พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลายเราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่าทรงเป็นผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ในเครื่องยนต์แห่งกรรมหรือ "กายสังขาร" ของท่านทั้งหลายนั้นทรงประทับอยู่ในแผ่นดินสวรรค์อันหมายถึงแดนสุญตาที่อยู่นอกเอกภพการที่พระองค์ส่ง #พระบุตรเอก เดินทางเข้ามาจุติเป็นมนุษย์ในระบบโลกก็เพื่อทำหน้าที่กล่าวพระโอวาทต่อท่านทั้งหลายในพระนามของพระองค์นั่นเองที่ทรงกล่าวต่อมวลมนุษย์ผ่านพระบุตรเอกมีทั้ง #อนุตรธรรม #โลกุตรธรรม และ #โลกิยธรรมอันเป็นอาหารของจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายที่ทุกคนต้องรับประทานเพราะทานแล้วจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านจะไม่ต้องตายจิตวิญญาณของท่านจะเป็นผู้มีชีวิตนิรันดร์การมีชีวิตนิรันดร์หมายถึงท่านทั้งหลายจะมีอายุขัยยืนยาวโดยฝ่ายเนื้อหนังจะไม่มีการเสื่อมสลายท่านจะห่างไกลจากความเฒ่าชราพวกท่านจะไม่มีคำว่า #สังสารวัฏเมื่อครบ 6 หมื่นปีแล้วจิตวิญญาณของท่านก็จะทิ้งกายสังขารแล้วเดินทางกลับบ้านด้วยการหลุดพ้นเพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯที่ทรงรออยู่พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลายสัจธรรมจากพระโอวาทที่ทรงกล่าวผ่านพระบุตรเอกนั้นเปรียบดั่งผลองุ่นอันหวานละมุนช่อใหญ่ๆจาก "เถาองุ่น" ก็คือ "พระบุตรเอก" นั่นเองแต่ที่ผ่านมานานนับพันปีจนบัดนี้คนส่วนใหญ่มักปฏิเสธอาหารของพระองค์ที่ทานแล้วจิตวิญญาณจะมีชีวิตกลับเลือกทานแต่อาหารบำรุงเนื้อหนังซึ่งผลบั้นปลายที่ได้รับคือความตายเมื่อตายแล้วก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ไปเรื่อยๆอาหารบำรุงเนื้อหนังที่เรากล่าวนี้ก็คือสิ่งอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของท่านที่ได้จากการใช้กิเลสตัณหาของจิตหยาบแสวงหามันมานั่นแหละท่านพี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลายเราขอกล่าวความจริงต่อท่านอีกด้วยว่าพระองค์ทรงมอบหมายให้จิตวิญญาณแก่นแท้ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์เข้ามาจุติในระบบโลกเสรีนี้เพื่อปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6 ให้ลุล่วงโดยทรงอนุญาตให้ท่านทั้งหลายมาทำหน้าที่ภายในระยะเวลา 6 หมื่นปีโลกเท่านั้นซึ่งพระองค์ทรงกำหนดให้เป็น 1 ยุคความจริงที่ท่านต้องรู้ก็คือภายในระยะเวลา 1 ยุค คือ 6 หมื่นปีนี้จิตวิญญาณผู้ขันอาสาพระองค์เข้ามาจุตินั้นมิได้เดินทางเข้ามาพร้อมกันทั้งหมดแต่ทะยอยกันเดินทางข้ามมิติเข้ามาไม่ต่างจากวันทำงานวันเดียวกันบางคนก็เริ่มทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าบางคนก็เข้างานในเวลาเที่ยงวันขณะที่อีกบางคนก็เข้างานในเวลาสี่โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาชั่วโมงเดียวก่อนเลิกงานเท่านั้นแต่ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ความจริงไว้ด้วยว่าไม่ว่าใครคนไหนจะเข้าทำงานเวลาใดก็ตามจะทำงานเต็มวันหรือแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงทุกคนก็จะได้รับค่าจ้างค่าแรงเท่ากันทั้งหมดจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายผู้ขันอาสาพระบิดาฯเข้ามาทำงานอยู่ในระบบโลกก็เช่นกันใครมาเกิดในภพชาติแรกก่อนหลังใครใครมีจำนวนภพชาติการเกิดมากน้อยกว่าใครพระองค์ก็จะทรงจ่ายค่าจ้างให้เท่ากันทั้งนั้นค่าจ้างในการมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6 ประการก็คือ "การหลุดพ้นกลับบ้าน" แดนจิตจักรวาลเพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯอย่างพร้อมหน้ากันในวันสิ้นยุคพลังงานเก่าแต่เรามีความจริงอีกอย่างหนึ่งที่จะขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่าจงดูเอาเถิด....จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านที่มาปลายยุคจะ "หลุดพ้น" ออกไปจากโลกและอนันตจักรวาลได้ก่อนรายที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดก่อนหรือเป็น "คนต้น"คนพวกนี้จะหลุดพ้นกลับออกไปได้ทีหลังเหตุผลก็คือ "คนต้น"ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านผู้มาใหม่คนพวกนี้จะมีจิตหยาบที่เปรียบได้ดั่งทุ่งนาที่เพิ่งหว่านเมล็ดข้าวสาลีไว้ใหม่ๆหมาดๆยังไม่มีศัตรูที่แอบเข้าไปหว่านข้าวละมานซึ่งเป็นวัชพืชของข้าวสาลีเลยอีกทั้งเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ใหม่ๆพวกเขาก็ยังจำหน้าที่ของตนได้อยู่พวกเขาจึงสามารถ "กลับบ้าน" ได้ก่อนส่วนพวกที่มาเกิดก่อนนานนับหมื่นปีซึ่งจะหลุดพ้นกลับบ้านได้ทีหลังก็เพราะว่าจิตใจพวกเขาอันหมายถึงทุ่งนาข้าวสาลีล้วนมีข้าวละมานหรือวัชพืชเติบโตอยู่ด้วยกันคนพวกนี้จึงต้องเสียเวลาเพื่อทำการ "ถอน" ข้าวละมานทีละต้นออกไปจากนาข้าวสาลีให้หมดก่อนจึงจะเก็บเกี่ยวข้าวสาลีที่เป็นขุมทรัพย์ในนาได้ข้าวละมานวัชพืชในนาข้าวสาลีที่ว่านี้ก็คือ #กิเลส #ตัณหา #อารมณ์ขยะรายวันส่วนข้าวสาลีก็คือ #ความรักเพื่อให้ นั่นเองเมื่อผู้มาก่อนต้องเสียเวลาไปกับการนี้แถมยังมีบางคนจำหน้าที่ของตนไม่ได้อีกพระบิดาฯจึงส่งเรากลับมาในปลายยุคนี้อีกครั้งเพื่อจะทำหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้แก่ท่านทั้งหลายให้สามารถกลับบ้านกันได้ครบทุกคนแม้ว่าผู้มาก่อนตั้งแต่ต้นยุคจะได้กลับทีหลังผู้ที่มาทีหลังจะได้กลับบ้านหรือนิพพานก่อนก็ยังดีกว่ามาก่อนแต่กลับบ้านไม่ได้เลยสักคนกราบพระบาทพระบิดาฯทรงเมตตาเอเมน สาธุป.วิสุทธิปัญญา25/11/2020
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ในเครื่องยนต์แห่งกรรม
หรือ "กายสังขาร" ของท่านทั้งหลายนั้น
ทรงประทับอยู่ในแผ่นดินสวรรค์
อันหมายถึงแดนสุญตาที่อยู่นอกเอกภพ
การที่พระองค์ส่ง #พระบุตรเอก
เดินทางเข้ามาจุติเป็นมนุษย์ในระบบโลก
ก็เพื่อทำหน้าที่กล่าวพระโอวาทต่อท่านทั้งหลาย
ในพระนามของพระองค์นั่นเอง
ที่ทรงกล่าวต่อมวลมนุษย์ผ่านพระบุตรเอก
มีทั้ง #อนุตรธรรม #โลกุตรธรรม และ #โลกิยธรรม
อันเป็นอาหารของจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ที่ทุกคนต้องรับประทานเพราะทานแล้ว
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านจะไม่ต้องตาย
จิตวิญญาณของท่านจะเป็นผู้มีชีวิตนิรันดร์
การมีชีวิตนิรันดร์หมายถึง
ท่านทั้งหลายจะมีอายุขัยยืนยาว
โดยฝ่ายเนื้อหนังจะไม่มีการเสื่อมสลาย
ท่านจะห่างไกลจากความเฒ่าชรา
พวกท่านจะไม่มีคำว่า #สังสารวัฏ
เมื่อครบ 6 หมื่นปีแล้ว
จิตวิญญาณของท่านก็จะทิ้งกายสังขาร
แล้วเดินทางกลับบ้านด้วยการหลุดพ้น
เพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯที่ทรงรออยู่
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
สัจธรรมจากพระโอวาท
ที่ทรงกล่าวผ่านพระบุตรเอกนั้น
เปรียบดั่งผลองุ่นอันหวานละมุนช่อใหญ่ๆ
จาก "เถาองุ่น" ก็คือ "พระบุตรเอก" นั่นเอง
แต่ที่ผ่านมานานนับพันปีจนบัดนี้
คนส่วนใหญ่มักปฏิเสธอาหารของพระองค์
ที่ทานแล้วจิตวิญญาณจะมีชีวิต
กลับเลือกทานแต่อาหารบำรุงเนื้อหนัง
ซึ่งผลบั้นปลายที่ได้รับคือความตาย
เมื่อตายแล้วก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ไปเรื่อยๆ
อาหารบำรุงเนื้อหนังที่เรากล่าวนี้ก็คือ
สิ่งอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของท่าน
ที่ได้จากการใช้กิเลสตัณหาของจิตหยาบ
แสวงหามันมานั่นแหละท่าน
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านอีกด้วยว่า
พระองค์ทรงมอบหมายให้
จิตวิญญาณแก่นแท้
ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
เข้ามาจุติในระบบโลกเสรีนี้
เพื่อปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6 ให้ลุล่วง
โดยทรงอนุญาตให้ท่านทั้งหลายมาทำหน้าที่
ภายในระยะเวลา 6 หมื่นปีโลกเท่านั้น
ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดให้เป็น 1 ยุค
ความจริงที่ท่านต้องรู้ก็คือ
ภายในระยะเวลา 1 ยุค คือ 6 หมื่นปีนี้
จิตวิญญาณผู้ขันอาสาพระองค์เข้ามาจุตินั้น
มิได้เดินทางเข้ามาพร้อมกันทั้งหมด
แต่ทะยอยกันเดินทางข้ามมิติเข้ามา
ไม่ต่างจากวันทำงานวันเดียวกัน
บางคนก็เริ่มทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า
บางคนก็เข้างานในเวลาเที่ยงวัน
ขณะที่อีกบางคนก็เข้างานในเวลาสี่โมงเย็น
ซึ่งเป็นเวลาชั่วโมงเดียวก่อนเลิกงานเท่านั้น
แต่ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ความจริงไว้ด้วยว่า
ไม่ว่าใครคนไหนจะเข้าทำงานเวลาใดก็ตาม
จะทำงานเต็มวันหรือแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมง
ทุกคนก็จะได้รับค่าจ้างค่าแรงเท่ากันทั้งหมด
จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ผู้ขันอาสาพระบิดาฯ
เข้ามาทำงานอยู่ในระบบโลกก็เช่นกัน
ใครมาเกิดในภพชาติแรกก่อนหลังใคร
ใครมีจำนวนภพชาติการเกิดมากน้อยกว่าใคร
พระองค์ก็จะทรงจ่ายค่าจ้างให้เท่ากันทั้งนั้น
ค่าจ้างในการมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6 ประการ
ก็คือ "การหลุดพ้นกลับบ้าน" แดนจิตจักรวาล
เพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯ
อย่างพร้อมหน้ากันในวันสิ้นยุคพลังงานเก่า
แต่เรามีความจริงอีกอย่างหนึ่ง
ที่จะขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
จงดูเอาเถิด....
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านที่มาปลายยุค
จะ "หลุดพ้น" ออกไป
จากโลกและอนันตจักรวาลได้ก่อน
รายที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดก่อนหรือเป็น "คนต้น"
คนพวกนี้จะหลุดพ้นกลับออกไปได้ทีหลัง
เหตุผลก็คือ "คนต้น"
ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านผู้มาใหม่
คนพวกนี้จะมีจิตหยาบที่เปรียบได้ดั่งทุ่งนา
ที่เพิ่งหว่านเมล็ดข้าวสาลีไว้ใหม่ๆหมาดๆ
ยังไม่มีศัตรูที่แอบเข้าไปหว่านข้าวละมาน
ซึ่งเป็นวัชพืชของข้าวสาลีเลย
อีกทั้งเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ใหม่ๆ
พวกเขาก็ยังจำหน้าที่ของตนได้อยู่
พวกเขาจึงสามารถ "กลับบ้าน" ได้ก่อน
ส่วนพวกที่มาเกิดก่อนนานนับหมื่นปี
ซึ่งจะหลุดพ้นกลับบ้านได้ทีหลังก็เพราะว่า
จิตใจพวกเขาอันหมายถึงทุ่งนาข้าวสาลี
ล้วนมีข้าวละมานหรือวัชพืชเติบโตอยู่ด้วยกัน
คนพวกนี้จึงต้องเสียเวลา
เพื่อทำการ "ถอน" ข้าวละมานทีละต้น
ออกไปจากนาข้าวสาลีให้หมดก่อน
จึงจะเก็บเกี่ยวข้าวสาลีที่เป็นขุมทรัพย์ในนาได้
ข้าวละมานวัชพืชในนาข้าวสาลีที่ว่านี้
ก็คือ #กิเลส #ตัณหา #อารมณ์ขยะรายวัน
ส่วนข้าวสาลีก็คือ #ความรักเพื่อให้ นั่นเอง
เมื่อผู้มาก่อนต้องเสียเวลาไปกับการนี้
แถมยังมีบางคนจำหน้าที่ของตนไม่ได้อีก
พระบิดาฯจึงส่งเรากลับมาในปลายยุคนี้อีกครั้ง
เพื่อจะทำหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้แก่ท่านทั้งหลาย
ให้สามารถกลับบ้านกันได้ครบทุกคน
แม้ว่าผู้มาก่อนตั้งแต่ต้นยุคจะได้กลับทีหลัง
ผู้ที่มาทีหลังจะได้กลับบ้านหรือนิพพานก่อน
ก็ยังดีกว่ามาก่อนแต่กลับบ้านไม่ได้เลยสักคน
กราบพระบาทพระบิดาฯทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25/11/2020