29 มกราคม 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 29/01/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

บัดนี้โลกสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
ได้เวลาที่จิตวิญญาณของพวกท่านทั้งหลาย
จะต้องเดินทาง "กลับบ้าน" กันแล้วล่ะ
เพราะครบกำหนดตาม "พันธสัญญา 6"
ที่จิตวิญญาณพวกท่านได้ให้สัจจะไว้กับพระบิดา
ก่อนที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์ตั้งแต่ภพชาติแรกแล้ว

โดยสาระสำคัญหนึ่งในพันธสัญญาทั้ง 6 ข้อก็คือ
พวกท่านได้ให้สัญญากับพระองค์ว่าถ้าครบกำหนด
ในการเข้ามาทำหน้าที่ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ก็คือครบ 1 ยุค หรือเท่ากับ 60,000 ปีโลกแล้ว
ท่านจะใช้ "จิตหยาบ" ส่ง "จิตวิญญาณ" กลับบ้าน
เพื่อคืนกลับไปกราบพระบาทพระบิดาที่ทรงรออยู่
โดยจิตวิญญาณจะกลับบ้านได้จักต้อง หลุดพ้น

คำว่า "หลุดพ้น" หมายถึงจิตวิญญาณของท่าน
จักต้องหลุดออกไปจากเอกภพอันไพศาลนี้
เอกภพที่มีโลกและกาแล็กซี่ 12,500 ล้านระบบ
ซึ่งเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระบิดา
ที่ท่านทั้งหลายต่าง "ขันอาสา" พระองค์เข้ามา
เพื่อทำหน้าที่ทดสอบทดลองแผนการต่างๆ
ที่ทรงออกแบบติดตั้งเอาไว้ให้ปฏิบัติว่า
พระองค์จะสามารถกระทำสิ่งใดได้บ้างนี้ให้ได้

แน่นอนว่า "จิตวิญญาณ" ของท่าน
ถ้าสามารถจะหลุดพ้นออกไปจากเอกภพนี้ได้
จักต้องมีพลังอำนาจในการดีดตนเองออกไป
ด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่าแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้ง
ทั้งของดาวเคราะห์โลกและเอกภพทั้งระบบได้

ถ้าจิตวิญญาณของท่านจะมีพลังอำนาจสูง
มากพอที่จะดีดตนเองหนีแรงดึงดูดทั้งหมดได้
จิตวิญญาณต้องมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 30 มก.
เท่ากับตอนที่ข้ามมิติเข้ามาเกิดในภพชาติแรก
เพราะพระบิดาทรงกำหนดเอาไว้ให้อย่างนั้น

น้ำหนักตัวของจิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์
ที่เป็นกล่องพลังงานนี้จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
ถ้าจิตหยาบก่อผลกรรมด้านบวกบ้างด้านลบบ้าง
ซึ่งผลกรรมจะอยู่ในรูปของ บุรพกรรมแม่เหล็ก
และมีน้ำหนักมวลอย่างน้อย 0.5 มิลลิกรัมด้วย

ถ้าทั้งภพชาติขยันสร้างแต่เวรแต่กรรม
กระทำผิดบาปด้วยจิตหยาบอยู่เป็นอาจิณ
รหัสกรรมทุกกรรมก็จะถูกเก็บไว้ที่เมอร์คขะบาห์
ซึ่งเป็นเปลือกนอกของจิตวิญญาณของท่าน
ถ้าสะสมไว้มากมันจะทำให้จิตวิญญาณไร้พลัง
เพราะเมอร์คขะบาห์มีที่ว่างให้สั่นสะเทือนน้อย
อีกทั้งถ้ามีผลกรรมมากน้ำหนักมวลก็ยิ่งเพิ่มมาก
จนส่งผลให้ดีดตัวเองหนีแรงดึงดูดออกไปไม่พ้น

ถ้าจิตวิญญาณหลุดพ้นออกไปจากเอกภพไม่ได้
แก่นแท้ของท่านก็จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้
พวกท่านก็จะเป็นดั่งขยะอวกาศหรือขยะจักรวาล
รอที่จะถูกช่างเท็คนิกหรือทูตสวรรค์ของพระองค์
ทำการ "ระเบิดทิ้ง" หรือ จัดการ "เผาทำลายทิ้ง"
โดยจะถูกชำระพร้อมกับแผ่นดินโลกบางส่วนด้วย
เพื่อทำความสะอาดโลกและเอกภพของพระองค์
เอาไว้รองรับเด็กๆจากฟ้าสีครามแห่งพระนิเวศน์
ผู้จะเข้ามาทำหน้าที่เพื่อนร่วมงานกับโลกแทนท่าน
ในยุคพลังงานใหม่กันต่อไปนั่นเอง

เราจึงเตือนท่านอยู่เสมอว่า
ถ้าปรารถนาการหลุดพ้นอย่างแท้จริงแล้ว
ท่านต้องเลิกหลับตาก้าวตามคนนำทางตาบอด
เพื่อรับฟังพระโอวาทพระบิดาที่ทรงสื่อผ่านเรามา
จักได้รู้ว่า "หลงทางนิพพาน" คืออย่างไร
จักได้รู้ว่า "จิตหยาบนิพพาน จิตวิญญาณหลุดพ้น"
มันมีหมายความว่าอย่างไร จักต้องปฏิบัติอย่างไร

คนที่โง่ง่ายหรือฉลาดยากกับคนที่รักไม่เป็น
รวมทั้งผู้ที่ต่อต้านพระผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาล
จะถูกทำเครื่องหมาย "กากะบาท" ไว้ตรงหน้าผาก
ส่วนคนที่ไม่ตื่นตัวไม่ตื่นใจและไม่ตื่นรู้
ทำตนเป็นขยะรกโลกเพราะเป็นที่พึ่งของโลกไม่ได้
จะคัดทิ้งไว้ให้เจ้ากรรมนายเวรของตน "ชำระ" เอง

บัดนี้เวลาแห่งการเปลี่ยนยุคและการชำระโลก
เหลือน้อยลงเต็มทีแล้วล่ะท่านทั้งหลาย
ท่านกำลังทำศึกสงครามเชื้อโรคกับมอดมาร
อีกทั้งยังจะต้องทำสงครามกับภัยพิบัติด้วย
หากไม่รีบติดอาวุธทางปัญญาพัฒนาจิตวิญญาณ
ซึ่งมันต้องใช้เวลาสิ้นเปลืองยาวนานอยู่ไม่น้อย
ท่านคิดว่าจะรักษาตัวให้รอดได้แน่หรือ

มัวแต่สนุกสนานกับชีวิตที่ติดกิเลสและราคะ
ติดโลภ ติดรวย ติดสวย ติดทุกข์ ติดสุข
ติดอุตริอวิชชา ติดอบายมุข ติดอำนาจเหนือ
โดยไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่อจิตวิญญาณบ้างเลย
วันที่ภัยทั้งหลายมาถึงตัวก็คงจะเอาหัวไม่รอดแน่

ในยุคท่านโนอาห์
มีผู้คนไม่เชื่อข่าวสารของพระองค์จึงไม่ลงเรือ
ครั้งกระนั้นผู้ที่ถูกคัดทิ้งจึงมีจำนวนมากกว่าผู้รอด
ครั้งนี้ประวัติศาสตร์คงต้องซ้ำรอยเดิมอีก
ความดื้อรั้น อวดดี งมงาย โง่ง่ายไม่เอาไหน
มันล้วนนำพามนุษย์ตกสวรรค์กันมาทุกยุคสมัย
สิ้นยุคแล้วจะมีท่านผู้ใดเข็ดหลาบกันบ้างไหมนี่

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29/01/2022