20 กรกฎาคม 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 20/07/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ศัตรูของมนุษย์และโลกที่เราเรียกว่า #มอด นี้
พวกเขาพบว่าตนนั้นมีจิตวิญญาณที่สั่นสะเทือนอยู่
ในมิติที่ 5 ซึ่งเป็นมิติเหนือกว่าจิตหยาบของมนุษย์
ที่ปกติแล้วมนุษย์จะสั่นสะเทือนในมิติที่ 3-4 เท่านั้น
 
คำว่าสั่นสะเทือนอยู่ในมิติที่เท่าใดนั้น
สำหรับรูปธรรมสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ทรงสร้าง
พระบิดาทรงหมายความว่า
#จิตวิญญาณ ที่เป็นแก่นแท้ในรูปธรรมนั้น
มีอำนาจในการสั่นสะเทือนสูงสุดอยู่ในระดับใด
ถ้าจิตวิญญาณนั้นมีการสั่นสะเทือนสูงสุดด้านบวก
แล้วสามารถเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง
จนเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าที่อยู่ในทรงกลมเดียวกัน
ได้ทั้งหมดกี่เหลี่ยมมุมหรือเป็นจำนวนกี่รูปก็ตาม
รูปธรรมสิ่งมีชีวิตนั้นจะสั่นสะเทือนอยู่ในมิตินั้นเสมอ
 
ตัวอย่างเช่น
จิตวิญญาณของพวก “สัตว์ร้าย” บนดาวอื่นในเอกภพ
พระบิดา (God) ทรงใช้ให้พระจิตวิญญาณบริสุทธิ์
จากนอกเอกภพอันเป็นพระนิเวศน์ของพระองค์
ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับจิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกท่าน
เดินทางเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลกเสรีนี้
โดยพวกสัตว์ร้ายเหล่านั้นจิตวิญญาณจะอยู่ในมิติที่ 6
จึงมีคุณสมบัติด้านอภิญญาปาฏิหาริย์ติดตัวมาด้วย
ไม่ต่างจากวัตถุมงคลของมอดที่ถูกปลุกเสกให้มีพลัง
วัตถุชิ้นนั้นก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์สำแดงปาฏิหาริย์ต่างๆ
ไปตามพลังอำนาจพิเศษที่ถูก “ชาร์จ” ถูกกำหนดให้
 
ดังนั้น
วัตถุมงคลต่างๆที่ถูกปลุกถูกเสกด้วยวิชามอด
ไม่ว่าดินปั้น ปูนปั้น โลหะหล่อ ไม้แกะสลัก ผ้ายันต์
เพื่อสร้างเป็นรูปเคารพบูชาพาให้มนุษย์โลกงมงาย
ล้วนเป็นอวิชชาของมอดผู้มี #ฌานอภิญญา
เพราะมีจิตวิญญาณอยู่ในมิติที่ 6 แต่ลดลงมาสู่มิติที่ 5
เมื่อได้รับโอกาสให้มาเกิดอยู่บนดาวดวงนั้นๆตั้งแต่ต้น
การใช้พลังจิตปลุกเสกวัตถุมงคลคือการใช้อำนาจ
กำหนดสร้างสรรพสิ่งใดๆด้วยอำนาจภายในตนเอง
เพื่อให้สรรพสิ่งนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของตน
ซึ่งสัตว์ร้ายเหล่านี้สามารถจัดการได้อย่างพร่ำเพรื่อ
จนพากันหลงตัวเองว่าพวกเขาคือ #พระผู้สร้าง
ที่ใช้คำสากลของโลกว่า The Creators นั่นเอง
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
สิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์ร้ายจากต่างดาวเหล่านี้
ยิ่งค้นพบพลังอำนาจทางจิตวิญญาณในตนเอง
ก็ยิ่งสนุกสนานกับการใช้ “อำนาจเหนือ” นำทุกสิ่ง
ที่พวกตนพบพานผ่านเผชิญในจักรวาลอันไพศาลนี้
ด้วยพลังอำนาจแต่เดิมที่พระบิดาประทานมาให้
บวกกับความกล้าหาญที่ขับดันด้วย #กิเลสตัณหา
จึงยังผลให้หลายหมื่นปีที่ผ่านมาพวกเขาต้องตกชั้น
จิตวิญญาณต้องเสื่อมอำนาจลงสู่มิติที่ 5 จนทุกวันนี้
 
ลัทธิอุตริอวิชชาทำนองนี้
เป็นที่มาของความเสื่อมอำนาจทางจิตวิญญาณ
ที่มอดมารทั้งหลายถ่ายทอดให้กับมนุษย์โลก
หลงก้าวตามมอดเพราะกระหายกิเลสชอบอวดอุตริ
การสร้างวัตถุสร้างรูปเคารพบูชาสร้างอนุสาวรีย์
การปลุกเสกเลขยันต์การเล่นแร่แปรธาตุ ฯลฯ
จึงล้วนเป็นการทำให้จิตวิญญาณของตนเสื่อมอำนาจ
ซึ่งมันจะยังผลให้พวกท่านล้มเหลวทางจิตวิญญาณ
จนไม่อาจปฏิบัติตามแผนการที่ทรงออกแบบเอาไว้ได้
 
เพราะพระบิดาทรงมอบทั้งอำนาจหน้าที่ให้สัตว์ร้าย
แต่เมื่อพวกเขามีอำนาจกลับใช้อำนาจที่ตนมีไม่เป็น
จึงทำตนเป็นคนพาลเกเรจนจักรวาลวุ่นวายไปทั้งหมด
เพราะบุตรที่เหลวไหลไม่เอาถ่านไม่เอาไหนไร้เมตตา
สงครามจักรวาลความขัดแย้งข้ามดาวการแตกดับ
การเสียสมดุลของเอกภพมีเหตุที่มายิ่งกว่าในภาพยนตร์
ซึ่งพวกเขาทำการสร้างกันขึ้นมาจากเรื่องจริง
เพื่อเยาะเย้ยถากถางและประกาศศักดาต่อฝ่ายผู้แพ้ว่า
พวกข้าแน่กว่าพวกเอ็งอย่าได้แหยม....นะเว้ยเฮ้ย!
 
ที่เราเปิดเผยมาข้างต้นนั้นเป็นความจริงที่เคยเกิดขึ้น
ซึ่งถูกมิติแห่งกาลเวลาทางกายภาพโลกบดบังไว้
ทำให้ท่านทั้งหลายผู้ที่เข้าถึงเวลาของจักรวาลมิได้
ยังเป็นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาลไม่ได้จึงเป็นความลับ
ที่ยังผลให้พวกท่าน “รู้น้อย” เมื่อรู้น้อยกว่าจึง “โง่ง่าย”
 
เพราะพวกเขาเป็น #รูปธรรมต้นแบบ ของพระเจ้า
สิ่งใดที่นำมาซึ่งความล้มเหลวในแผนการทดลอง
สิ่งนั้นจะถูกยกเลิกสิ่งนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข
เพื่อพัฒนามันให้ถูกต้องเหมาะสมดีงามยิ่งกว่าเดิม
พระบิดาหรือพระเจ้าซึ่งเป็นพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
จึงมิทรงต้องการให้ลูกแกะรุ่นสุดท้ายของพระองค์
ล้มเหลวในการอาสาเข้ามาทำหน้าที่แทนพระองค์
ในห้องทดลองใหญ่คือ #อนันตจักรวาล หรือเอกภพ
 
1.ใช้อำนาจระดับ 6 ของพระองค์พร่ำเพรื่อ
โดยเข้าแทรกแซงกระบวนการต่างๆในห้องทดลอง
ทำให้แบบแผนที่พระบิดาทรงออกแบบไว้บิดเบี้ยว
จนหลงตนเองเพราะถูกกิเลสครอบงำพาให้หลงมิติ
แล้วยกตนเองเป็น #พระผู้สร้าง ตีเสมอพระเจ้า
 
เพราะพบว่าอำนาจในตนเองที่มีอยู่นับแต่เกิดมานั้น
ตนสามารถใช้สร้างก็ได้ทำร้ายทำลายทิ้งเสียก็ได้
แม้แต่ดวงดาวถิ่นกำเนิดตนเองก็เคยระเบิดทิ้งมาแล้ว
เผ่าพันธุ์ที่มีชีวิตบนดาวอื่นพวกตนก็เคยทำมาแล้ว
ความหลงตัวเองว่าฉลาดกว่ามีอำนาจกิเลสเหนือกว่า
จึงเป็นที่มาของความเหิมเกริมที่จะเป็น “ผู้สร้าง”
ซึ่งมีเงาของ “ผู้ทำลาย” เป็นสิ่งชั่วที่ติดตามตัวอยู่
 
2.พวกเขามีความสนุกสนานเพลิดเพลิน
กับการเป็นสิ่งมีชีวิตที่เที่ยวท่องไปในจักรวาลได้
ทั้งด้วยพลังฌานอภิญญาอันเกิดแต่จิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นพลังอำนาจระดับ 6 ที่ตกต่ำลงมาสู่ระดับ 5
กับพลังสติปัญญาของสมองก้อนเดียว
ที่พระบิดาทรงติดตั้งเอาไว้ให้ใช้
เมื่อได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นคนสองมิติดั่งมนุษย์
โดยให้จิตวิญญาณแก่นแท้สั่นสะเทือนขันธ์ทั้ง 4
เป็นการสั่นสะเทือนในสองมิติทางด้านบวกให้ได้
แต่พวกเขาตกเป็นทาสของ “มายา” ของพระบิดา
จึงยังผลให้ขันธ์ทั้งสี่กลายเป็น #ขันธ์ห้า มาจนบัดนี้
เพราะจิตวิญญาณตกต่ำสร้าง #เวทนาขันธ์ ขึ้นมาเอง
ด้วยพลังอำนาจด้านลบของ “กิเลส” โดยแท้
 
มนุษย์ที่ถูกมอดครอบงำด้วยจิตที่ติดกิเลส
จึงหมุนธรรมจักรด้วยความรักจากการใช้ขันธ์ห้ามิได้
เพราะจิตคอยจะสั่นสะเทือนเป็นกิเลสตลอดเวลา
เนื่องจากกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะทั้งหลายนั้น
มันเป็นการสั่นสะเทือนในย่านความถี่ต่ำจึงสั่นง่ายกว่า
 
พวกท่านที่เป็นมนุษย์จึงบวชนานแล้วนิพพานไม่ได้
เมื่อนิพพานเจ้ากิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะไม่ได้
จิตวิญญาณก็สอบตกบททดสอบจนทำหน้าที่ช่วยโลก
เพื่อให้ความรักความเมตตาสร้างพลังงานค้ำจุนโลก
ด้วยการช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตนเองให้สมดุล
ตามที่ขันอาสาพระบิดาเข้ามาเกิดจึงทำไม่สำเร็จ
นี่ก็สิ้นยุคพลังงานเก่าแล้วจิตวิญญาณยังต้องกลับบ้าน
โดยดีดตนเองออกจากห้องทดลองขนาดใหญ่นี้ให้ได้
เพื่อกลับไปกราบพระบิดาในสภาวะ #หลุดพ้น
อันเป็นภารกิจสุดท้ายหรือมรรคผลที่ทุกคนต้องทำ
 
3.ประดาพวกสิ่งมีชีวิตที่หลงมิติเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นเทพบุตรเทพธิดาเป็นนางฟ้าหรือสัตว์ร้าย
ล้วนเป็นพวกที่มีความคิดไม่ต่างจากมนุษย์โลก
นั่นคือไม่รู้ #อนุตรธรรม ความจริงของตนก่อนมาเกิด
เช่น ไม่รู้ว่าพวกตนเป็นใคร มาจากไหน
ใครให้มาเกิด มาเกิดบนดวงดาวของตนกันทำไม
มาเกิดแล้วพวกตนต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง เป็นต้น
 
เพราะความไม่รู้จึงประพฤติตนไม่ถูกต้อง
ตามแบบแผนที่พระผู้สร้างทรงกำหนดไว้ให้ทำ
เพราะมีแต่ดวงจิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยฤทธิอำนาจ
โดยไม่มีจิตหยาบเป็นเครื่องมือในการทำหน้าที่แทน
การขาดสติทางวิญญาณจนนำมาซึ่งความเสื่อม
ทั้งของตนเองและจักรวาลทั้งระบบใหญ่จึงบังเกิด
 
นี่จึงเป็นที่มาของการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
สำหรับภารกิจจิตวิญญาณที่มาเกิดเป็นมนุษย์โลก
โดยพระบิดาหรือพระผู้เป็นเจ้าพระองค์จริง
ทรงกำหนดให้มีการเติมเต็มดังต่อไปนี้
 
1.ให้จิตวิญญาณแบ่งภาคตนเองออกมา
เพื่อให้เป็นจิตหยาบในการทำหน้าที่แทนเมื่อมาเกิด
เพราะไม่ต้องการให้จิตวิญญาณผู้มีอำนาจระดับ 6
เกิดการหลงตัวเองหลงคิดว่าตนเองเป็นพระผู้สร้าง
ด้วยการใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำลายแบบแผนต่างๆ
ตามที่พระองค์ทรงออกแบบและสร้างไว้ดีแล้ว
 
ซึ่งความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้น
จนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขดังว่านี้
เพราะพวกสัตว์ทดลองรุ่นแรกทำตนเหลวไหล
จึงเป็นประสบการณ์ด้านลบที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ที่จะทรงยอมให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีกมิได้
 
2.ให้มีพระศาสดาจากโลกเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
ช่วยแก้ไขชำระจิตหยาบมนุษย์ผู้หลงผิดตามมอด
จนงมงายลุ่มหลงอยู่กับกิเลสตัณหาบ้าอำนาจ
จนขาดความสามารถในการใช้ความรักและปัญญา
ให้กลับมาเป็นผู้ที่มีจิตใสใจสวยดังเดิมให้จงได้
นั่นคือฉุดช่วยให้ “จิตหยาบ” นิพพานกิเลสนั่นเอง
พระศาสดาที่เกิดจากโลกจึงสอนให้มนุษย์โลก
มีมรรคผลสูงสุดคือการนิพพานกิเลสของจิตหยาบ
ให้พร้อมต่อการทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณต่อไป
 
3.ให้มีพระศาสดาผู้มาจากพระเจ้าพระองค์จริง
มิใช่พระศาสดาผู้มาจากต่างดาวคือ Creators
หรือ ที่เรียกตนเองว่าเป็น #พระผู้สร้าง มนุษย์โลก
พระศาสดาที่มาจากพระเจ้าก็คือ พระบุตรเอก
ผู้สละตนเองอาสาพระบิดาเข้ามาฉุดช่วยมนุษย์
ทุกชาติทุกศาสนาให้จำพระบิดาให้จงได้
ให้ทำหน้าที่ของจิตวิญญาณที่ขันอาสาพระบิดามา
ให้รู้ว่าตนเองคือจิตหยาบที่ยังมีตนเองอีกภาคหนึ่ง
ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแก่นแท้ผู้เข้ามาเกิดตัวจริง
เป็นผู้เร้นตนเองหรือถูกกักขังอยู่ข้างใน
เพื่อมิให้ออกมาสำแดงอภิญญาอภินิหารที่จับต้องได้
ดั่งเช่นจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตรุ่นแรกที่ทรงสร้าง
จนเกิดความวุ่นวายทั้งจักรวาลและเสียหายถึงบัดนี้
 
เพื่อให้มนุษย์ผู้มีปัญญาจากสมองทั้งสองซีกรู้ว่า
เหนือฟ้าของสมองซีกซ้ายก็คือ #สติปัญญา
ยังมีฟ้าคือ #ปัญญาญาณ ของสมองซีกขวาอยู่อีก
 
แปลความว่าจงอย่าหลงตนเป็น #กบในกะลาครอบ
อย่าหลงว่าตนเป็นพระผู้สร้างในบทบาทผู้ทำลาย
นอกโลกยังมีจักรวาลนอกจักรวาลยังมี #จิตจักรวาล
จิตจักรวาลก็คือพระผู้เป็นใหญ่เหนือจักรวาลโดยแท้
นักทำลายผู้หลงผิดคิดว่าตนคือพระผู้สร้าง
มิต่างจากผู้ที่หลงเงาของตนเองเท่านั้น
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
20/07/2022