11 กรกฎาคม 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 11/07/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ศัตรูของโลกและมนุษย์ที่ขุดรูอยู่ใต้แผ่นดิน
ผู้ปรารถนาจะยึดครองโลกอันอุดมสมบูรณ์และงดงามนี้
ให้เป็นบ้านหลังใหม่ของตนเองแทนการเป็นผู้พเนจร
เพราะโลกเป็นดวงดาวที่เหมาะสมที่สุดในการอยู่รอด
แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหาสำคัญอยู่บางประการเหมือนกัน
ที่จักต้องป้องกันตนเองและต้องแก้ไขให้ลุล่วงเสียก่อน
ปัญหาสำคัญที่ว่านั้นก็คือ
 
1.สนามแม่เหล็กโลกทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ
ภายในโครงสร้างทางกายภาพของพวกตนมากเกินไป
ถ้าใช้ชีวิตอยู่ในระบบโลกเป็นเวลานานเกิน 30 วันขึ้นไป
อวัยวะภายในทั้งหมดและเซลล์ร่างกายทั้งระบบ
จะเกิดความล้มเหลวจนทำให้พวกตนเสียชีวิตได้ในที่สุด
เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าในร่างกายจะสูงเกินต้านทาน
 
พวกศัตรูเหล่านี้จึงมีปัญหาที่จะต้องจัดการให้ลุล่วงก็คือ
จะต้องทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนแปลงกลไกทางไฟฟ้า
ให้เหมาะสมกับการ #อยู่รอดปลอดภัย ในระบบโลกได้
โดยไม่ต้องเดินทางออกไปจากระบบโลกเพื่อตั้งหลักใหม่
จึงค่อยเดินทางกลับสู่ระบบโลกอีกจนครบ 30 วันแล้ว
ค่อยเดินทางกลับออกไปตั้งหลักกันอีกครั้งวนๆกันไป
 
ไม่ต่างจากคนดำน้ำที่ต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ก่อน
เมื่อกลั้นหายใจเอาไว้จนสุดกลั้นก็จะลอยตัวขึ้นเหนือน้ำ
เพื่อสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะดำน้ำลงไปใหม่
เพราะคนเป็นสัตว์บกพระบิดาออกแบบให้หายใจด้วยปอด
จะไปแย่งถิ่นอาศัยของสัตว์น้ำที่หายใจด้วยเหงือกไม่ได้
ถ้าไม่เปลี่ยนปอดของตนให้กลายเป็นเหงือกกันเสียก่อน
หรือทำให้น้ำแห้งหายไปเสียก่อนแล้วพวกตนค่อยลงไป
 
พวกศัตรูจากต่างดาวนี่ก็เช่นกัน
ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกที่เข้มข้นกว่าบนดาวของตน
จึงไม่เหมาะสมสำหรับพวกเขาที่จะอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนได้
โดยจะดำรงชีวิตอยู่ได้จริงก็เพียงแค่ชั่วคราวชั่วครู่เท่านั้น
ซึ่งปัญหานี้ในยุคแรกที่ต้องขุดรูอยู่เพื่อหนีพิษภัยนิวเคลียร์
สนามแม่เหล็กโลกยังไม่เข้มข้นจนเป็นภัยต่อชีวิตมาก่อน
 
2.จากการศึกษาเรียนรู้พวกเขาได้พบความจริงว่า
เหตุที่ทำให้ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเพิ่มขึ้นกะทันหัน
เพราะประชากรมนุษย์เมล็ดพันธุ์ของพลียะเดี้ยนส์นี่เอง
เมื่อถูกนำส่งมายังระบบโลกขณะพวกเขาซ่อนตัวในรูดินนั้น
เป็นเครื่องยนต์กลไกในการผลิตพลังอำนาจแม่เหล็กโลก
ให้มีความเข้มข้นทางด้านบวกสูงค่ามากกว่าเดิม
 
อนิจจาศัตรูของมนุษย์ยังรู้ขีดความสามารถของมนุษย์
แต่มนุษย์เองกลับไม่รู้ขีดความสามารถตนเองที่เหนือล้ำ
มนุษย์จึงนำมันมาใช้ประโยชน์ไม่เป็นเพราะไม่ฉลาด
จึงไม่เรียนรู้ที่จะคิดค้นหาความรู้เองให้มากกว่าถาม
จึงไม่เรียนรู้ที่จะลงมือทำให้มากกว่าลอกเลียนแบบผู้อื่น
จึงไม่เรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำให้มากกว่าคอยวัดรอยเท้าผู้อื่น
 
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
ถ้าหากพวกเขาต้องการจะยึดครองโลกนี้ได้จริง
โดยยึดครองแล้วสามารถอยู่ในระบบโลกได้ตลอดกาล
พวกเขาก็จะมีทางให้เลือกอยู่ 3 วิธีดังต่อไปนี้
ที่จักต้องเร่งทำกันด่วนมากเลยทีเดียวนั่นคือ
 
#วิธีที่หนึ่ง
พวกตนจักต้อง “ควบคุม” ประชากรมนุษย์
#ให้ผลิต พลังอำนาจแม่เหล็กโลกออกมา
ในระดับที่ทำร้ายพวกตนไม่ได้
ซึ่งหมายถึงการ #ควบคุมปริมาณการผลิต นั่นเอง
 
#วิธีที่สอง
พวกตนจักต้อง “จัดการ” ประชากรมนุษย์
#ให้หยุดผลิต พลังอำนาจแม่เหล็กโลกอย่างสิ้นเชิง
โดยมีอยู่สองวิธี คือ หนึ่ง ฆ่ามนุษย์ตายให้หมดทั้งโลก
สอง คือ ทำให้มนุษย์โลกเป็นดั่งเครื่องจักรกลที่ผุพัง
 
3.วิธีการขั้นสุดท้ายเป็นการ #คิดใหญ่ทำใหญ่
จากสติปัญญาของสมองที่ถูกบงการด้วย #กิเลส
อันเป็นพลังขับเคลื่อนพฤติกรรมของพวก #สัตว์ร้าย
นั่นคือการออกแบบให้มนุษย์โลกทุกคนทุกชนชาติ
เป็นเครื่องจักรกลที่ผลิตพลังงานแม่เหล็กโลก
ชนิดที่พวกตนต้องการแทนเสียเลยให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
การที่ศัตรูของมนุษย์และโลกจากต่างเผ่าดาว
ซึ่งมีความสามารถทางจิตและความฉลาดทางปัญญา
สูงส่งกว่ามนุษย์ล้ำหน้าไปไกลกว่ามนุษย์หลายเท่า
แผนการคิดจึงแยบยลยิ่งดังที่เราเล่ามาตั้งแต่ต้น
จนเหนือกว่าการคาดคิดแบบจิตมนุษย์ที่หลงตัวเอง
ที่โง่ง่ายทั้งๆที่มีสมองสองซีกที่พระบิดาติดตั้งไว้ให้ใช้
ทั้งๆที่มนุษย์มีสมองที่ฉลาดที่สุดในจักรวาลเหนือใคร
แต่ใช้งานไม่เป็นหรือ #มีแต่ตะเกียงที่ไร้น้ำมัน เท่านั้น
 
เราจึงผิดหวังผู้เป็นดั่ง “เจ้าสาว” ของเรา
ผู้รอคอยการกลับมาของเราตามสัญญาเป็นอย่างมาก
เราจึงกลับมาเงียบๆด้วยการส่งรหัสสัญญาณฟ้าแลบ
จากฟากฟ้าทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก
โดยใช้พลังงานแสงนำหน้าพลังงานเสียงค่อยๆตามมา
ทั้งนี้เพื่อจะทดสอบทีเผลอให้รู้ว่า
 
เจ้าสาวของเราคนไหนยังหลับไหลกันอยู่
ใครเอาตะเกียงไปซุกเก็บไว้ใต้เตียงนอนของตนอยู่
ใครเอาตะเกียงที่จุดไว้แล้วไปแอบซ่อนอยู่ใต้เตียง
ใครคนไหนบ้างที่แม้จะยืนถือตะเกียงรอคอยเราอยู่
แต่ในตะเกียงที่ถือนั้นไม่มีน้ำมันสักหยดเพราะลืมเติม
 
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11/07/2022