23 ธันวาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 23/12/2021

 สนทนาประสาจิตจักรวาล

23/12/2021





สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
หน้าที่ของท่านทั้งหลายไม่ว่าชาติใดศาสนาใด
มันรวมอยู่ในคำว่า การปฏิบัติธรรม นั่นเอง

โดยท่านทั้งหลายจักต้องเรียนรู้ให้ได้ว่า
พวกท่านจะปฏิบัติธรรมกันทำไม
พวกท่านจะปฏิบัติธรรมกันเพื่ออะไร
พวกท่านจะปฏิบัติธรรมกันอย่างไร
เป้าหมายของท่านในการบรรลุธรรมคืออะไร

หากท่านทั้งหลาย
ไม่สามารถตอบคำถามทั้ง 4 ประเด็นเหล่านี้ได้
การปฏิบัติธรรมก็จะสะเปะสะปะไม่ชัดเจน
ซึ่งอาจมีทั้งหลงทาง ออกนอกทางและเดินผิดทาง
เหมือนพวกท่านกำลังเดินอยู่ในความมืดนั่นแหละ

ความรู้จากคำตอบทั้งสี่ประเด็นข้างต้นนั้น
จึงเปรียบได้ดั่ง "แสงสว่าง" อันเจิดจ้า
ที่จะช่วยทำลายความมืดหรือความไม่รู้ให้ท่านได้
การมาเกิดเป็นมนุษย์ของจิตวิญญาณของท่าน
จึงจะบรรลุพันธะหน้าที่ในสองมิติได้
โดยไม่เสียชาติเกิดเหมือนภพชาติที่ผ่านมาอีก

ภพชาตินี้เป็นภพชาติสุดท้ายของพวกท่าน
เพราะโลกถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
จิตหยาบจักต้องส่งจิตวิญญาณให้หลุดพ้นกลับบ้าน
ก่อนพระบิดาจะทรงเปลี่ยนโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
ด้วยมหันตภัยพิบัติที่รุนแรงระดับแผ่นดินหาย
และจะมีผู้คนบนโลกนี้ต้องตายกันเป็นจำนวนมาก
เพราะเป็นปลาซึ่งยังหายใจด้วยปอดที่ถูกคัดทิ้ง

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

ความหมายของการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งก็คือ
การดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามวิถีแห่งธรรมชาติ
ซึ่งพวกท่านสามารถเรียนรู้ดูแบบเอาได้เอง
จากสรรพสิ่งต่างๆในธรรมชาติเป็นสำคัญ
โดยใช้อายตนะภายนอกทั้งห้ากับจิตตปัญญาที่มีอยู่
วิเคราะห์ให้เห็นสัจธรรมในธรรมชาติของพระบิดา
แล้วนำมาสังเคราะห์ด้วยปัญญาของสมองซีกขวา
เพื่อนำมาใช้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต

ความจริงที่วิเคราะห์ได้จากธรรมชาติแวดล้อม
ที่นำมาสังเคราะห์ต่อเพื่อใช้ปฏิบัติจริงในชีวิต
คือ "การปฏิบัติธรรม" ในความหมายของพระบิดา

แต่ถ้าท่านไม่สามารถเข้าถึงการใช้จิตตปัญญาได้
ท่านคงต้องอาศัยคนอื่นเป็นครูช่วยสอนให้รู้แทน
เช่น พระศาสดา และ คนนำทางในทุกศาสนา
ซึ่งเสี่ยงต่อการหลงผิดเข้าใจผิดเชื่อผิดสอนผิดได้
เพราะคนนำทางส่วนมากมัก "ตาบอด" มาทุกยุคสมัย

เหตุเพราะเชื่อคนนำทางตาบอดต่อๆกันมานี่แหละ
จึงมีผู้ปฏิบัติธรรมด้วยวิธีผิดธรรมชาติอย่างสุดโต่ง
เพราะพวกคนนำทางแปลความหมายในคำสอน
ที่พระศาสดาของตนตรัสสอนไว้ไม่ถูกต้องถ่องแท้
แล้วก็ถ่ายทอดความเชื่อผิดๆนั้นสืบทอดกันมานาน
ยังผลให้หลงทางนิพพานเข้าใจนิพพานไม่ถูกต้อง
จนแม้จะบวชมาหลายภพชาติก็หลุดพ้นนิพพานมิได้

ตัวอย่างการปฏิบัติธรรมที่ไม่ถูกต้อง

1.การปลีกวิเวกเพื่อปฏิบัติธรรมคนเดียว
ทั้งๆที่เกิดมามีหน้าที่เป็นสัตว์สังคม

2.การปฏิบัติธรรมด้วยวิธี "ปิด" อายตนะภายนอก
คงเหลือไว้แต่จิตซึ่งเป็นอายตนะภายในเท่านั้น
ทำให้การสั่นสะเทือนจิตหยาบด้วยขันธ์ 5
เป็นไปตามที่พระบิดาทรงออกแบบไว้ไม่ได้

3.การมุ่งที่จะดับทุกข์ด้วยการดับอัตตา
โดยไม่เห็นประโยชน์ของขันธ์ 5
เพื่อหวังว่าจะ "นิพพาน" ด้วยการดับสูญ
ทั้งๆที่ความหมายของนิพพานที่แท้จริงนั้น
หมายถึง "การดับสิ้นของกิเลสตัณหา"
เพื่อปลดปล่อยจิตวิญญาณให้เป็นอิสระ
จากการข้องเกี่ยวเหนี่ยวรั้งกับทุกสรรพสิ่ง
ภายในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
เพื่อ การหลุดพ้น กลับบ้านแดนสุญตา
ซึ่งอยู่ภายนอกเอกภพหรืออนันตจักรวาลได้

นอกจากนั้น
ความผิดบาปยังอยู่ที่การพยายามดับขันธ์ 5
ซึ่งทั้งสัตว์และมนุษย์ต้องมีต้องใช้
เพื่อสั่นสะเทือนจิตตนเอง
ในบทบาทของคนสองมิติและสัตว์สองมิติ
ตามที่พระบิดาทรงออกแบบไว้อีกเช่นกัน

4.การพยายามปฏิเสธการมาเกิดเป็นมนุษย์
โดยไม่เคยใส่ใจว่าจิตวิญญาณของตนเป็นใคร
มาจากไหน มาเกิดเป็นมนุษย์ทำไม
ตนมีหน้าที่ต้องทำสิ่งใดกันบ้าง

มองเห็นแต่ความทุกข์ เห็นแต่กองทุกข์
ก็เลยจับเอาทุกข์เป็นตัวประกัน
แล้วพยายามที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์
ซึ่งเน้นทำเพื่อตนเองทั้งทางโลกและจิตวิญญาณ
เพราะแปลความหมายประโยคคำสอนของศาสดา
เรื่องเมตตาธรรมค้ำจุนโลก เราคือโลก โลกคือเรา
ผิดเพี้ยนไปจากความหมายของพระศาสดา
อีกทั้งไม่รู้ว่าพระศาสดาทรงตรัสรู้อะไรกันแน่

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

หากคนนำทางตาบอดยังหลงทางหลงธรรมอยู่
รวมทั้งศาสนิกชนคนส่วนใหญ่บนโลกเสรีนี้
ยังคงยอมหลับตาก้าวตามคนนำทางตาบอดกันต่อไป
ผู้ที่จะบรรลุธรรมเพราะสามารถเข้าถึงเป้าหมายสูงสุด
ซึ่งเป็นภารกิจทางจิตวิญญาณของตนได้ก็จะไม่มี

แน่นอนว่าการหลุดพ้นกลับบ้านของจิตวิญญาณ
โดยออกไปจากห้องทดลองของพระบิดานี้ได้ก็ไม่มี
ถ้าไม่มีใครสักคนรับฟังพระโอวาทที่ทรงสื่อผ่านเรามา
วันแล้ววันเล่าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างไม่ว่างเว้น
เพราะหลงยึดติดของเก่าโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
23/12/2021