29 กันยายน 2560

สนทนาประสาจิตจักรวาล 6



#สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

การเป็นฆราวาสผู้ครองเรือน
ในบทบาทนักสู้เพื่อการรู้แจ้งนั้น
หน้าที่หลักๆที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน
#เพื่อการปฏิบัติบำเพ็ญธรรม
ให้เกิดความก้าวหน้าจนกว่าจะหลุดพ้นได้
มีคำแนะนำให้ท่านดังต่อไปนี้

1.ท่านต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับใครก็ได้
ไม่ว่าใครคนนั้นจะมีนิสัยใจคออย่างไร
ท่านจะชอบหรือไม่ชอบนิสัยของเขา
ท่านก็ต้องรักษาสัมพันธ์อันดีนั้นไว้เท่าชีวิต

จงอย่าตัดสัมพันธ์กันกับใครง่ายๆ
จงอย่าทำลายความสัมพันธ์อันดีกับใคร

หมายความว่า
ในการเป็นมนุษย์ของพวกท่านนั้น
ความสัมพันธ์อันดีต่อกันนั้นเป็นเรื่องใหญ่

จงอย่ายอมให้อารมณ์รู้สึกนึกคิดต้องการ
รวมทั้งอุปนิสัยใจคอที่ต่างกันของพวกท่าน
สบั้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

หากท่านทำสำเร็จ
ท่านจักได้ชื่อว่าเป็นผู้บรรลุธรรมข้อหนึ่ง
เพราะท่าน #หมุนธรรมจักร ได้แล้ว

2.ท่านต้องเลิกละการแสวงหาความสุข
อีกทั้งละเลิกการหนีทุกข์ทั้งปวงให้สิ้น

เพราะการมุ่งแสวงสุขและการหนีทุกข์นั้น
ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรท่านจะมิอาจพบ
นอกจากอยู่อย่างสงบโดยไม่หนีไม่หา
เพราะเหตุว่าทุกข์กับสุขมันอยู่ที่ใจท่าน
มันมิได้อยู่ที่คนอื่น สิ่งอื่น ที่อื่นไงล่ะ

#ท่านจะไม่สามารถบรรลุธรรมสูงสุดได้หรอก
#ถ้าท่านไม่เปล่งแสงธรรมออกมาจากข้างใน

พินิจดูดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์สิ
ความร้อน ความเย็น แสงสว่าง กับรังสี
ที่โดดเด่นเห็นสง่าก็เปล่งมาจากข้างใน

ดอกไม้น้อยใหญ่ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม
ล้วนต้องบานเบ่งเปล่งสีออกมาจากข้างใน

แล้วใยความสุขที่ในจิตใจท่าน
ยังต้องการ "นำเข้า" เอามาจากข้างนอก
ยังต้องให้สิ่งนอกคนนอกหยิบยื่นมาให้

รู้มั้ยว่า....มันอันตรายต่อจิตใจท่านมาก
เพราะสิ่งที่รับเข้าสู่ใจโดยมิได้คัดกรอง
ใช่ว่าจะถูกต้องตรงใจท่านไปเสียทั้งหมด

เขายื่นดีมาให้พอรับไว้ก็สุขใจโดยพลัน
เขายื่นร้ายมาให้พอรับไว้ก็ทุกข์ใจทันที
มันเหมือนตัวท่านไม่มีอำนาจในตนเองเลย

แล้วท่านจะเป็น #สรรพสิ่งหนึ่ง ในจักรวาล
ที่ต้องมีพลังอำนาจในตนเองได้อย่างไร
อีกทั้งท่านยังประพฤติผิดธรรมชาติอีกด้วย

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
เพียงแค่ท่านอยากจะมีความสุขก็ทุกข์แล้ว
เพียงแค่ท่านอยากจะหนีทุกข์ก็สิ้นสุขแล้ว

ทางเลือกของท่านมีทางเดียวเท่านั้น
คือต้องอยู่กับทุกข์และสุขนั้นให้ได้
โดยต้องไม่เกลียดกลัวความทุกข์
ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่กับความทุกข์
ไม่ละโมบมักมากในความสุข
ไม่ยินดียินร้ายในสุขและทุกข์

หากท่านทำสำเร็จ
ด้วยการไม่ติดสุขไม่ติดทุกข์
ไม่จำต้องดิ้นรนที่จะหาหนทางพ้นทุกข์
ท่านจักได้ชื่อว่าเป็นผู้บรรลุธรรมอีกข้อหนึ่ง
เพราะท่านเข้าถึง #การดับทุกข์ ได้แล้ว

3.ไม่ว่าชีวิตประจำวันของท่าน
เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งใดเรื่องใดก็ตาม
จงทำตนกลมกลืนไปกับมันให้ได้
โดยไม่ขัดข้อง ไม่ขัดขืน ไม่ขัดขวาง
โดยไม่ต่อสู้ ไม่ตอบโต้ ไม่ต่อต้าน

จงฉลาดใช้ปัญญาหาทางออกจากปัญหา
อย่างแยบยลและสง่างามเถิด

จงฉลาดใช้ความรักแทนการใช้อารมณ์ขยะ
เข้าจัดการกับคนที่ทำตนไม่น่ารักต่อท่าน
โดยไม่มีการยกเว้นแม้เพียงหนึ่งคน
โดยไม่ต้องสนใจในรายละเอียดว่าใครถูกผิด

เพราะเรื่องผิดถูกนั้นมันเป็นแค่สิ่งสมมติ
แต่เรื่องความสัมพันธ์ต่อกันนั้นเป็นเรื่องจริง
เพราะเหตุว่าทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
ต่างล้วนรัดรึงดึงดูดซึ่งกันและกันไว้
จึงอยู่ร่วมกันเป็นระบบเดียวกันได้
ที่ท่านทั้งหลายเรียกว่า #เอกภพ นั่นแหละ

ถ้าท่านทำสำเร็จ
ท่านจักได้ชื่อว่าบรรลุธรรมอีกข้อหนึ่ง
เพราะท่านเข้าถึง #อำนาจในตนเอง ได้แล้ว
นั่นคือ "ความรัก" กับ "ความเฉลียวฉลาด"
เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าท่านเป็นมนุษย์

4.ท่านจะต้องไม่ก้าวก่าย "หน้าที่" ของผู้อื่น
ท่านต้องไม่หยิบยื่นเงื่อนไขร้ายๆให้ใคร
ทั้งคำพูดจาและการแสดงออกทั้งหลาย
จักต้องสงบ สำรวม และมีมหาสติไว้ตลอด

จะได้ไม่ทำตนเป็นเงื่อนไขร้ายๆให้ใคร
ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ท่านจะได้ไม่ชักชวนใครให้ไปนรก
เพราะต้องอกตรมขมขื่นจากท่านเป็นเหตุ

ถ้าท่านทำสำเร็จ
ท่านจักได้ชื่อว่าบรรลุธรรมอีกข้อหนึ่ง
เพราะท่านเข้าถึง #สันติสุข ได้แล้ว

5.ท่านจักต้องเรียนรู้ให้ได้ว่า
จะหยิบปัญญามานิพพานบางสิ่ง
ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในจิตใจท่านได้อย่างไร
เป็นต้นว่า

1) ดับการเกิดดับของกิเลสตัณหา
2) ดับการเกิดดับของราคะจริต
3) ดับการเกิดดับของอารมณ์ขยะ
4) ดับการเกิดดับของทุกข์และสุข
5) ดับการเกิดดับของนิวรณ์

ท่านมีแนวคิดแนวทางดับอาการทั้ง 5 นี้
ที่มันคอยจะผุดโผล่ขึ้นมาในจิตใจท่าน
ในช่วงเวลาระหว่างวันได้อย่างไร
ที่มันจะค่อยๆเลือนลับดับหาย
โดยมันทั้งห้าไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลยชั่วชีวิต

ถ้าท่านทำสำเร็จ
ท่านจักได้ชื่อว่าบรรลุธรรมอีกข้อหนึ่ง
เมื่อท่านเข้าถึงซึ่ง #การพ้นทุกข์ ได้แล้ว

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เพียงท่านปฏิบัติบำเพ็ญทั้ง 5 ข้อใหญ่
ที่เราสาธยายไว้ตั้งแต่ต้นนี้
ให้เรียบร้อยสมบูรณ์พูนผลในระหว่างวัน

โดยไม่ต้องหนีทุกข์ไปเข้าป่า
โดยไม่ต้องหนีปัญหาไปเข้าดงพงไพร
โดยมิต้องนั่งหลับตาภาวนาใดๆ
คงใช้ชีวิตไปตามปกติอยู่กับคนรอบข้าง
แสงสว่างก็จะบังเกิดขึ้นในจิตตปัญญา
ท่านก็สะกดคำว่า #นิพพาน เป็นแล้วล่ะ

<3 <3 <3 <3 <3 <3
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-09-2017