สนทนาประสาจิตจักรวาล
13/11/2020
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
จิตวิญญาณ ผู้เป็นแก่นแท้ของท่าน
ขันอาสาพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
แบกพลังงานความรักจากแดน จิตจักรวาล
เพื่อนำมาเติมเต็มให้กับ ดาวเคราะห์โลก
ในบทบาทของ คนสองมิติ นั้น
จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
จะมอบพลังงานความรักให้แก่โลกได้ก็ต่อเมื่อ
ท่านจักต้องคนตนเองให้เป็น มนุษย์ ก่อน
ซึ่งการคนตนเองให้เป็นมนุษย์
หมายถึงทุกท่านต้องหมุนธรรมจักรในตนเอง
และต้องหมุนธรรมจักรร่วมกับคนรอบข้างด้วย
ดังนั้น
เมื่อจิตวิญญาณของท่าน
ขันอาสาพระองค์ลงมาเกิดเป็น "มนุษย์"
เพื่อทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลก
ด้วยการใช้พลังงานความรักที่แบกขนเข้ามา
เป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่จะสร้างจิตสำนึกให้โลก
และทำให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่องได้
เมื่อภารกิจทางจิตวิญญาณเป็นอย่างที่ว่า
ก่อนจบสิ้นอายุขัยไปในภพชาตินี้
ทำไมท่านจึงไม่มุ่งทำหน้าที่ของท่านให้เต็มที่
ใยจึงไม่ทำหน้าที่ของท่านโดยมิให้บกพร่อง
เพื่อให้บรรลุภารกิจของจิตวิญญาณให้จงได้
โดยท่านจักต้องฝึกฝนตนเองให้ได้ว่า
จะรักคนที่ทำตัวไม่น่ารักได้อย่างไร
จะให้อภัยต่อคนที่ทำตัวไม่น่าให้อภัยได้อย่างไร
จะอดทนต่อคนที่ทำไม่ถูกต้องต่อท่านได้ยังไง
จะอดกลั้นต่อคนที่ท่านไม่พอใจได้อย่างไร
จิตหยาบของท่าน
มีหน้าที่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จให้ได้
ภายในเวลาก่อนจะจบสิ้นอายุขัยไปจากภพชาตินี้
โดยวันๆท่านไม่ต้องคิดไม่ต้องห่วงชาติหน้าเลย
ท่านเพียงทำปัจจุบันของภพชาตินี้ให้ดีที่สุดก็พอ
การที่ท่านอธิษฐานร้องขอว่า
ชาตินี้ชาติหน้าปรารถนาจะเป็นพระโพธิสัตว์
ชาตินี้ชาติหน้าปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า
ท่านรู้หรือไม่ว่าการอธิษฐานไว้เช่นนั้น
มันจะทำให้จิตวิญญาณในตัวท่านไม่มีความสุข
หนึ่ง...มันเป็นจริงไม่ได้
เพราะจิตวิญญาณของท่าน
อาสาพระองค์มาเกิดเป็นมนุษย์โลกเสรีเท่านั้น
มิได้อาสาว่าจะมาเกิดเป็นอย่างอื่น
ไม่ต่างจากพระองค์ทรงสร้างท่านให้เป็นมะพร้าว
เมื่อนำผลมะพร้าวมาเพาะปลูกบนโลกจนเติบโต
ไม่ว่ามะพร้าวต้นไหนๆก็จะให้ดอกออกผล
ซึ่งเมื่อนำไปขยายพันธุ์ก็จะเป็น "มะพร้าว" เท่านั้น
มันไม่เคยผ่าเหล่าไปเป็นหมาก เป็นกล้วย
หรือเปลี่ยนไปเป็นต้นไม้ชนิดอื่นแต่อย่างใด
มนุษย์อย่างพวกท่านก็มิได้แตกต่างกันเลย
สอง...การร้องขอดังกล่าว
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ยากมาก
แม้พลังจิตของมนุษย์อาจมีอำนาจมากพอ
ที่จะสั่นสะเทือนจิตใต้สำนึกของแก่นแท้
เพื่อสนองความคิดฝันในเรื่องเหลือเชื่อได้บ้าง
แต่มันจะนำพาจิตวิญญาณ "หลงทาง" แทน
ที่เรียกว่าหลงทางก็เพราะว่า
ท่านจะนำพาจิตวิญญาณของท่าน
หลุดลอยค้างอยู่บนสวรรค์มายา
จนไม่สามารถกลับบ้านแดนสุญตาที่จากมาได้
สาม...การร้องขอดังกล่าว
แทนที่จะมุ่งทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
เพื่อการมอบความรักให้กับโลกแบบมนุษย์ๆ
กลับไปทำในสิ่งที่มิใช่หน้าที่ของจิตวิญญาณ
ทั้งยังเป็นการทำผิดต่อ พันธะสัญญา6
ที่จิตวิญญาณของท่านให้สัจจะไว้ต่อพระองค์
ก่อนเข้ามาเกิดในภพชาติแรกอีกด้วย
การพยายามสอบให้ผ่านบททดสอบจิตสามนึก
เพื่อรักคนไม่น่ารักให้ได้
เพื่อให้อภัยคนที่ไม่สมควรให้อภัยให้เป็น
เพื่อมองเห็นคุณค่าของสิ่งไร้ค่าให้ได้
มันเป็นสิ่งที่มิใช่เพ้อฝันและไม่ยากเลย
เพียงสั่นสะเทือนจิตตปัญญาในตนเองเท่านั้น
มันง่ายกว่าการจะเป็นพระโพธิสัตว์
ง่ายกว่าการจะเป็นพระพุทธเจ้า
ง่ายกว่าการจะเป็นอะไรๆที่ใจอยากเป็นเสียอีก
ท่านเห็นด้วยกับเรามั้ยว่า
การได้รับโอกาสเป็นมนุษย์ทั้งชาตินี้ชาติหน้า
แม้ว่ามันจะยากแค่ไหน...
แต่มันก็ง่ายกว่าที่ท่านอยากจะเป็น
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
13/11/2020
