28 มิถุนายน 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 28/06/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ถ้า “รถยนต์” คันหนึ่ง เป็น #เครื่องยนต์กลไก

ที่ถูก #ออกแบบมา เพื่อใช้ในการเคลื่อนที่

สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหนบนโลกใบนี้แล้ว

#เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ ก็เช่นกัน

พระผู้สร้างหรือองค์ #จิตจักรวาล ก็ทรงออกแบบให้

มีพลังอำนาจและหน้าที่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่นเอง

 

รถยนต์ต้องมีล้อในการเคลื่อนที่เดินทาง

มนุษย์ชายหญิงก็มี “เท้า” ที่จะใช้ก้าวเดินและหยัดยืน

 

รถยนต์ต้องมีเครื่องยนต์ 4 สูบกับหัวเทียน 4 แท่ง

เพื่อใช้ในการจุดระเบิดให้เกิด “พลังขับเคลื่อน”

อันหมายถึงพลังชีวิตที่ช่วยให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้

มนุษย์ทุกคนก็มี “หัวใจ” รวมสี่ห้องติดตั้งอยู่ข้างใน

เพื่อทำหน้าที่คอยขับเคลื่อน #พลังงานชีวิต

ให้แก่เซลล์อวัยวะร่างกายทุกเซลล์ทุกชิ้นอย่างถ้วนทั่ว

เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์แห่งกรรมทั้งระบบทำหน้าที่ได้

อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

 

ถ้าหัวใจทั้งสี่ห้องของพวกท่านเกิดการชำรุด

หมายถึงเครื่องยนต์นั้นหัวเทียนบอดลูกสูบติดลูกสูบรั่ว

เครื่องยนต์แห่งกรรมคือกายสังขารของท่านก็ต้องตาย

เพราะเครื่องยนต์ดับจะเคลื่อนที่ไปไหนอีกไม่ได้แล้ว

แสดงว่าเครื่องยนต์ทั้งสี่สูบหรือหัวใจทั้งสี่ห้องของท่าน

มันสำคัญต่อความเป็นความตายของมนุษย์ใช่หรือไม่

 

แต่ในเครื่องยนต์เคลื่อนที่ได้ เช่น รถยนต์นั้น

นอกจากตัวเครื่องยนต์ 4 สูบที่เรายกตัวอย่างให้เห็นว่า

เป็นกลจักรสำคัญของรถยนต์คันนั้นที่พวกท่านต้องรู้ค่า

เพราะว่าทั้งพลังงานชีวิตของรถยนต์คันนั้น

กับพลังอำนาจการขับเคลื่อนเดินทางทั้งใกล้ไกล

และจำนวนระยะทางกับอายุขัยการใช้งานของรถคันนั้น

อันหมายถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ทั้งระบบ

มันเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์แต่ละคันโดยแท้

 

ดังนั้น

กลไกสำคัญที่ทำให้รถยนต์แต่ละคันมีพลังชีวิต

จนสามารถเคลื่อนที่ได้เดินทางได้ใช้เป็นพาหนะได้

ก็คือเครื่องยนต์ที่มีสี่สูบซึ่งสั่นสะเทือนได้ต่อเนื่อง

ถ้าเป็นมนุษย์ผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนก็คือ #จิตหยาบ

 

แต่ทว่าท่านทั้งหลายจักต้องรู้เพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า

รถยนต์แต่ละคันจะใช้การได้อย่างเต็มสมรรถนะหรือไม่

จะเป็นเครื่องยนต์ที่มีชีวิตคือสตาร์ทติดง่ายหรือไม่

มันยังขึ้นอยู่กับว่ารถยนต์คันนั้นมี #แบตเตอรี่ หรือไม่

ทางโรงงานผู้ผลิตติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ด้วยหรือไม่

หรือแบตเตอรี่ลูกนั้นไม่มีไฟเพราะว่า #แบตเสื่อม

เนื่องจากไดชาร์จเสียเก็บไฟไม่อยู่หรือว่าไฟรั่ว เป็นต้น

 

ท่านจึงเห็นได้ว่า

นอกจากเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 สูบ

ซึ่งเราเปรียบกับ “จิตหยาบ” ของพวกท่านแล้ว

เจ้า “แบตเตอรี่” ของรถยนต์แต่ละคันก็สำคัญด้วย

เพราะพลังงานชีวิตของรถยนต์มันจะเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้ารถยนต์คันนั้นขาดพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

เป็นผู้คอยค้ำจุนเกื้อหนุนทั้งระบบไว้

ด้วยการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังคอยเก็บสะสมพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ให้

ด้วยการคอยชาร์จเพิ่มเติมเต็มพลังไฟไว้ตลอดเวลา

ในตอนที่รถยนต์คันนั้น “จอด” ดับเครื่องหยุดใช้งาน

พลังงานไฟฟ้าก็จะไม่มีวันหมดสตาร์ทใหม่ได้ทันที

 

สำหรับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์นั้น

กลไกซึ่งทำหน้าที่เช่นเดียวกับ “แบตเตอรี่” รถยนต์

ก็คือ #จิตวิญญาณ ตัวตนแก่นแท้ที่มาเกิดเป็นมนุษย์

ซึ่งเจ้าของโรงงานคือ พระผู้เป็นเจ้าหรือพระผู้สร้าง

ไม่ทรงลืมที่จะติดตั้งเอาไว้ให้ใช้ในกายสังขารมนุษย์

 

ดังนั้น

พวกท่านทุกคนจะไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้หรือเกิดได้

หากไม่มีจิตวิญญาณคอยให้พลังสนับสนุนจิตหยาบ

เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

จิตหยาบกับกายหยาบจะหยุดทำงานคือไร้ชีวิตทันที

เมื่อใดที่จิตวิญญาณแก่นแท้ละออกไปจากกายสังขาร

แปลว่ามนุษย์จะต้องตายหรือจะมีอาการร่อแร่เสมอ

ถ้าจิตวิญญาณของคนผู้นั้นอ่อนพลังหรือเสื่อมบารมี

 

ความเสื่อมบารมีของจิตวิญญาณ

อาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ

 

1.จิตหยาบไม่รู้ว่าตนมีจิตวิญญาณเร้นอยู่ข้างใน

จึงไม่เคยทำอะไรดีๆเพื่อจิตวิญญาณของตนเลย

บารมีทางจิตวิญญาณจึงไม่อาจเพิ่มเติมขึ้นมาได้

 

2.จิตหยาบใช้อำนาจบาตรใหญ่

ด้วยการทำอะไรตามกิเลสตัณหาของตนเองเท่านั้น

นิสัยเสพติดกิเลสเช่นนี้ก่อให้เกิดการหมุน #กรรมจักร

จะยังผลให้ขันธ์ 5 ผลิตพลังงานไฟฟ้าด้านลบออกมา

ที่โลกและจิตวิญญาณของตนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

 

เมื่อจิตวิญญาณได้แต่มอบพลังงานความรักออกมาให้

ขณะที่จิตหยาบเองกลับไม่ช่วยสร้างเพิ่มเติมเต็มคืน

พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่านจึงร่อยหรอลง

 

3.จิตหยาบกระทำอุตริจากการหิวกิเลส

จึงตกเป็นทาสวิชาของมอดมาร

ที่หลอกให้ “เจาะ” จิตวิญญาณของตัวเองให้รั่ว

เพราะความอยากรวยเป็นเศรษฐีด้วยวิธีลัด

เพราะความอยากมีอำนาจเหนือมนุษย์คนอื่นๆ

โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า #การสั่งจิตใต้สำนึก

เพื่อดูดดึงเอาพลังงานทางจิตวิญญาณออกมาใช้

ด้วยวิธีการทำร้ายจิตวิญญาณให้เสื่อมพลังบารมี

ในลักษณะของการดึงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้

ขณะที่เครื่องยนต์นั้นกำลังดับเครื่องจอดอยู่เฉยๆ

ในที่สุดจิตวิญญาณก็ต้องรับกรรมไปเพราะไฟหมด

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เมื่อจิตวิญญาณของท่านไฟหมดหรือแบ็ตเสื่อม

ตามเหตุปัจจัย 3 ประการที่เรากล่าวมาแล้วนั้น

ความบรรลัยวายวอดหรือล้มเหลวอย่างร้ายแรงก็คือ

ชีวิตบั้นปลายท่านผู้นั้นจะเป็นได้แค่ “ขยะรกโลก”

เพราะทำประโยชน์อะไรให้โลกของตนไม่ได้

 

เมื่อตายไปจากการเป็นคนในชาตินี้

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะไม่มีแรงดีดตนเอง

ออกไปจากกายหยาบหรือกายสังขารได้

จะสลัดหลุดออกจากกายหยาบได้ก็ต่อเมื่อ

ถูกประชุมเพลิงจนกายหยาบไหม้เป็นเถ้าถ่านแล้ว

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะทุกข์ทรมานแสนสาหัส

จากความร้อนแรงแห่งพระเพลิงในวันฌาปนกิจ

 

นอกจากนั้น

เมื่อเป็นอิสระจากกายหยาบแล้ว

จิตวิญญาณผู้ด้อยพลังบารมีของท่านผู้นั้น

จะมีอาการ “ไร้เรี่ยวแรง” เหมือนคนอ้วนที่อ่อนแอ

จนไม่สามารถเคลื่อนที่เดินทางไปไหนได้ดั่งใจ

คล้ายพวกรถซิ่งที่มีลักษณะ #ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน

เนื่องจากพลังอำนาจของเมิร์คขะบาห์เสื่อมถอย

เสียชีวิตอยู่ตรงไหนจิตวิญญาณก็จะจอดอยู่ตรงนั้น

 

คนที่ทำบุญให้ได้ผลบุญไม่เป็น

คนที่หิวกิเลสอยากร่ำรวยด้วยวิธีที่มอดมารหลอก

ให้ท่านทำร้ายจิตวิญญาณตนเองอย่างโง่ง่ายไร้สติ

พึงสังวรเอาไว้ว่าสติปัญญาความสามารถและมือเท้า

หากเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นชาตินี้ก็รวยได้

การอยากรวยทางลัดซึ่งได้ผลไม่ได้ผลก็ไม่รู้

แต่ต้องแลกด้วยความวิบัติทางจิตวิญญาณมันคุ้มไหม

โดยไม่อาจกลับบ้านของจิตวิญญาณพร้อมคนอื่นๆได้

จนกลายเป็น “ขยะพลังงาน” ที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง

เราว่าไม่น่าเป็นทางเลือกที่สวยงามของผู้ประเสริฐนะ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

28/06/2022