06 ธันวาคม 2564

 สนทนาประสาจิตจักรวาล

06/12/2021



สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า นินทา กับ คำว่า ปรึกษา สองคำนี้
นัยความหมายเชิงพฤติกรรมไม่เหมือนกัน

คำว่า "นินทา" หมายถึง
การนำเอาเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผยของบุคคลที่สอง
ไปบอกเล่าต่อบุคคลที่สามไม่ว่าจะตั้งใจไม่ตั้งใจ
โดยบุคคลที่สองนั้นมิได้อนุญาตให้นำไปเปิดเผย
เพราะมันเป็น เรื่องส่วนตัว ของเขานั่นเอง

ทั้งนี้บุคคลที่สองที่เป็นผู้ถูกท่านนินทานั้น
อาจเป็นลูกผัวตัวเมียวงศาคณาญาติ
อาจเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงของท่าน
อาจเป็นแค่คนรู้จักกัน
หรืออาจจะมิได้เกี่ยวข้องอะไรกันกับท่านเลย
เขาเป็นแค่ดาราที่มีเรื่องคาวๆคนหนึ่ง
ซึ่งกำลังโด่งดังอยู่ในโลกโซเชี่ยลก็ตาม
ที่สำคัญก็คือไม่ว่าเรื่องที่ท่านเอาไปกล่าวถึง
หรือนำไปกล่าวพาดพิงนั้นจะจริงหรือเท็จก็ตาม
ก็ล้วนอยู่ในหมวดของ "นินทา" ว่าร้ายผู้อื่นทั้งสิ้น

ดังนั้น
การนินทาว่าร้ายโดยกล่าวถึงผู้อื่นในด้านไม่ดี
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จหรือใส่ร้าย
ล้วนเป็นการล่วงละเมิดอำนาจของผู้อื่นทั้งสิ้น
ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขให้ผู้อื่นเสียสมดุลทางจิตใจ
จนสั่นสะเทือน "ขันธ์ 5" เป็น กรรมจักร ขึ้นมาได้

ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
ผู้ที่เป็นตัวการทำลายความสมดุลทางจิตใจผู้อื่น
จะผิดบาปจะต้องรับโทษตาม กฎแห่งกรรม เสมอ

ถ้าท่านนินทาว่าร้ายใครเพราะ "คันปาก"
แสดงว่าท่านทำร้ายผู้อื่นแบบคนปากพล่อย
แสดงว่าท่านทำบาปนั้นเพราะการขาดสติ
หากท่านทำตนขาดสติแบบนี้อยู่เนืองนิจ
ชาตินี้เมื่อตายไปแล้วบาปกรรมนี้ของท่าน
จิตวิญญาณก็จะถือติดตัวมาเกิดใหม่ในชาติหน้า
ก็ฟันธงได้เลยว่าชาติหน้าจะต้องเป็นคนเสียสติ
ชนิดที่ไม่สามารถจะควบคุมพฤติกรรมตนเองได้
หนักสุดก็คือเป็นคน "บ้า" ประเภทหนึ่งนั่นแหละ

คำว่า "ปรึกษา" หมายถึง
การนำเอาเรื่องราวที่ไม่ดีของบุคคลที่สอง
ไปกล่าวความจริงนั้นต่อบุคคลที่สาม
โดยบุคคลที่สามเป็นคนที่ท่านศรัทธาเชื่อถือ
เพื่อขอคำแนะนำขอคำปรึกษาหรือขอหารือ
ด้วยเจตนาที่จะหาข้อมูลหาแนวทางหาวิธี
เพื่อนำไปช่วยเหลือบุคคลที่สองที่ตนกล่าวถึง
ด้วยความรักและปรารถนาดีอย่างมี "มหาสติ"

อันเป็นการนำเรื่องไม่ดีของคนหนึ่ง
ไปกล่าวพาดพิงถึงด้วยเจตนาที่เป็นบวก
โดยนำไปกล่าวถึงกับบุคคลที่ตนตั้งใจปรึกษา
เพราะเห็นว่าจะได้รับความเมตตาชี้แนะได้

ตัวอย่างเช่นการปรึกษาปัญหาใดๆ
ที่เกี่ยวกับลูกผัวตัวเมียของท่านกับผู้อื่น
จึงเป็นการชักชวนผู้อื่นให้หมุน "ธรรมจักร" ด้วย
โดยใช้ปัญหาของลูกเป็นเงื่อนไขให้เขาเมตตา

เมื่อเขาใช้ขันธ์ 5 สั่นสะเทือนเป็นความเมตตา
ท่านก็จะได้รับคำตอบคำชี้แนะที่ดีๆจากผู้รู้นั้น
พร้อมๆกับการที่เขาหมุนธรรมจักรร่วมกันกับท่าน
เพื่อจะผลิตพลังงานความรักช่วยให้โลกหมุนด้วย

ส่วนการนินทาเรื่องของลูกกับบุคคลทั่วไป
มันจะเป็นการหมุน "กรรมจักร" อย่างชัดเจน
เพราะว่า "ไม่ใช่การเรียนรู้" แต่เป้าหมายคือ
ต้องการระบายปัญหาในครอบครัวของตัวเอง
ที่เกี่ยวกับ "ลูก" หรือคนใดคนหนึ่งในครอบครัว
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีโดยนำไปพ่นทนา (โพนทนา)
ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยที่เป็นคนนอกฟัง
โดยตอบไม่ได้ว่าเอาไปเล่าให้เขาฟังทำไม
ทั้งๆที่บางทีเขายังไม่ได้ถามเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
การนินทาว่าร้ายคนอื่น
หรือการนำเอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นไปเปิดเผย
มันยังจะเป็นการผิดบาปข้อหา ลักทรัพย์ ผู้อื่น
ในอันที่จะต้องโทษตามกฎแห่งกรรมอีกด้วย
ซึ่งเกิดจากการ "หมุนกรรมจักร" ของจิตหยาบ
ที่ท่านประมาทหรือขาดสติโดยแท้

ด้วยเหตุนี้เอง
ถ้าท่านมีนิสัยสันดานเป็นพวก "ปากพาจน"
ยังทำให้ลิ้นของตนมีมลทินแบบนี้กันอยู่แล้ว
ผัวของตน เมียของตน พ่อแม่ของตน คนที่ตนรัก
ก็จะถูกท่านก้าวล่วงให้เสียหายกลายเป็นบาป
เพราะปากของคนกันเองอย่างท่านนี่แหละ

ดังนั้น
พระบิดาจึงทรงสร้างขี้ปากขี้ฟันของพวกท่านไว้
เพื่อผู้ที่สามารถเข้าถึงการพึ่งสติปัญญาตนเองได้
จักได้เรียนรู้ว่าถ้าไม่หมั่นล้างปากแปรงฟัน
ขี้ฟันในปากก็จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากมาย
แบ็คทีเรียมากมายที่เกิดขึ้นจะทำให้ปากเหม็น
เมื่อปากเหม็นก็ไม่มีใครคบคุยไม่มีใครชิดใกล้
แปลว่าท่านจะเป็นบุคคลที่ตนอื่นเขารังเกียจ

พระบิดาจึงทรงเตือนพวกท่านว่า
ต้องทำปากให้สะอาดไว้เสมอ
โดยไม่พูดเรื่องชั่วร้ายหรือเรื่องไม่ดีของคนอื่น
ไม่นินทาว่าร้ายไม่กล่าวคำเท็จหรือด่าหยาบคาย
หรือใช้ลิ้นของท่านกล่าวจาบจ้วงล่วงเกินใคร
เพราะมันล้วนยังผลให้ท่าน ปากเหม็น ทั้งสิ้น

การทำปากและลิ้นให้สะอาดบริสุทธิ์ไว้
จึงไม่ต่างจากคนที่มีลมปากลมหายใจหอม
คนรอบข้างคนใกล้ตัวคนใกล้ชิดก็จะไม่รังเกียจ
เพราะท่านหมุนธรรมจักรในตนเองด้วยขันธ์ 5
แล้วพาให้คนรอบข้างทุกคนหมุนธรรมจักรตาม
นี่จึงเป็นการปฏิบัติธรรมชั้นสูงแต่เบสิคที่สุด
ซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องทำมันให้ได้เพราะไม่ยาก

การฝึกใช้ขันธ์ห้าให้เป็นคือการพ้นทุกข์แท้จริง
การพยายามจะดับขันธ์ห้าจึงเป็นการทำพิเรนทร์
ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากเพราะเป็นจริงไม่ได้
เมื่อตายแล้วเท่านั้นขันธ์ 5 เขาก็จะดับกันไปเอง
เพราะพระบิดาหรือพระผู้สร้างทรงออกแบบไว้
ให้มันต้องเป็นของมันเช่นนั้นแล......

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
6/12/2021