เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การที่ท่านทั้งหลายเชื่อตามคนนำทางตาบอดว่า
มรรคผลสูงสุดในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมนั้น
คือการทำให้จิตวิญญาณตายแล้วไม่กลับมาเกิดอีก
เพราะเชื่อว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
โดยใช้คำว่า #นิพพาน
นั้นเป็นการบิดเบือนพระวจนะ
เราขอยืนยันว่า #พระพุทธศาสดา
มิได้ตรัสไว้เช่นนั้น
เพราะจิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์ทุกคน
เป็นรูปธรรมทางพลังงานซึ่งเป็นสรรพสิ่งที่มีอยู่จริง
ที่ดำรงอยู่ในมิติเดียวกันกับพระผู้สร้างหรือพระเจ้า
โดยทรงเป็นพระผู้เริ่มต้นและสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่ง
หากตราบใดที่พระบิดาหรือพระผู้สร้างยังทรงดำรงอยู่
ทรงไม่เสื่อมสลายไม่มีการดับหายไป
คือ #เป็นอมตะ
จิตวิญญาณทุกรูปธรรมในสากลจักรวาลที่ทรงสร้างขึ้น
ไม่ว่าจะดำรงอยู่อิสระหรือเป็นแก่นแท้ในอัตตามายาใด
ก็จะยังคงอยู่อย่างไม่มีวันตายและไม่ดับสูญเช่นกัน
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านทั้งหลายนั้น
สามารถตายไปจากการมีชีวิตเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้ได้
เพื่อขอรับโอกาสกลับมาเกิดใหม่ในภพชาติหน้าต่อไป
เนื่องจาก #ภารกิจของจิตวิญญาณ
ที่ขันอาสามาทำ
ท่านยังทำมันไม่สำเร็จลุล่วงเพราะถูกลวงให้หลงธรรม
เมื่อหลงธรรมจึง
#หลงทางจนหลงทำ ถลำลึกตลอดมา
จงจำนัยสำคัญเอาไว้ว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน
สามารถที่จะ #ตายไปจากการเป็นมนุษย์
ได้เสมอ
แต่จะดับหายตายแบบไร้ตัวตนจากการเป็นอยู่มีอยู่
ในแบบที่เรียกว่า
#ดับอัตตา เหลือแต่ #อนัตตา มิได้
เพราะความจริงในมิติทางพลังงานนั้นมันเป็นไปไม่ได้
ยังผิดบาปที่คิดจะฆ่าจิตวิญญาณของตนให้ตายอีกด้วย
เพียงแค่ต้องการพ้นทุกข์จึงหนีปัญหาแล้วคิดฆ่าตัวตาย
เหตุเพราะ “จนปัญญา”
พาตัวเองออกจากปัญหาไม่ได้
มนุษย์ที่ #สิ้นคิด
จึงสติแตกจนทำร้ายตนเองนั่นแหละ
ทั้งๆที่ปัญหาทางโลกสามารถใช้สติปัญญาและความรัก
จัดการแก้ไขปัญหานั้นๆได้เสมอถ้าฉลาดมองฉลาดคิด
ฉลาดเรียนรู้ฉลาดพิจารณาและฉลาดดำเนินชีวิต
โดยไม่ขลาดกลัวปัญหาและมีความกล้าหาญที่จะเผชิญ
ด้วยความเชื่อมั่นว่าตนสามารถแก้ปัญหานั้นได้แน่นอน
โดยไม่ปล่อยให้ #ความวิตกจริต
กับความกลัวครอบงำ
ความทุกข์จากปัญหาใดในชีวิตท่านย่อมผ่านได้แน่นอน
ปัญหาความทุกข์ทางจิตวิญญาณก็เช่นกัน
พวกท่านเกลียดกลัวการมีภพชาติการเวียนว่ายตายเกิด
เพราะพวกท่านจับเอาปัญหาทางโลกมาขยุ้มรวมกัน
แล้วมัดไว้เป็นกระจุกเดียวกันกับปัญหาทางจิตวิญญาณ
ทั้งๆที่ปัญหาของท่านเหล่านี้มันอยู่กันคนละมิติโดยแท้
จะจับเอาปัญหามาทั้งขยุ้มเพื่อจัดการแก้ไขได้อย่างไร
ปัญหาทางโลกก็จัดการด้วยวิธีการทางโลกสิท่าน
พระศาสดาทรงมอบเครื่องมือ
“อริยสัจ 4” ไว้ให้แล้ว
เพราะความงมงายและโง่ง่ายความคิดจึงไร้มิติ
นอกจากไม่ฉลาดนำอริยสัจ
4 มาใช้จัดการปัญหาแล้ว
ก็ยังเอาความทุกข์
อายตนะและขันธ์ 5 มาเป็นจำเลย
เพื่อสร้างทุกข์ทางจิตวิญญาณของตนอย่างขาดสติอีก
แทนที่จะถามตนเองในมุมกลับด้วยการ
#ฉุกคิด ว่า
นอกจากวิธีดับทุกข์ด้วยการฆ่าจิตวิญญาณให้ตายไป
โดยไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่อีกนั้นยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่
ก็เพียงแค่ฉลาดถามตนเองกันบ้างว่า
ท่านจะทำอย่างไรจิตวิญญาณจึงไม่ต้องตาย
จะมีชีวิตเป็นอมตะเหมือนมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไร
ท่านก็รู้ดีว่าอาหารที่ถูกต้องทำให้ร่างกายอายุยืนได้
แล้วใยไม่ฉุกคิดเพื่อตั้งคำถามตนเองกันบ้างว่า
อาหารของจิตวิญญาณคืออะไรที่จะทำให้เป็นอมตะ
มีอายุขัยยืนยาวได้โดยไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตายให้ทุกข์
เมื่อพวกท่านถูกหลอกไม่ให้คิดถามตนเองเช่นว่านี้
เพราะไปหลงเชื่อว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา
หลายพันปีที่ผ่านมามนุษย์จึงเข้าถึงคำตอบไม่ได้
จึงพยายามหาทางทำให้ตายโดยไม่กลับมาเกิดอีก
ในลักษณะนิพพานแบบตาลยอดด้วนคือหายไปดื้อๆ
แทนที่จะหาทางช่วยให้ตนเองไม่ต้องตาย
เพราะไหนๆจิตวิญญาณก็ได้รับโอกาสให้มาเกิดแล้ว
เหมือนต้นไม้ที่เจริญเติบโตขึ้นมาบนดินแล้ว
จะทำอย่างไรให้ให้ต้นไม้นั้นเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
จะเหมาะกว่าการคิดขุดรากถอนโคนทิ้งให้สิ้นไป
ท่านทั้งหลายจงระลึกไว้เสมอว่า
วิธีการทำร้ายทำลายมิใช่การคิดสร้างสรรค์
มิใช่มรรควิถี #จิตจักรวาล
มิใช่เส้นทางกลับบ้าน
ที่จิตวิญญาณของท่านจะก้าวย่างต่อไปได้
เพราะมันเป็นทางตันจงคิดอ่านให้รอบครอบเถิด
เรากลับมากล่าว “อนุตรธรรม”
ในพระนามของพระเจ้า
ผู้ใดก้าวตามเรามาผู้นั้นจะได้รับการ
#คัดไว้
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา