17 มิถุนายน 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 17/06/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
กรณีที่มีคน “โง่ง่าย” และ #งมงาย รายหนึ่ง
เมื่อได้รับรู้พระโอวาทจากองค์ #จิตจักรวาล
ที่พระองค์ทรงเมตตาสื่อผ่านเรามาเมื่อวันก่อนว่า
มนุษย์โลกจักต้องปฏิบัติตาม “พันธะสัญญา 6”
ก็สำลักความไม่พอใจขยอกออกมาเป็นคำถามเรา
ในเชิงหมิ่นหยามและมิให้เกียรติว่า...
 
ถ้าโลกนี้มนุษย์มีความเสรีจริงตามที่พูด
ทำไมต้องบังคับให้ปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6 ด้วย”
 
นายคนนี้ที่เราสรุปว่าเขาเป็นคน “โง่ง่าย”
เพราะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีสติปัญญาแต่ไม่รู้จักใช้
หรือโง่ง่ายไปเพราะใช้สมองที่ตนก็มีอยู่แท้ๆไม่เป็น
ทั้งๆที่ในพระโอวาทบทนี้เรามีความเป็นมาระบุไว้
ให้ท่านทั้งหลายรู้ว่าพันธะสัญญา 6 คืออะไรบ้าง
และทำไมมนุษย์ทุกชาติทุกศาสนาต้องปฏิบัติตาม
จะละเลยเพิกเฉยไม่ทำตามไม่ได้เรากล่าวไว้ชัดแล้ว
 
ไม่ว่าจะเป็นเพราะขี้เกียจอ่าน ไม่อยากอ่าน
หรืออาจจะอ่านแต่อ่านแล้วไม่รู้ความ
เพราะอ่านไปเถียงไปแย้งไปมิได้อ่านด้วยจิตว่าง
อย่างนักปราชญ์เมธีผู้ฉลาดเรียนรู้เขาปฏิบัติกัน
แต่นายคนนี้งัดเอาความไม่รู้ในเรื่องพันธะสัญญา 6
มาพิพากษา #อนุตรธรรม บทนี้ว่าไร้สาระหรือเป็นเท็จ
โดยยึดเอาความเชื่อที่ว่า #ศาสดา ของตนมิได้สอน
มาเป็นตัวชี้วัดตัดสินสัจธรรมที่สูงส่งในบทนี้นั่นเอง
 
นอกจากนายคนนี้สำลักความโง่ง่ายดังกล่าวแล้ว
เขาก็ยังสำแดง #ความงมงาย ออกมาให้ได้เห็น
ด้วยการยึดติดคนนำทางของศาสนาที่ตนรับถือ
ซึ่งมักอ้างว่าพวกเขาจำ “คำสอน” มาจากพระศาสดา
เนื่องจากพันธะสัญญา 6 ที่เรากล่าวเป็น “ความรู้ใหม่”
ที่คนนำทางเหล่านี้กางคัมภีร์บทไหนก็ไม่เคยพบเห็น
จึงปฏิเสธความรู้ใหม่ของพระบิดาที่สื่อผ่านเรามาทันที
โดยหลงงมงายอยู่กับความเชื่อไม่เชื่อตามใจตนเอง
แทนที่จะใจกว้างเพื่อเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างด้วยสติปัญญา
 
คนพวกนี้ไม่เคยคิดรู้ให้เข้าใจแม้สัจธรรมตื้นๆหรอกว่า
เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือทวยเทพเทวดาก็ยังมีพระเจ้า
เหนือภูผาสูงเสียดฟ้าก็ยังต่ำกว่ายอดไม้และยอดหญ้า
นัยความหมายเหล่านี้มันให้แง่คิดว่ากระไรบ้าง
 
ด้วยเหตุนี้เอง
คนโง่ง่ายและงมงายเหล่านี้ที่รอวันพิพากษาอยู่
จึงไม่ฉลาดในการเรียนรู้และไม่ฉลาดคิดสร้างสรรค์
ได้แต่ทำตน “โชว์โง่” ในรูปแบบ “อวดฉลาด” ไปวันๆ
ตัวอย่างที่เราจะยกมาแสดงให้พวกท่านเห็นก็คือ
นิสัยการเลือกนับถือศาสนาเดียวกับศาสดาองค์เดียว
โดยจะปฏิเสธหรือ “ปัดทิ้ง” ศาสนาอื่นศาสดาอื่นเสมอ
 
ทั้งๆที่แต่ละศาสนาต่างมีผู้คนยอมรับนับถือกันนับล้าน
แสดงว่าศาสดาแต่ละพระองค์คือผู้นำทางจิตวิญญาณ
ที่พี่น้องชาวโลกยอมรับที่จะเป็นผู้ก้าวตามด้วยศรัทธา
ทั้งในพระวจนะคำสอนในวัตรปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างได้
แต่พวกนี้กลับมองข้ามเหมือนคนตาบอดที่มองไม่เห็น
 
เมื่อพวกเขาเลือกพระศาสดาเหมือนเลือก “อมยิ้ม”
จากความเคยชินที่พ่อแม่เคยสอนไว้ตั้งแต่วัยเด็กว่า
อมยิ้มที่แม่ถืออยู่ในมือมีหลายสีและหลายแท่งก็จริงนะ
แต่ลูกมีสิทธิ์เลือกได้แค่หนึ่งแท่งเพราะต้องแบ่งพี่ๆด้วย
พวกเขาทั้งหลายจึงมีนิสัยแบบนี้ติดตัวกันมาตั้งแต่เด็ก
จนมองเห็นพระศาสดาแห่งโลกตั้ง 24 พระองค์มาแล้ว
เป็นเหมือนดั่ง “อมยิ้ม” 24 แท่งที่ตนต้องเลือกเพียงหนึ่ง
ทั้งๆที่เป็นวิธีคิดและมุมมองที่ไม่ฉลาดแต่คับแคบยิ่งนัก
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
ในวัยเด็กยังด้อยสามารถในการใช้สติปัญญา
พ่อแม่จึงต้องสอนให้มีสำนึกในการแบ่งปันอมยิ้มกัน
ลองตรองดูมั้ยว่าถ้าพี่น้องสามคนกับอมยิ้ม 1 แท่ง
พ่อแม่จะให้ลูกทั้งสามแบ่งกันยังไงจึงจะถูกใจทุกคน
คำตอบง่ายๆที่เสมอภาคกันก็คือทุกคนต้องผลัดกันอม
มีปัญหาก็ตรงที่ต้องตกลงกันว่า “ใครจะได้อมก่อนหลัง”
ซึ่งพ่อแม่นั่นแหละจะต้องเป็นผู้พิจารณาให้เป็นธรรม
 
แต่ในกรณีพระศาสดาของโลกจะ 3 หรือ 24 พระองค์
พวกเขาเหล่านี้จะทำเหมือนการเลือกลูกอมไม่ได้
เพราะพระศาสดาทรงมาจุติยุคละ 1 พระองค์เท่านั้น
มิได้เสด็จเข้ามาจุติยังโลกเสรีนี้พร้อมกันแต่อย่างใด
พระศาสดาทุกพระองค์ในแต่ละยุคล้วนศักดิ์สิทธิ์
และควรค่าแก่การก้าวตามของมนุษย์ยุคปัจจุบันนี้ทั้งสิ้น
เพราะมนุษย์โลกแต่ละยุคต่างยอมรับพระองค์มาแล้ว
พวกท่านทั้งหลายจะมาแบ่งพระศาสดากันอีกทำไม
 
ควรศึกษาเรียนรู้สัจธรรมแต่ละพระศาสนาให้ถึงแก่น
แล้วนำสัจธรรมเหล่านั้นมา #บูรณาการ กันอย่างบรรจง
พวกท่านก็จะได้สัจธรรมอันล้ำลึกและแยบยลแห่งโลก
ที่จะนำพาจิตวิญญาณพวกท่านให้บรรลุธรรมสูงสุดได้
สมกับที่ท่านทั้งหลายเกิดมาเพื่อเป็น #สัตว์สังคม
แทนที่จะต่างคนต่างอยู่ต่างกูต่างธรรมแบบใครเหนือใคร
 
ถ้าเปลี่ยนนิสัยที่ด้อยค่ากันเสียได้
แค่ความรู้ใหม่เรื่อง “พันธะสัญญา 6” ที่เรายกมาอ้างถึง
จะไม่มีใครสำลักความโง่ง่ายและอวดโชว์ความงมงาย
ให้เรากับพระบิดาทรงผิดหวังกบในกะลาพวกนี้อีกแล้ว
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
17/06/2022