏการณ์

"อาทิตย์อับแสง" เฉพาะบนดาวเคราะห์โลก

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2019

ที่กล้องของดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์

ของ NASA ทำการบันทึกภาพเอาไว้ได้นั้น

มีการยืนยันแล้วว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

 

นอกจากนั้น

ยังสังเกตได้ด้วยว่าความสว่างของดวงอาทิตย์

ขณะเกิดปรากฏการณ์นี้

มีความสว่างน้อยกว่าดวงจันทร์อีกด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

มิได้เกิดจากความผิดปกติของกล้องบันทึกภาพ

มิได้เกิดจากการกระทำของ Aliens เผ่าดาวอื่น

มิได้เกิดจากความบังเอิญแต่อย่างใด

แต่ปรากฏการณ์นี้มีผู้อยู่เบื้องหลังของการเกิด

ซึ่งเราขอเรียกว่า "ช่างเท็คนิก" ของพระบิดาฯ

เป็นผู้สร้างขึ้นมาในมิติทางพลังงาน

ด้วยเจตนาให้มนุษย์โลกรับรู้จึงสำแดงมายาให้เห็น

นี่จึงเป็นการเปิดเผยความลับเบื้องหลังมิติโลก

ซึ่งเป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้นครั้งที่สองแล้ว

โดยปรากฏการณ์ที่เปิดเผยในครั้งแรก

 

เป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2019

ซึ่งเราได้นำมาเปิดเผยไว้ในห้องเรียนนี้แล้ว

นั่นคือ การสร้างปรากฏการณ์ "รูหนอน"

ที่ใช้ในการย้ายมวลและรูปธรรมทางพลังงาน

จากต่างจักรวาลเข้ามาสู่ระบบสุริยะของโลก

เพื่อปฏิบัติการทางเท็คนิกต่างๆในการชำระโลก

ให้เปลี่ยนจากยุคพลังงานเก่าสู่ยุคพลังงานใหม่

ตามแผนการที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ซึ่งขณะนี้ก็กำลังปฏิบัติการชำระโลกกันอยู่แล้ว

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

ปรากฏการณ์ "อาทิตย์อับแสง" ชั่วคราวนี้

เป็นการกระทำของช่างเท็คนิกหรือฑูตสวรรค์

ในการสร้างระบบโครงข่ายพลังงานที่เหนียวแน่น

ซึ่งถูกถักทอขึ้นใช้เป็นพิเศษสำหรับภารกิจพิเศษ

เพื่อใช้ "ซับกรอง" คลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า

ที่ถูกส่งออกมาจากจุดดำบนดวงอาทิตย์

ให้ลดทอนพลังอำนาจลงในระดับที่ควบคุมได้

โครงข่ายพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นนี้

ถูกถักทอขึ้นให้มีลักษณะคล้ายตาข่ายหรือร่างแห

ดังภาพที่ NASA บันทึกได้จากเงาบนดวงอาทิตย์

ซึ่งเราได้นำหลักฐานมาสำแดงให้เห็นไว้ด้วยแล้ว

 

โดยช่างเท็คนิกได้ทำการติดตั้งเอาไว้

คล้ายการติดตั้งอวนหรือตาข่ายดักปลา

เพื่อคอยดักดูดซับคลื่นพลังงานจากพายุสุริยะ

ที่จะถูกส่งมายังระบบโลกให้ลดทอนลง

ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผลต่อการดูดซับคลื่นแสงด้วย

เพราะคลื่นความถี่แสงก็เป็นคลื่นพลังงานเช่นกัน

 

ซึ่งเป้าประสงค์หลัก

ในการสร้างโครงตาข่ายพลังงานขึ้นนั้น

ก็เพื่อต้องการควบคุมระดับความเข้มข้น

 

ของคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก

ที่จะถูกส่งเข้ามาในระบบโลก

ให้อยู่ในระดับที่ต้องการนั่นเอง

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่าในอดีตนั้น

การเกิดพายุแม่เหล็กในบรรยากาศโลก

การเกิดปรากฏการณ์ด้านภัยพิบัติต่างๆ

เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด

พายุหมุนรุนแรง พายุฝน พายุหิมะ พายุลูกเห็บ

คลื่นอากาศร้อน คลื่นอากาศหนาวเย็น เป็นต้น

มหันตภัยพิบัติที่เกิดจากปรากฏการณ์เหล่านี้

โลกได้รับอิทธิพลมาจากพายุสุริยะแทบทั้งสิ้น

ถ้าหากไม่นับภัยพิบัติอันเกิดจากมนุษย์

เป็นผู้กระทำให้โลกเสียสมดุลกันเอง

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ขณะนี้ตาข่ายพลังงานที่ถูกสร้างขึ้น

ตามที่ปรากฏให้รู้เห็นกันเมื่อ 19 ส.ค.ศกนี้นั้น

ได้ถูกติดตั้งขึ้นเพื่อการใช้งานเรียบร้อยแล้ว

 

เนื่องจาก

ตามแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4

เพื่อนำโลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น

ดาวเคราะห์โลกและทุกสรรพสิ่งในระบบโลก

จะถูกช่างเท็คนิกพระบิดาชำระพร้อมกันทั้งหมด

ทั้งในมิติทางกายภาพและในมิติทางพลังงาน

รวมทั้งจิตวิญญาณของมนุษย์เองก็มิได้ละเว้น

 

ดาวเคราะห์โลกดวงนี้

จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ตั้งแต่พระองค์ทรงสร้างโลกเป็นต้นมา

เท่าที่เราพอจะสรุปให้ท่านรู้กันพอสังเขปได้ดังนี้

1. จิตสาม (สำ) นึกของมนุษย์โลกที่รอดชีวิต

จะถูกยกระดับขึ้นทางด้านบวกสูงสุด

จนเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณตนเอง

และเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตสำนึกของโลกได้

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักตนเอง

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักพ่อแม่ญาติพี่น้องบุตรบริวาร

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักดาวเคราะห์โลกของตน

โดยจะไม่ทำตัวเป็นมอดทำลายโลกของตนเอง

อย่างไร้จิตสามนึกแห่งการเป็นมนุษย์โลก

ซึ่งมนุษย์ที่จะรอดชีวิตจากการชำระโลกได้

จะต้องเผชิญกับบททดสอบสำคัญบทสุดท้าย

นั่นคือ "บททดสอบความกลัวตาย"

จากการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ

ที่จะเกิดขึ้นบนโลกในอนาคตอันไม่นานนี้

แล้วสอบผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้เท่านั้น

ภัยพิบัติที่รุนแรงทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นให้เผชิญ

ล้วนจะเป็นไปเพื่อการ "คัดไว้" กับการ "คัดทิ้ง"

ปฏิบัติการชำระจึงต้องดำเนินการมิให้ผิดพลาด

ทั้งพิกัดพื้นที่ๆจะกำหนดให้เป็น #บ่อย่ำองุ่น

พิกัดพื้นที่ๆจะกำหนดให้เป็น #บึงไฟ

ช่างเท็คนิกผู้ปฏิบัติการอยู่เบื้องหลังภัยพิบัติ

จึงต้องนำพาตนเองและเครื่องมือที่ใช้เพื่อการนี้

เข้ามาปฏิบัติการอยู่ในระบบโลกเสียเอง

 

ดังนั้น

พวกเขาจึงจำเป็นต้องสร้างตาข่ายพลังงาน

เพื่อทำการดูดซับพลังพายุสุริยะให้เหลือน้อยลง

เพื่อป้องกันภัยพิบัติบนโลกจากอำนาจพายุสุริยะ

ให้คงเหลือแต่ภัยพิบัติหนักเบาที่จะเกิดขึ้น

ตรงพิกัดพื้นที่เป้าหมายใดๆบนโลก

อันเกิดจากการจงใจให้เกิดตามแผนการเท่านั้น

 

2. แผ่นดินโลกที่เป็นเกาะทั้งหมด

ทั้งในทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นเกาะเล็กๆหรือเกาะใหญ่ๆ

จะถูกชำระให้หายไปจากแผนที่โลกแน่นอน

โดยจะไม่มีใครรู้ว่าเกาะทั้งหลายหายไปอยู่ไหน

เพราะประดาเกาะน้อยใหญ่บนโลก

มิใช่แผ่นดินเดิมที่พระบิดาทรงสร้างขึ้นไว้

แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่จากการตกตะกอน

ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกเสียสมดุล

อันเกิดจากการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองช้าลง

เพราะบริเวณพื้นน้ำเหลือน้อยกว่าที่ทรงกำหนด

โลกจึงมีแรงเสียดทานกับบรรยากาศ

มากเกินกว่าค่าคงที่

ซึ่งพระผู้สร้างได้ทรงกำหนดเอาไว้แล้ว

 

ท่านทั้งหลายจะต้องรู้ว่า

ดาวโลกจะสมดุลได้ก็ต่อเมื่อ

มีการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง

ด้วยอัตราเร็วต่อรอบคงที่เท่านั้น

พระบิดาหรือพระผู้สร้าง

จึงต้องทรงกำหนดให้โลกทั้งดวง

 

มีแผ่นน้ำมากกว่าแผ่นดิน

คือ มีน้ำ 3 ส่วน กับแผ่นดิน 1 ส่วน

ที่ทรงกำหนดให้มีน้ำ 3 ส่วนและเป็นน้ำเค็ม

เพราะทรงต้องการให้พื้นผิวน้ำทะเล

ซึ่งมีแรงตึงผิวสูงเกิดความหนืดหรือหน่วง

เมื่อหมุนก็จะเสียดทานกับบรรยากาศได้ดีกว่า

พิกัดพื้นที่ๆเป็นแผ่นดินขณะเหวี่ยงหมุนนั่นเอง

 

ดังนั้น

การเจาะจงชำระเฉพาะพื้นที่เป้าหมาย

ที่เป็นเกาะน้อยใหญ่ในทะเลและมหาสมุทร

จึงจะอาศัยพลังพายุสุริยะเข้ามากระทำมิได้

นอกจากทีมงานช่างเท็คนิก

ต้องเข้ามาปฏิบัติการอยู่ในระบบโลก

ตรงพิกัดที่กำหนดด้วยตนเองเท่านั้น

 

ด้วยเหตุนี้เอง

ตาข่ายพลังงานจึงต้องถูกสร้างขึ้น

เพื่อใช้เฉพาะกิจในการชำระโลกชั่วคราวนี้

มนุษย์จึงพบพิรุธขณะทำการติดตั้ง

เมื่อพบว่าอาทิตย์อับแสงลงจากปกติ

โดยมีเงามายาบนดวงอาทิตย์ที่บันทึกภาพได้

มีลักษณะคล้ายตาข่ายหรือแหให้เห็น

 

3. แผ่นดินชายฝั่งทะเลกว่า 50%

จะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปทั้งหมด

 

ภูเขาสูงและทิวเขายาว

จะเกิดการสไลด์ทรุดตัวลง

คลองลำเล็กจะกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่

เขื่อนขนาดใหญ่จะเกิดการพังทลาย

ทะเลทรายจะกลายเป็นทะเลสาป

บริเวณพื้นที่ราบจะเกิดแม่น้ำสายใหม่

ภูเขาไฟทั้งเก่าใหม่ทั่วโลก

จะถูกปลุกให้ตื่นปะทุขึ้นมา

เพื่อนับวัน "ระเบิด" ขึ้นพร้อมกัน

พายุหมุนรุนแรง พายุฝนแบบ "ระเบิดน้ำ"

ที่ช่างเท็คนิกสูบมันขึ้นมาจากทะเล

ในรูปแบบของ #พายุงวงช้าง ที่เห็นกันบ่อยๆ

จะถูกนำไปบอมบ์ในพื้นที่ห่างไกล

เพื่อสร้างอุทกภัยรุนแรงตรงพิกัดที่ต้องการได้

 

ดังนั้น

ปฏิบัติการที่จะไม่ผิดพลาดเลย

ช่างเท็คนิกจำต้องเลือกวิธีการ

เข้ามาปฏิบัติอยู่ในระบบโลกเองเท่านั้น

"ตาข่ายพลังงาน" จึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็น

 

4. นอกจากนั้น

การสร้างตาข่ายพลังงานปิดกั้นพายุสุริยะ

ยังจะช่วยให้ช่างเท็คนิกทำงานไม่ผิดพลาด

 

ในเรื่องต่างๆต่อไปนี้ด้วย คือ

ทำให้แกนหมุนของโลกที่ทำมุมกับแนวดิ่ง

มีการเอียงเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา

คือเปลี่ยนเป็น 32 องศา (ปัจจุบัน 23.5 องศา)

ทำให้แนวเส้นแรงแม่เหล็กโลกของโครงข่าย

เบี่ยงมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 3 องศา

อันหมายถึงขั้วเหนือใต้เข็มทิศแม่เหล็กโลก

จะเบี่ยงเบนไปจากเดิม 3 องศานั่นเอง

ต้องทำให้ดาวโลก "กลับขั้ว" ตีลังกา

ด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกเหนือก้มหัวลงล่าง

ขณะที่เปลี่ยนขั้วโลกใต้หงายขึ้นไปอยู่ข้างบน

 

แล้ววกกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง

โดยใช้เวลาทั้งสิ้นภายใน 30 วันเท่านั้น

ต้องทำให้ดาวเคราะห์โลกดวงนี้

อยู่ในความมืดมิดยาวนาน 8 ราตรีของพระบิดา

หรือเท่ากับ 56 วันของโลกเองโดยไม่สว่างเลย

ในคาบเวลาสุดท้ายของการชำระโลก

เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

สิ่งที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

มันจะเกิดขึ้นได้จริงๆตามแผนการนั้น

ดาวโลกดวงนี้จักต้องเผชิญกับมหันตภัยพิบัติ

ในรูปแบบต่างๆที่น่าตื่นกลัวแน่นอน

โดยมันจะค่อยๆทยอยเกิดขึ้นในทุกพิกัด

ท่านทั้งหลายจงเฝ้าติดตามกันเองเถิด

 

ที่สำคัญคือ

คนดีที่จะเป็นผู้รอดชีวิตเพราะถูกคัดไว้

จะต้องเป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ว่า

โลกและมนุษย์กำลังเข้าสู่โหมดการถูกชำระ

ด้วยมหันตภัยพิบัติต่างๆอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน

จะต้องยอมรับว่ามันมิใช่ภัยธรรมชาติ

จะต้องยอมรับว่าทุกๆสิ่งในระบบโลก

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือ "มอด" ก็ตาม

หนีไม่พ้นการถูกชำระในครั้งนี้ด้วยกันทั้งนั้น

ไม่มีใครช่วยใครได้หรอก

 

นอกจากนั้น

แทนที่พวกท่านจะเตรียมจิตวิญญาณ

ด้วยมรรควิถีจิตจักรวาลเพื่อการผจญภัย

กลับชวนกันหนีภัยไปหลบอยู่ในบ่อย่ำองุ่น

เพราะไปหลงเดินตามคนนำทางตาบอดอยู่

มันจะทำให้ #บานประตูแห่งโอกาส ของท่าน

ที่จะผ่านสู่ความรอดและความหลุดพ้น

จะถูกปิดใส่กลอนลั่นดานจนแน่นสนิทเลย

 

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

เรากล่าวความจริงตามที่ได้รับรู้มา

เรากล่าวตามที่พระบิดาทรงอนุญาตให้กล่าว

เรามิได้ลอกเลียนใครมามั่วเพื่อทำตัวเด่นดัง

เรามิได้ตั้งใจทำให้ใครขลาดกลัว

แต่ต้องการจะนำมาเตือนภัยให้รู้ตัวไว้ล่วงหน้า

เพราะเราเป็นผู้กล่าวต่อท่านทั้งหลาย

ในนาม King of the Universe

 

กราบพระบาทพระบิดา

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

28-08-2019