03 พฤศจิกายน 2563

สนทนาประสาจิตจักรวาล 03/11/2020

 สนทนาประสาจิตจักรวาล

03/11/2020



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

คำว่า พุทธะ กับคำว่า เวไนย
มีความหมายต่างกันอย่างไร
ถ้ามิใช่ "พุทธะ" ก็คือ "เวไนย" ใช่หรือไม่
โดยเราจะลำดับความให้ท่านสดับดังนี้

1.คำว่า "พุทธะ" หมายถึง
ผู้มีปัญญาอันบริสุทธิ์อันเกิดจากการฝึกฝน
หรือ ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้ปัญญา
อันหมายถึง "นักปราชญ์" นั่นเอง

2.คำว่า "เวไนย" หรือ "เวเนย"
หมายถึง ผู้ที่ควรได้รับคำแนะนำสั่งสอน
หรือ หมายถึง ผู้ที่พึงดัดได้ สอนได้

3.เราไม่เห็นด้วยกับประโยคที่สอนว่า
"ถ้าไม่ใช่พุทธะ ก็คือ เวไนย"
เพราะองค์ จิตจักรวาล พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ทรงมีพระเมตตากล่าวต่อเราว่า

คนทุกคนที่ได้รับโอกาสมาเกิดยังโลกเสรีนี้
ไม่ว่าเธอคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม
ต่างสมควรต้อง "เรียนรู้" ด้วยกันทั้งนั้น
เพราะไม่มีใครรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องหรอกท่าน
ไม่ว่าจะเป็น "พุทธะ" หรือไม่เป็นพุทธะก็ตาม

เพราะเหตุว่า
องค์ความรู้ที่มนุษย์ทุกคนต้องเรียนรู้นั้น
มีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

(1).ความรู้ที่อยู่นอก อนันตจักรวาล
ที่เป็นองค์ความรู้ระดับ อนุตรธรรม
ซึ่งอย่าว่าแต่ท่านผู้เป็น "พุทธะ" เลย
แม้แต่พระผู้เป็น สัพพัญญู ผู้รอบรู้เอง
ก็มิอาจเข้าถึงองค์ความรู้นี้ได้

เพราะ
 จิตตปัญญา ที่ถูกติดตั้งไว้
ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
มีขีดจำกัดในการใช้งานเพื่อการเรียนรู้
ด้วยวิธี "คิดรู้" และ "หยั่งรู้" นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เอง
พระผู้เป็นเจ้าหรือพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
อันหมายถึง #องค์จิตจักรวาล
ซึ่งเป็นผู้ทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณของท่าน
เดินทางข้ามมิติเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์กันนั้น
จึงต้องมีพระบัญชาให้ "เรา"
กลับมาเกิดเป็น "พระบุตรเอก" ในภพชาตินี้

ให้เรามาทำหน้าที่ช่วยเหลือท่านทั้งหลาย
ด้วยการกล่าวพระโอวาทประกาศอนุตรธรรม
ในพระนามแห่ง องค์จิตจักรวาล
(In the Name of God)
ให้มนุษย์โลกทั้งหลายได้เรียนรู้โดยทั่วกัน

ตัวอย่างเช่น
ให้เรามากล่าวต่อท่านทั้งหลายให้รู้ว่า

จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านเป็นใคร
จิตวิญญาณของท่านมาจากไหน
จิตวิญญาณท่านมาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม
จิตวิญญาณของท่านมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง
จิตวิญญาณของท่านสัมพันธ์กับโลกอย่างไร
ฯลฯ

เพราะในอดีตถึงปัจจุบัน
มนุษย์โลกทั้งหลาย
แม้กระทั่งพุทธะหรือสัพพัญญู
ก็มิอาจเข้าถึงองค์ธรรมความรู้ "นอกกะลา"
หรือ สัจธรรมนอกอนันตจักรวาลเหล่านี้ได้
จึงมองว่าพวกตนไม่น่ามาเกิดเป็นมนุษย์เลย

เพราะเห็นว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์สาหัส
พวกท่านจึงชวนกันหนีการมีสังสารวัฏ
แล้วหลุดลอยไปจุติอยู่บนสวรรค์มายาแทน
ด้วยเข้าใจว่าบนนั้นเป็น แดนนิพพาน
เป็นสวรรค์วิมานที่พาพวกท่าน "พ้นทุกข์"
ซึ่งเป็นการ "หลงทางนิพพาน"
และละทิ้งภารกิจทางจิตวิญญาณอีกด้วย
สาเหตุเพราะการไม่รู้อนุตรธรรมเหล่านี้นั่นเอง

ดังนั้น
เราจึงไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า
ถ้าไม่เป็น "พุทธะ" ก็คือ "เวไนย"
เพราะไม่ว่ามนุษย์คนไหนก็ตาม
มิอาจรู้อนุตรธรรมนอกจักรวาลหรือนอกกะลาได้
ทั้งพุทธะทั้งเวไนยยังต้องเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น

(2).ความรู้ที่อยู่ในอนันตจักรวาล
ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท คือ

ความรู้ที่ตนยังไม่รู้ซึ่งอยากรู้อยู่
ความรู้ที่เรียนรู้มาบ้างแล้วแต่ยังรู้ไม่ซึ้ง
ความรู้ที่ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องรู้
ความรู้ที่ยังไม่รู้ว่าตนนั้นไม่รู้


ความรู้ทั้ง 4 ประการเหล่านี้
ผู้เป็น "สัพพัญญุ" เท่านั้นที่รอบรู้ได้
นอกจากนั้นยังต้อง "เรียนรู้" ด้วยกันทั้งนั้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3/11/2020