17 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 17/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ในมรรควิถีแห่งจิตจักรวาลนั้น

เรานำเสนอ #ความจริง มิใช่ #ความเชื่อ

ต่อท่านทั้งหลายที่เป็นบุตรมนุษย์

 

โดยเฉพาะความจริงที่ว่า

องค์จิตจักรวาลเป็นพระผู้ให้กำเนิด

จิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน

 

อีกทั้งยังเป็นผู้ทรงอนุญาตให้

จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย

เดินทางข้ามมิติเข้ามาในอนันตจักรวาล

สู่การเกิดเป็นมนุษย์บนดาวโลกเสรีนี้

เพื่อทำหน้าที่ปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6

ให้ลุล่วงให้จงได้ภายใน 6 หมื่นปีโลก

 

ระยะเวลา 6 หมื่นปีโลก

เป็นช่วงเวลาที่พระองค์ทรงกำหนดไว้

ให้ดวงจิตวิญญาณรุ่นแรก

ที่ขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่บนโลกเสรีนี้

โดยจิตวิญญาณแต่ละรูปธรรมนั้น

มิได้เข้ามาพร้อมหน้ากันทุกรูปธรรม

แต่ได้ทะยอยกันเข้ามาทำหน้าที่

จึงยังผลให้จิตวิญญาณแต่ละรูปธรรม

มีอายุขัยตามกาลเวลาโลกไม่เท่ากัน

 

ท่านทั้งหลายสามารถสังเกต

อายุขัยของจิตวิญญาณ

ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ในแต่ละคนได้เลยว่า

จิตวิญญาณของใครมีอายุขัยมากกว่า

หรือจิตวิญญาณใครมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อน

ด้วยการมองผ่านมายาที่หน้าตาเป็นสำคัญ

 

ถ้าพบว่าใครมีหน้าตาแก่ชรากว่าวัยจริง

และหน้าตาชรามากกว่าพี่ๆน้องๆคนอื่นๆ

ที่มีอายุขัยรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว

นั่นย่อมแสดงว่าจิตวิญญาณของคนๆนั้น

เข้ามาเกิดเป็นมนุษย์โลกนานกว่าอีกคนหนึ่ง

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ในพันธะสัญญาทั้ง 6 ที่ท่านต้องปฏิบัตินั้น

จะละเลยเหลวไหลไม่ปฏิบัติก็มิได้

จะปฏิบัติแบบไม่จริงจังไม่ตั้งใจก็มิได้

จะปฏิบัติแล้วแต่ไม่ประสบผลสำเร็จก็มิได้

 

ทุกท่านมีหน้าที่ต้องทำและต้องทำให้สำเร็จ

เพราะเป็นสัญญาผูกพันระหว่าง

จิตวิญญาณของท่านกับพระผู้เป็นเจ้า

 

โดยเฉพาะ 1 ในพันธะสัญญา 6 ข้อที่ว่า

ท่านต้องนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านให้ได้

ภายในเวลาก่อนกาลสิ้นยุคพลังงานเก่า

ซึ่งหมายถึงไม่เกิน 6 หมื่นปีโลกนั่นเอง

 

ดังนั้น

ท่านที่เป็นมนุษย์ทุกๆคน

ซึ่งมีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้เป็นผู้มาเกิด

โดยมีจิตหยาบหรือจิตมนุษย์

ได้รับมอบอำนาจให้ทำหน้าที่แทนแก่นแท้

จักต้องนำพาจิตวิญญาณของท่านกลับบ้าน

กลับให้ทันก่อนกาลสิ้นยุคพลังงานเก่า

ซึ่งเวลานั้นกำลังคืบคลานใกล้เข้ามาแล้วล่ะ

 

ด้วยเหตุนี้เอง

ท่านทั้งหลายที่เป็นมนุษย์ทั้งชายหญิง

จึงมีหน้าที่จักต้องนำพาจิตวิญญาณของตน

ให้ #หลุดพ้น ออกไปจากโลก

และหลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาล

เพื่อคืนกลับบ้านเกิดเมืองนอนที่จากมา

เพื่อกลับบ้านไปกราบพระบิดาที่ทรงรออยู่

 

ดังนั้น

คำว่า #มนุษย์ทุกคน มีหน้าที่จะต้องกลับบ้าน

จึงหมายรวมถึง "มนุษย์โลกทุกคน"

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นผู้หญิง

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นผู้ชาย

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นตำรวจ

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นทหาร

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นนักบวช

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นพระสงฆ์

ไม่ว่าท่านจะสมมติตนเองว่าเป็นใคร

 

หน้าที่ของท่านก็คือ

ต้องนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านแดนสุญตา

ดินแดนที่ท่านจากมากันเสียนานให้ได้

เพราะลูกๆทุกคนต้องกลับบ้าน

ต้องกลับไปหาพ่อแม่ที่รอคอยอยู่ที่บ้าน

 

การกลับบ้านจึงมิใช่เป็นหน้าที่

เฉพาะใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น

 

มิใช่หน้าที่ของพระหรือนักบวชฝ่ายเดียว

แล้วเที่ยวบอกว่าฆราวาสไม่มีหน้าที่

จะต้องกลับบ้านหรือ "นิพพาน"

 

มิใช่หน้าที่ของผู้หญิง

ถ้าชาตินี้ใครมาเกิดเป็นหญิง

ก็ไม่มีสิทธิ์นิพพานหรือกลับบ้าน

 

ความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องเลอะเทอะอุตริ

เป็นสิ่งหลอกลวงงมงายโดยแท้

 

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า

การ "กลับบ้าน" หรือ นิพพาน

เพื่อกลับไปกราบกระบาทพระบิดา

ผู้ให้กำเนิดท่านทั้งหลายในแดนสุญตา

มันเป็นหน้าที่ทางจิตวิญญาณของทุกคน

มิใช่หน้าที่ทางโลกด้านกายภาพ

ไม่ว่าท่านจะเกิดมาเป็นใคร

ชายหญิง นักบวช หรือฆราวาส

จิตวิญญาณท่านก็ต้องกลับบ้านแดนสุญตา

จะมาหลงยึดติดอยู่กับโลกมายานี้ไม่ได้

 

พระองค์ส่งเรากลับมา #แกะ

แกะคนทุกคนที่ยึดติดอยู่กับโลก

แกะคนทุกคนที่หลงงมงายอยู่กับโลกมายา

แกะคนทุกคนที่หลงยึดติดในอัตตาตัวตน

แกะคนทุกคนที่หลงทาง

เพราะไปหลับตาก้าวตามคนนำทางตาบอด

 

แกะคนที่พยายามจะพา

จิตวิญญาณของตนปีนรั้วกลับเข้าคอก

หรือต้องการนิพพานผ่านสวรรค์มายา

โดยไม่ออกไปทาง "ประตูมิติ" ที่เข้ามาแต่แรก

ซึ่งมีผู้คนที่เราต้องกลับมา "แกะ" มากมหาศาล

 

พระบิดาจึงทรงเปรียบคนที่หลงทาง

คนที่เหลวไหล คนที่ไม่เอาไหน คนไม่เอาถ่าน

ซึ่งมีเป็นจำนวนมากบนโลกเสรีนี้ว่า

#ลูกแกะของพระเจ้า

 

โดยทรงมอบหมายให้เรา

ทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าประตูคอกแกะ

ให้คอยร้องเรียกฝูงแกะกลับมาเข้าคอก

เพราะสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว

แต่แม้เราตะโกนเรียกจนแทบจะสิ้นสุรเสียง

เราก็พบว่า "คนที่มีหู" ก็ยังมิได้ยิน

บางคนที่เขาได้ยินแต่ก็ไม่ยอมรับฟัง

บางคนที่รับฟังและได้ยินแต่ก็กลับต่อต้าน

เพราะด้อยทักษะในการใช้ปัญญา

และไม่ฉลาดในการใช้เหตุผลเพื่อเรียนรู้

 

น่าอดสูใจยิ่งนักที่เราจะต้องเห็น

ฟ้าผ่าฝูงแกะตายจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

แกะจะนอนตายเต็มท้องทุ่งหญ้าที่อยู่นอกคอก

ตายพร้อมคนที่ลักขโมยแกะของพระองค์ไป

สายฟ้าที่ฟาดลงมายังโลก

คือ "หวาย" ของพ่อที่ประทานลงมา

ตามคำพิพากษา...โดยแท้

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

17-08-2019