คนชั่วฉลาดคิด
แต่คนดีไม่ชอบคิด
นักเรียนในห้องเรียน ป.วิสุทธิปัญญา ทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้
เพื่อการเรียนรู้ให้รู้แจ้งไว้อีกอย่างหนึ่งว่า
ทำไมคนดีๆจึงมักจะตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงของคนชั่ว
เพราะมันเป็นเวรกรรมของคนดีๆอย่างท่าน
ที่เคยกระทำการล่อลวงคนพวกนี้ไว้ตั้งแต่ภพชาติก่อน
หรือเป็นเพราะประสบกับ "เคราะห์กรรม"
ที่จับพลัดจับผลูให้มารู้จักคบหาสมาคมกับคนพวกนี้กันแน่
ที่ผ่านมาพวกท่านทั้งหลายที่เป็นคนดี
หากเมื่อใดก็ตามถ้าท่านถูกกระทำมิดีมิร้ายโดยคนชั่ว
พวกท่านก็มักจะพากันรุมด่าประนามหรือตำหนิติเตียนคนชั่ว
พวกท่านก็มักจะพยายามเอาเรื่องเอาความคนชั่ว
พวกท่านก็มักจะพยายามต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน คนชั่วพวกนั้น
นั่นคือ "ความจริง" ที่เราล้วนต่างมองเห็นกันอยู่
ทานทราบหรือไม่ว่า....
การที่ท่านพยายามจะเอาความคนชั่วพวกนั้น
มันหมายความว่าตัวท่านนั้น
1.เสมือนต้องการแก้แค้น หรือเอาคืน
เพราะถูกทำชั่วก่อน.......
โดยท่านมักจะตอบสนองคนชั่ว
ด้วยการทำชั่วตอบแทนเขากลับไป
โดยที่ท่านเข้าใจว่า
การไม่หาเรื่องใครก่อน
การไม่ทำชั่วไม่ทำตัวเกเรกับใครก่อน
นั่นคือการเป็นคนดีในความหมายของท่านแล้ว
พฤติกรรมแบบนี้มันไม่ต่างจากแนวคิดที่ว่า
ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
มึงทำกูได้ กูก็ทำมึงได้มั่งสิวะ
บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง
แนวคิดเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ผิดมาก
เพราะทั้งๆที่รู้อยู่ว่าตัวท่านเองไม่พอใจคนๆนั้นมาก
ด้วยเหตุเพราะเขาทำชั่วต่อตัวท่าน
และเพราะรู้ว่าเขาชั่วตัวท่านจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นั่นย่อมแสดงว่าตัวท่านเองนั้นน่ะก็รู้ว่า......
"ความชั่วนั้นมันไม่ดี"
เมื่อรู้ว่าไม่ดีท่านจึงไม่ชอบ
ถ้าใครๆที่รู้ว่าไม่ดีเขาก็ต้องไม่ชอบเหมือนท่านเช่นกัน
แต่นี่กลับปรากฏว่า
ท่านมักจะทำชั่วตอบสนองต่อคนที่ทำชั่วกับท่านก่อนเสมอ
แล้วอย่างนี้....
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านท
เพื่อการเรียนรู้ให้รู้แจ้ง
ทำไมคนดีๆจึงมักจะตกเป็นเหย
เพราะมันเป็นเวรกรรมของคนดี
ที่เคยกระทำการล่อลวงคนพวกน
หรือเป็นเพราะประสบกับ "เคราะห์กรรม"
ที่จับพลัดจับผลูให้มารู้จั
ที่ผ่านมาพวกท่านทั้งหลายที
หากเมื่อใดก็ตามถ้าท่านถูกก
พวกท่านก็มักจะพากันรุมด่าป
พวกท่านก็มักจะพยายามเอาเรื
พวกท่านก็มักจะพยายามต่อสู้
นั่นคือ "ความจริง" ที่เราล้วนต่างมองเห็นกันอย
ทานทราบหรือไม่ว่า....
การที่ท่านพยายามจะเอาความค
มันหมายความว่าตัวท่านนั้น
1.เสมือนต้องการแก้แค้น หรือเอาคืน
เพราะถูกทำชั่วก่อน.......
โดยท่านมักจะตอบสนองคนชั่ว
ด้วยการทำชั่วตอบแทนเขากลับ
โดยที่ท่านเข้าใจว่า
การไม่หาเรื่องใครก่อน
การไม่ทำชั่วไม่ทำตัวเกเรกั
นั่นคือการเป็นคนดีในความหม
พฤติกรรมแบบนี้มันไม่ต่างจา
ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
มึงทำกูได้ กูก็ทำมึงได้มั่งสิวะ
บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง
แนวคิดเหล่านี้เป็นแนวคิดที
เพราะทั้งๆที่รู้อยู่ว่าตัว
ด้วยเหตุเพราะเขาทำชั่วต่อต
และเพราะรู้ว่าเขาชั่วตัวท่
นั่นย่อมแสดงว่าตัวท่านเองน
"ความชั่วนั้นมันไม่ดี"
เมื่อรู้ว่าไม่ดีท่านจึงไม่
ถ้าใครๆที่รู้ว่าไม่ดีเขาก็
แต่นี่กลับปรากฏว่า
ท่านมักจะทำชั่วตอบสนองต่อค
แล้วอย่างนี้....
ทั้งคนชั่วคนนั้นกับตัวท่านเอง
ต่างก็ชั่วเหมือนกันใช้มั้ยล่ะนี่....
แต่เขาคนนั้นชั่วโดยไม่รู้ตัวว่าชั่ว
เพราะขาดสติหรือเป็นสันดาน
ส่วนตัวท่านน่ะกลับทำชั่วตอบสนองเขาไปทั้งๆที่รู้อยู่ว่าชั่ว
ถ้าถามว่าแล้วอย่างนี้ "ใครชั่วกว่า"
ท่านพอจะคิดหาคำตอบมาตอบเรากันได้มั้ย ?
ท่านจะตอบเราว่าอย่างไรดี
2.การที่ท่านพยายามจะแก้แค้นเอาคืนคนชั่ว
เพราะท่านลืมไปว่า........
พวกเขาคนชั่ว คือ ครูของท่าน
เป็นครูที่จะมาช่วยสร้างเงื่อนไขให้ท่านเกิดการเรียนรู้
เป็นครูที่จะสอนให้ท่านให้เกิดการเรียนรู้ว่า
ทำไมคนดีๆอย่างท่านจึงต้องถูกคนชั่วหลอกลวงด้วย
เป็นครูที่จะมาสอนท่านให้เกิดการเรียนรู้ว่า
คนดีๆอย่างท่านที่ต้องเสียรู้เสียท่าคนชั่วเช่นนี้เพราะสาเหตุใด
เป็นครูที่จะมาสอนท่านให้เกิดการเรียนรู้ว่า
คนดีๆอย่างท่านมีข้อผิดพลาดบกพร่อง
จนต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขตนเองในด้านใด
ถ้าท่านจะยังประโยชน์สุขในการดำเนินชีวิต
ถ้าท่านปรารถนาความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ
ท่านจะไปโกรธโทษคนชั่วฝ่ายเดียวไม่ได้
ท่านจะไปเป็นคนชั่วเสียเอง
ด้วยการทำชั่วตอบสนองเขากลับคืนก็ไม่ได้
ท่านจะเอาเรื่องเอาความเขาก็ไม่ได้ทั้งสิ้น
หน้าที่ของท่านที่ต้องทำ ก็คือ
เร่งรีบ "เรียนรู้" ข้อบกพร่องของตัวเอง
ทันทีที่เสียรู้หรือเสียท่าคนชั่ว....จงจำไว้!
ดังนั้น.....
เรามีความจริงที่จะกล่าวกับท่านทั้งหลายว่า
การที่คนดีมักตกเป็นเหยื่อของคนชั่วก็เพราะว่า
ส่วนใหญ่คนดีนั้นเป็นคนไม่ชอบคิด
ไม่ช่างคิด
คนดีมักจะดำเนินชีวิตกันแบบเรียบง่ายอยู่สบายๆไปวันๆ
คนดีนั้นมักจะก้มหน้าก้มตาทำมาหากินกัน
โดยไม่คิดที่จะเอาเปรียบเบียดเบียนใคร
นี่เป็นข้อบกพร่องของคนดี.. ...
นั่นคือดำเนินชีวิตแบบ "ไม่คิด" หรือ "ไม่ค่อยคิด"
หรือดำเนินชีวิตแบบ
"คิดเฉพาะเรื่องที่ตนสนใจจะคิด"
โดยอาจกล่าวได้ว่า
คนดีนั้นมักจะทำตัวบกพร่องด้านการเรียนรู้เสมอ
คนดีเมื่อคบกับใครก็มักจะมองว่า
คนๆนั้นต้องดีเหมือนตัวเอง
พอคิดว่าเขาต้องดีเหมือนตนเองแล้ว
การจะเรียนรู้ที่จะป้องกันตนเองจึงไม่เกิดขึ้น
ในขณะที่คนชั่วนั้นเมื่อคบกับใคร
เขาก็มักจะแสดงคุณสมบัติด้านลบของตัวเองออกมาเสมอ
เพราะมันเป็นธรรมชาติของพวกเขา
ดังนั้น.....
ต่างก็ชั่วเหมือนกันใช้มั้ย
แต่เขาคนนั้นชั่วโดยไม่รู้ต
เพราะขาดสติหรือเป็นสันดาน
ส่วนตัวท่านน่ะกลับทำชั่วตอ
ถ้าถามว่าแล้วอย่างนี้ "ใครชั่วกว่า"
ท่านพอจะคิดหาคำตอบมาตอบเรา
ท่านจะตอบเราว่าอย่างไรดี
2.การที่ท่านพยายามจะแก้แค้
เพราะท่านลืมไปว่า........
พวกเขาคนชั่ว คือ ครูของท่าน
เป็นครูที่จะมาช่วยสร้างเงื
เป็นครูที่จะสอนให้ท่านให้เ
ทำไมคนดีๆอย่างท่านจึงต้องถ
เป็นครูที่จะมาสอนท่านให้เก
คนดีๆอย่างท่านที่ต้องเสียร
เป็นครูที่จะมาสอนท่านให้เก
คนดีๆอย่างท่านมีข้อผิดพลาด
จนต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขตนเ
ถ้าท่านจะยังประโยชน์สุขในก
ถ้าท่านปรารถนาความก้าวหน้า
ท่านจะไปโกรธโทษคนชั่วฝ่ายเ
ท่านจะไปเป็นคนชั่วเสียเอง
ด้วยการทำชั่วตอบสนองเขากลั
ท่านจะเอาเรื่องเอาความเขาก
หน้าที่ของท่านที่ต้องทำ ก็คือ
เร่งรีบ "เรียนรู้" ข้อบกพร่องของตัวเอง
ทันทีที่เสียรู้หรือเสียท่า
ดังนั้น.....
เรามีความจริงที่จะกล่าวกับ
การที่คนดีมักตกเป็นเหยื่อข
ส่วนใหญ่คนดีนั้นเป็นคนไม่ช
คนดีมักจะดำเนินชีวิตกันแบบ
คนดีนั้นมักจะก้มหน้าก้มตาท
โดยไม่คิดที่จะเอาเปรียบเบี
นี่เป็นข้อบกพร่องของคนดี..
นั่นคือดำเนินชีวิตแบบ "ไม่คิด" หรือ "ไม่ค่อยคิด"
หรือดำเนินชีวิตแบบ
"คิดเฉพาะเรื่องที่ตนสนใจจะ
โดยอาจกล่าวได้ว่า
คนดีนั้นมักจะทำตัวบกพร่องด
คนดีเมื่อคบกับใครก็มักจะมอ
คนๆนั้นต้องดีเหมือนตัวเอง
พอคิดว่าเขาต้องดีเหมือนตนเ
การจะเรียนรู้ที่จะป้องกันต
ในขณะที่คนชั่วนั้นเมื่อคบก
เขาก็มักจะแสดงคุณสมบัติด้า
เพราะมันเป็นธรรมชาติของพวก
ดังนั้น.....
คนดีๆที่คบหาอยู่กับคนชั่ว
จึงต้องฉลาดคิดฉลาดเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองไว้
นอกจากนั้นคนชั่วบางคนที่ฉ้อฉลมากกลโกง
เมื่อใดที่เขาคบกับใครก็ตาม
ในก้อนสมองของพวกนี้
จะมีการสั่นสะเทือนทางความคิดอยู่ตลอดเวลา
โดยคิดว่าจะเอาเปรียบผู้อื่นได้อย่างไร
จะฉ้อฉลด้วยกลโกงแบบไหน
จะเอาเปรียบ เบียดเบียน หลอกลวง อย่างไร
จะฉกฉวยโอกาสดีๆของผู้อื่นมาเป็นของตนได้อย่างไร
นักเรียนทั้งหลายสังเกตได้หรือไม่ว่า
พวกคนชั่วฝ่ายชั่วนั้น
สมองของพวกเขาสั่นสะเทือนตลอด
ขณะที่คนดีๆทั้งหลายนั้นในวันๆหนึ่งที่คบหากับใครๆ
ภายในก้อนสมองน่ะมีการสั่นสะเทือน
เพื่อการคิดรู้หรือเรียนรู้อะไรๆกันบ้างหรือไม่
ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงจำต้องกล่าวความจริงเอาไว้ว่า
จึงต้องฉลาดคิดฉลาดเรียนรู้
นอกจากนั้นคนชั่วบางคนที่ฉ้
เมื่อใดที่เขาคบกับใครก็ตาม
ในก้อนสมองของพวกนี้
จะมีการสั่นสะเทือนทางความค
โดยคิดว่าจะเอาเปรียบผู้อื่
จะฉ้อฉลด้วยกลโกงแบบไหน
จะเอาเปรียบ เบียดเบียน หลอกลวง อย่างไร
จะฉกฉวยโอกาสดีๆของผู้อื่นม
นักเรียนทั้งหลายสังเกตได้ห
พวกคนชั่วฝ่ายชั่วนั้น
สมองของพวกเขาสั่นสะเทือนตล
ขณะที่คนดีๆทั้งหลายนั้นในว
ภายในก้อนสมองน่ะมีการสั่นส
เพื่อการคิดรู้หรือเรียนรู้
ด้วยเหตุนี้เอง
เราจึงจำต้องกล่าวความจริงเ
คนดีมักเป็นเหยื่อของคนชั่ว
เพราะคนชั่วช่างคิด และฉลาดคิดมากกว่าคนดี
เพราะคนชั่วช่างคิด และฉลาดคิดมากกว่าคนดี
เสียอย่างเดียวตรงที่คนชั่วทั้งหลายนั้น
มักใช้ความฉลาดไปในทางที่คิดมิชอบนั่นแหละ
เป็นคนดีนั้นดีแล้ว
แต่จะเป็นคนดีที่ไม่โง่น่ะจะเป็นได้อย่างไร
มักใช้ความฉลาดไปในทางที่คิ
เป็นคนดีนั้นดีแล้ว
แต่จะเป็นคนดีที่ไม่โง่น่ะจ
นิพพานไม่ได้หรอกนะ
ถ้าใช้ปัญญาของตัวเองไม่ได้
ถ้าใช้ปัญญาของตัวเองยังไม่เป็น
เอเมน....สาธุ.....
ป.วิสุทธิปัญญา
7-01-2015
ถ้าใช้ปัญญาของตัวเองไม่ได้
ถ้าใช้ปัญญาของตัวเองยังไม่เป็
เอเมน....สาธุ.....
ป.วิสุทธิปัญญา
7-01-2015