22 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 22/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

การที่เราอาสาพระบิดาฯ

ย้อนกลับมาช่วยเหลือท่านทั้งหลาย

ให้สามารถนำพาจิตวิญญาณของท่าน

"หลุดพ้น" ออกไปจากเอกภพ

ที่พระพุทธองค์ทรงเรียกว่าอนันตจักรวาล

เพื่อกลับคืนบ้านในแดนสุญตาที่จากมา

ก่อนครบกาลเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่

ล้วนเป็นความสัจจริงทุกประการ

 

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

องค์จิตจักรวาลดวงใหญ่

พระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่าน

ทรงมีพระบัญชาให้เรากลับมา

ทำหน้าที่ช่วย "แกะ" จิตวิญญาณของท่าน

ที่ยึดติดโลกและเอกภพกันอยู่อย่างไร้สติ

ให้สามารถ "หลุดพ้น" ออกไปจากระบบได้

 

ด้วยพระอำนาจที่พระองค์ประทานให้

เราพร้อมที่จะช่วยแกะพวกท่านออก

อย่างสุดกำลังและเต็มปรีชาญาณที่เรามี

เพราะพระองค์ได้ทรงประทานรางวัล

ที่จะมอบให้ท่านทั้งหลายไว้กับเราแล้ว

เพียงแค่ท่านมีคุณสมบัติครบ 5 ประการ

รางวัลแห่งการหลุดพ้นในชาตินี้

จะเป็นของนักสู้เพื่อการรู้แจ้งเช่นท่านทันที

 

1. ท่านต้องรู้จัก "อ่อนน้อม" และ "ถ่อมใจ"

2. ท่านต้องรู้จัก "คิดตาม" แทน "คิดต้าน"

3. ท่านต้องรู้จัก "ใช้ปัญญา" แทน "อารมณ์"

4. ท่านต้องรู้จัก "ยอมรับ" และ "ปรับตัว"

5. ท่านต้อง "ไม่กลัว" การเปลี่ยนแปลงตนเอง

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ความเชื่อที่ว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้น

เป็นเรื่องปกติธรรมดามิใช่ปัญหาของมนุษย์

เพราะมันเป็นวัตรจักรธรรมชาติตามปกติ

ที่ใครๆก็ต้องเป็นแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น

เราขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า

มันเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์

ที่จะทำให้จิตวิญญาณของท่านเดือดร้อน

 

เพราะการเวียนว่ายตายเกิดของจิตวิญญาณ

อันเป็นที่มาของการมีภพชาติของท่าน

จนก่อให้เกิด #สังสารวัฏ ขึ้นมานั้น

มันมิใช่เรื่องปกติธรรมดาอย่างที่คิด

แต่มันเป็นความเสื่อมทางวิญญาณต่างหาก

ที่จิตหยาบของมนุษย์เองก่อขึ้นเหตุเพราะไม่รู้

 

ความเสื่อมที่จิตหยาบเป็นผู้ก่อ

แล้วจิตวิญญาณแก่นแท้ต้องรับผลกรรมนั้น

คือ การเวียนว่ายตายเกิดหรือมีภพชาติใหม่

เพราะจิตหยาบบกพร่องเหลวไหลดังต่อไปนี้

 

1. เพราะสอบตกบททดสอบจิตสามนึกรายวัน

จนจิตวิญญาณต้องขอโอกาสสอบใหม่

ด้วยการมีภพชาติใหม่เรื่อยมา

 

ที่จิตวิญญาณสอบตกเพราะจิตหยาบทำเหตุ

เนื่องจากรักไม่ได้ ให้อภัยไม่เป็น

เห็นแก่ตัว และกระทำตัวก้าวล่วงผู้อื่น

ในการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ในสังคม

ซึ่งความบาปชั่วทั้ง 4 ประการนี้แหละ

เป็นต้นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด

 

เพราะต้องกลับมาเกิดใหม่

เพื่อแก้ไขจิตสามนึกของตนเองที่บกพร่อง

เพราะเข้าถึงความรักเพื่อให้ไม่ได้

 

กล่าวคือ...

 

เพราะว่าท่านรักคนที่ไม่น่ารักไม่ได้

ให้อภัยแก่คนที่ทำตัวไม่น่าให้อภัยไม่เป็น

ซึ่งตัวท่านเองมุ่งแต่จะแก้แค้นเอาคืน

โดยอ้างว่าเขาทำไม่ถูกต้องต่อท่านก่อน

ทั้งๆที่การแก้แค้นเอาคืนมิใช่หน้าที่ของท่าน

 

พฤตินิสัยไม่ดีทั้ง 3 ประการนี้

เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จิตวิญญาณของท่าน

เกิดอาการหลงมิติจนต้องถูกส่งลงไปยังนรก

เพื่อให้ท่านยมบาลช่วยบำบัดแก้ไข

ก่อนที่จะได้รับโอกาสให้กลับมาเป็นมนุษย์ใหม่

เพื่อทำการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดทั้งสามนั้น

ในบทบาทแห่งการเป็นมนุษย์

ซึ่งมันจะเป็น "บทเรียน" ของจิตวิญญาณ

ที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ไปในเวลาเดียวกันด้วย

 

นี่แหละ...

จึงเป็นที่มาของการมี #สังสารวัฏ

มันมิได้เป็นเรื่องปกติธรรมชาติแต่อย่างใด

 

2. เพราะสอบตกบททดสอบจิตสามนึกรายวัน

ที่คนรอบข้างตัวท่านขยันหยิบยื่นมาให้

จึงเป็นเหตุให้มนุษย์บางคนเสียสมดุลทางจิตใจ

จนเกิดอาการโกรธ เกลียด เคียด แค้น อาฆาต

จนเกิดแรงผูกจิตพยาบาทข้ามภพชาติขึ้น

 

จึงยังผลให้ทั้งตัวท่านและผู้อาฆาตนั้น

ต้องจูงมือกันย้อนกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่

เมื่อหมดอายุขัยตายไปจากการเป็นมนุษย์แล้ว

ย้อนกลับมาเกิดใหม่เพื่ออะไรงั้นหรือ

ก็เพื่อให้ผู้กระทำผิดบาปได้เรียนรู้ที่จะแก้ไข

ให้ผู้มีสภาวะจิตคิดอาฆาตได้ "แก้แค้นเอาคืน"

ก่อนที่จะเรียนรู้กันใหม่เพื่อให้อภัยต่อกันให้ได้

 

นี่แหละ...

จึงเป็นที่มาของการมี #สังสารวัฏ อีกเช่นกัน

มันมิได้เป็นเรื่องปกติธรรมชาติแต่อย่างใด

 

3. เพราะเมื่อได้รับโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์

จิตหยาบกระทำบกพร่องต่อกายสังขาร

ด้วยการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องเข้าไป

เช่น กินเลือดเนื้อของสัตว์เข้าสู่ร่างกาย

ซึ่งมีสารโปรตีนและไขมันต่างๆ

ที่เซลล์อวัยวะร่างกายมนุษย์รับไม่ได้

เพราะมีโครงสร้างทางเคมีแบบเดียวกัน

 

หยินคู่กับหยิน และหรือ

หยางคู่กับหยาง ไม่ได้ฉันใด

 

โปรตีนและสารอื่นๆที่ได้จากสัตว์

จึงไม่เกิดประโยชน์ทางโภชนาการ

ต่อมนุษย์อย่างท่านด้วยเช่นเดียวกัน

 

ด้วยเหตุนี้เอง

การตายของกายสังขารเพราะความเสื่อม

จนทำให้ต้องมีการกลับมาเกิดใหม่

จึงต้องเป็นไปตามเหตุที่กล่าวนี้

 

นอกจากนั้น

นิสัยการกินแบบตามใจลิ้นตามใจอยาก

ก็มีส่วนทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร

จนทำให้อวัยวะร่างกายเสื่อมโทรมลง

จึงมีอายุขัยให้จิตวิญญาณใช้งานได้สั้นลง

ยังผลให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

ต้องหมดสภาพไม่อยู่ในฐานะที่จะใช้การได้

การตายของกายสังขารก็ต้องเกิดขึ้น

จิตวิญญาณจึงต้องเปลี่ยนอาภรณ์เก่าทิ้ง

แล้วรอโอกาสกลับมาเกิดใหม่ต่อไป

 

นี่แหละ...

จึงเป็นที่มาของการมี #สังสารวัฏ อีกเช่นกัน

มันมิได้เป็นเรื่องปกติธรรมชาติแต่อย่างใด

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

ยังมีมนุษย์หลายคนที่เชื่อผิดๆกันอีกว่า

การหลุดพ้นไม่มีจริง เป็นเรื่องเพ้อฝัน

ขนาดเทพเจ้าสูงสุดที่ตนนับถือ

ก็ยังต้องอวตารลงมาเวียนว่ายตายเกิด

ตนเป็นมนุษย์จึงขอแค่มีชาติหน้าที่ดีก็พอแล้ว

 

เราจึงขอกล่าวความจริงให้รู้ว่า

 

เพราะท่านเหล่านี้ไม่รู้ไม่เข้าใจว่า

 

1. "หลุดพ้น" คือ อะไร หมายความว่าอย่างไร

2. ทำไมจิตวิญญาณของมนุษย์ต้องหลุดพ้น

3. จะนำพาตนเองหลุดพ้นได้อย่างไร

 

ส่วนการนำเอาเทพเจ้าอวตารมาอ้างว่า

ยังต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์

ยังต้องมามีสังสารวัฏ

แสดงว่าการหลุดพ้นเป็นเรื่องไม่จริง

การหลุดพ้นเป็นเรื่องเพ้อฝันแน่ๆ

 

เราขอกล่าวความจริงให้รู้ว่าการเชื่อเช่นนั้น

เป็นการกล่าวสรุปด้วยวิธีคิดแบบโชว์โง่

เป็นการแสดงความเห็นที่ขาดแคลนความรู้

 

เราจะบอกให้ท่านรู้ว่า

เรื่องเทพเจ้าอวตารนั้นเป็นแค่เรื่องในตำนาน

เป็นแค่เพียงเรื่องเล่าของพวกเทวะนิยม

คนที่คิดเชื่อผิดๆเช่นว่านี้

เป็นเพราะไปนำเอาเรื่องเล่าในการแต่งตำนาน

มาขึ้นหิ้งบูชาโดยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

เพียงเพราะเห็นคนส่วนใหญ่เขาเชื่อกันเท่านั้น

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เพราะเหตุนี้แหละ

เราจึงกล่าวให้สติแก่ท่านทั้งหลายเสมอว่า

"ความเชื่อ" กับ "ความจริง" มันคนละเรื่องกัน

จงฉลาดใช้ปัญญาเพื่อแยกกันให้ออก

จงอย่าสับสนกับตนเองอีกเลย

 

ท่านไม่รู้หรอกว่า

การที่จิตวิญญาณมนุษย์เมื่อตายแล้ว

หลุดลอยไปติดค้างอยู่บนสวรรค์มายา

ไปเกิดเป็นเทพเจ้าหรือเทพเทวดาทั้งหลาย

ทั้งๆที่ควรจะต้องกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์

ก็เพราะไปหลงเชื่อคนนำทางตาบอด

จึงสร้างทางเบี่ยงไปเกิดใหม่อยู่บนนั้น

จิตวิญญาณเหล่านี้เกือบทั้งหมด

หลุดลอยไปค้างบนนั้นแล้วกลับลงมายาก

ให้ค่อยๆลอยสูงขึ้นเลื่อนชั้นขึ้นยังง่ายกว่า

 

แต่โอกาสที่จะกลับลงมาได้บ้างก็พอมีอยู่

ถ้าจิตวิญญาณรูปธรรมนั้น "สำนึกได้" ว่า

ตนกำลังหลงทางไปนิพพานแล้ว

หากมีบุญบารมีสูงมากพอจากการมุ่งบำเพ็ญ

ก็อาจสามารถแบ่งภาคลงมาเกิดเป็นมนุษย์

เพื่อสั่นสะเทือนตนเองที่ลอยค้างอยู๋บนนั้น

ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับเบื้องล่างให้จงได้

แล้วเหนี่ยวรั้งรูปธรรมเบื้องบนลงมา

กลับสู่การเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง

แต่มันไม่ง่ายนะ

 

ที่ไม่ง่ายก็ตรงที่จะมีสำนึกได้มั้ยว่า

ที่ตนเองหลุดลอยไปค้างอยู่บนนั้น

แท้แล้วตนกำลังหลงทางไปนิพพานอยู่

 

เพราะขณะที่ยังเป็นมนุษย์อยู่

ผู้คนเหล่านี้ยังทำตัวดื้อรั้นดันทุรัง

ยังไม่ยอมรับฟังพระโอวาทพระบิดา

ที่ทรงเมตตาสื่อผ่านมาทางเรากันเลย

แถมยังต่อต้านเราเสียอีกต่างหาก

 

นอกจากนั้นรูปธรรมที่อวตารลงมา

มีปัญญาที่จะสั่นสะเทือนด้านบวกสูงสุด

เพื่อสั่นสะเทือนรูปธรรมข้างบนของตน

ตามที่อวตารลงมาเพื่อปฏิบัติการพิเศษนี้ได้มั้ย

ที่สำคัญคือเมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว

ยังจดจำภารกิจของตนเองได้อยู่หรือเปล่า

เมื่อกายสังขารมนุษย์ของตนถูกปิดมิติ

ด้วยอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้นไว้

 

ท่านเห็นการหลงมิติของจิตวิญญาณ

จากเบื้องบนที่ลงมาเกิดใหม่บ้างหรือไม่

 

บางรายอวตารลงมาเกิดเป็นมนุษย์

เพื่อฉุดช่วยอีกภาคหนึ่งที่หลุดลอยไปติดค้าง

ให้ละเลิกการหลงใหลในวิมานมายา

ละเลิกการหลงใหลในราคะจริต

จนติดอยู่ในสภาวะจิตโดยมิอาจชำระได้ง่ายๆ

แต่เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว

กลับเชิญชวนพี่ๆน้องๆที่อยู่เบื้องล่าง

ให้ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างวิมานเบื้องบน

 

โดยจำลองวิมานมายาเบื้องบนเท่าที่จำได้

มาชวนญาติธรรมร่วมกันสร้างขึ้นไว้บนโลก

ให้มีขนาดใหญ่สุด งดงามอลังการณ์สุด

ใครหลงเข้าไปข้างในก็จะรู้สึกตัวลอยๆ

เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว

 

นี่เท่ากับว่าเมื่ออวตารลงมาได้แล้ว

ยิ่งหลงทางนิพพานมากยิ่งขึ้น

ยิ่งก่อกรรมทำบาปกับพี่ๆน้องมากยิ่งขึ้น

เพราะนำพาพวกเขาเดินทางผิดนั่นเอง

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

คาบเวลาที่พระบิดาทรงเมตตา

เปิดมิติแห่งการชำระฟ้าสวรรค์มายา

ในโอกาสพิเศษที่ทรงสื่อพระโอวาททุกครั้ง

หากรูปธรรมใดได้รับโอกาสเฝ้าฟัง

แล้วสร้างสำนึกใหม่ทางวิญญาณได้

โดยไม่หลงติดในอัตตาและหลงในมายา

 

พุทธิปัญญาก็จะผุดขึ้นในจิตรู้

ดุจดั่งดอกบัวงามที่โผล่ชูเชิดขึ้นเหนือน้ำ

สำนึกใหม่ทางวิญญาณจะบังเกิดขึ้นทันที

ประตูมิติแห่งการหลุดพ้นก็จะถูกเปิดออกให้

ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายกว่า "อวตาร" เสียอีก

 

แต่น่าเสียดายยิ่งนัก

ที่ท่านทั้งหลายต่างมีหูแต่ก็มิเคยได้ยิน

บางท่านแม้จะได้ยินแต่ก็ไม่รับฟัง

ภารกิจแห่งการ "แกะ" ทั้งสามภพ

มันแสนยากแสนเข็นเสียจริงๆ

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

22-08-2019