28 มีนาคม 2563

" ประสบการณ์ CoVID19 " ตัวยาที่จะแรงขึ้นในประการที่ 5

"ประสบการณ์ #CoVID19"
****************************
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ต่อไปอีกว่า

ตัวยาที่จะแรงขึ้นในประการที่ 5
ที่นักเรียนทั้งโลกจักต้องเผชิญกันอย่างทั่วหน้า
โดยไม่มีผู้ใดที่จะได้รับการยกเว้นก็คือ

สมาชิกในกลุ่มใหญ่หรือในแต่ละประเทศ
ซึ่งเดิมเรากันไว้ให้เป็นแค่เพียง "คนนั่งดู"
เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ผ่านคนอื่นๆ
ที่ถูกคัดออกมาเป็น "ผู้ป่วยจริง" แทนคนส่วนใหญ่
ตามศาสตร์และศิลป์ของกระบวนการไซโคโชว์
ที่เราออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้เขย่าจิตสามนึกมนุษย์
ให้สั่นสะเทือนเป็นการแสดงออกและกระทำ
พฤติกรรมที่ถูกต้องเหมาะสมดีงามออกมา
เมื่อเผชิญเงื่อนไขที่กิจกรรมในบทเรียนกำหนดไว้

โดยในขั้นที่สองของการฝึกอบรมนี้
เราได้กำหนดให้มนุษย์โลกทุกคน
ทั้งคณะผู้นำที่เป็นผู้บริหารประเทศหรือกลุ่มใหญ่
รวมทั้งผู้นำระดับกลุ่มย่อยๆทั้ง 77 กลุ่ม
และผู้ตาม คือ สมาชิกทุกคนในกลุ่ม

ต่างจะมีโอกาสที่จะเป็นทั้ง "ผู้ป่วยจริง"
ซึ่งต้องเล่นเกม "โควิด-19" ให้คนอื่นๆดู
และต้องเป็น "คนเฝ้าดู" คนที่ป่วยจริงไปด้วย
เพื่อการเรียนรู้จากกันและกัน
แล้วนำประสบการณ์ตรงและอ้อมที่ได้รับนั้น
มาใช้ปฏิบัติในชีวิตของตนให้เป็นรูปธรรม
เพื่อพิพากษาตนเองให้ได้รับความรอด
รวมทั้งการมีจิตเมตตาช่วยเหลือ
ให้คนรอบข้างได้รับความ "รอด" ปลอดโรคด้วย

ซึ่งในกระบวนการไซโคโชว์ ขั้นที่สองนี้
ทุกท่านจักต้องเรียนรู้ที่จะสอบผ่านบททดสอบ
เมื่ออยู่ในสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
ดังต่อไปนี้ คือ

1.ท่านต้องแสดงให้พระบิดาฯเห็นว่า
ท่านมีจิตสามนึกในการรักตนเองอย่างแท้จริง
โดยไม่ทำตนมักง่ายจนสุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ

โดยท่านต้องค้นหาความรู้เรื่องไวรัสมรณะนี้ว่า
โรคระบาดร้ายแรงนี้มีอันตรายอย่างไร
จะป้องกันการติดเชื้อโรคชนิดนี้ได้อย่างไร
อาการของคนป่วยที่ติดเชื้อแล้วเป็นอย่างไร
เมื่อติดเชื้อแล้วท่านต้องปฏิบัติตนอย่างไร
จึงจะมีโอกาส "รอดตาย" ได้
โดยที่ยังไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนป้องกัน

ถ้าใครไม่แสดงออกว่ารักตนเอง
โดยปล่อยตนจนเป็นคนป่วยด้วยโรคนี้เข้า
หากบุญไม่มีบารมีที่ทำมายังไม่พอ
คนผู้นั้น คือ "ผู้สอบตก" จะถูกขึ้นบัญชีดำว่า
เป็นผู้ถูกคัดทิ้งออกจากระบบแน่นอน

2.ท่านต้องแสดงให้พระบิดาฯเห็นว่า
ท่านมีจิตสามนึกที่จะรักคนรอบข้างทุกคน
ไม่ใช่รักเฉพาะคนในครอบครัวตัวเองเท่านั้น

โดยท่านจะต้องระวังป้องกันตนเองทุกวิถีทาง
ที่จะมิให้แพร่เชื้อโรคร้ายนี้ไปสู่คนรอบข้าง
และไม่แพร่เชื้อต่อไปยังคนอื่นๆโดยเด็ดขาด

นั่นคือท่านจะต้องค้นหาคำตอบให้ได้ว่า
จะป้องกันมิให้ตนเป็นพาหะแพร่โรคได้อย่างไร
ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ว่าตนติดเชื้อแล้วหรือไม่ก็ตาม
ท่านจักต้องพิสูจน์ความรักให้ฟ้าเห็นสถานเดียว

ถ้าใครดำเนินชีวิตผิดพลาด
เพราะประมาท ขาดสติ ไม่ใส่ใจในผู้อื่น
จนยังผลให้คนรอบข้างรับเชื้อไปจากตนเอง
โดยคนที่ได้รับเชื้อไปบางคนอาจถึงตาย
คนที่เป็นผู้แพร่เชื้อโรคนั้น คือ "ผู้สอบตก"
ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำว่าต้องเป็นผู้ถูกคัดทิ้ง
ให้ออกไปจากสาระบบจนหมดโอกาสหลุดพ้น

3.ท่านต้องแสดงให้พระบิดาฯเห็นว่า
ท่านมีจิตสามนึกรักชาติของตนเองอย่างแท้จริง
ด้วยการมีวินัยในการดำเนินชีวิตประจำวัน
และยินดีปฏิบัติตามมาตรการที่ทางการกำหนด
ไม่ว่าท่านจะชอบไม่ชอบคณะรัฐบาลชุดนี้หรือไม่
ไม่ว่าคณะรัฐบาลชุดนี้จะมีดีหรือมีเลวก็ตาม

ท่านต้องเลิกแบ่งขั้วแบ่งข้าง
ท่านต้องล้างสีที่แตกต่างกันออกให้หมด
หันมาจับมือกันเป็นมิตรกัน
เพื่อสร้างพลังร่วมแห่งชาติในการพิชิตโรคร้าย
ให้หยุดการแพร่ระบาดให้จงได้
ให้หยุดการตายเพิ่มของคนในชาติให้จงได้

ไม่ว่าพวกเขาจะร้องขอความร่วมมือจากท่าน
หรือจะออกมาตรการบังคับท่านด้วยกฎกมาย
แม้ท่านจะไม่สบายใจหรือไม่สะดวกจะทำตาม
แต่ท่านต้องร่วมมือกับทางการสถานเดียว
โดยต่อสู้กับโรคระบาดนี้เพื่อ "ชาติ" ด้วย

ถ้าใครไม่ให้ความร่วมมือต่อส่วนรวม
แล้วยังมามัวทะเลาะกันเอง ทำร้ายกันเอง
ในสถานการณ์วิกฤตที่อาจสิ้นชาติได้
คนผู้นั้น คือ "ผู้สอบตก" จะถูกขึ้นบัญชีดำว่า
เป็นผู้ถูกคัดทิ้งออกจากระบบแน่นอน

4.ท่านต้องแสดงให้พระบิดาฯเห็นว่า
ท่านเป็นผู้มีมหาสติและใช้มหาสติเป็น
ซึ่งเป็นลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ในมรรควิถีจิตจักรวาล
ที่จะช่วยให้ท่านมีสภาวะจิตที่มั่นคง
ไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ใดๆที่เป็นปัญหา
จนสามารถหยิบปัญญาและความรักเพื่อให้
มาจัดการได้หมดในทุกปัญหาที่ท่านเผชิญ

ถ้าท่านเข้าถึงการใช้มหาสติได้อย่างชำนาญ
พระองค์ก็จะประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้
เป็นความสำเร็จจากการตัดสินใจที่ถูกต้อง
นั่นคือ ท่านจะเป็นผู้ได้รับการ "คัดไว้"

แต่ถ้าท่านล้มเหลวในการใช้ มหาสติ
มันจะทำให้ท่านตัดสินใจแก้ปัญหาผิดพลาด
ท่านก็ คือ "ผู้สอบตก" จะถูกขึ้นบัญชีดำว่า
อาจเป็นผู้ที่จะต้องถูกคัดทิ้งออกจากระบบ
หากความล้มเหลวในการใช้มหาสติครั้งนี้
เกิดจากความเหลวไหลและความไม่เอาไหน
เพราะไม่เคยใส่ใจที่จะฝึกฝนกัน

ผู้ที่ขาดมหาสติจนตัดสินใจผิดพลาดครั้งนี้
บางคนอาจจะยังไม่ถูกพิพากษา "คัดทิ้ง"
ถ้าพระองค์ทรงเห็นแล้วว่าบุตรคนนั้น
มีความตั้งใจที่จะฝึกใช้มหาสติตลอดมา
แต่ที่สอบตกบททดสอบครั้งนี้เป็นเพราะว่า
ยังขาดทักษะที่ต้องอาศัยเวลาฝึกฝนต่ออยู่

5.ท่านต้องแสดงให้พระบิดาฯเห็นว่า
ท่านเป็นผู้มีปณิธานแห่งการหลุดพ้นชัดเจน
โดยพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของท่าน
จักต้องขับเคลื่อนออกมาด้วยอนุตรธรรม
รวมทั้งสิ้น 4 ประการ คือ
หนึ่ง : รักคนที่ไม่น่ารักได้ทุกคน
สอง : ให้อภัยคนที่ไม่สมควรให้อภัยได้เสมอ
สาม : ไม่ก้าวล่วงใครให้เขาเสียสมดุล
แม้บางคนอาจจะก้าวล่วงท่านก่อนก็ตาม
สี่: ใช้จิตสามนึกดำเนินชีวิตเท่านั้น

ถ้าท่านครองลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ดวงนี้ได้
โดยไม่ละทิ้งหรือทำตกแตก
ท่านก็จะเป็นผู้ที่ถูก "คัดไว้"
ในปฏิบัติการไซโคโชว์หลักสูตร "โควิด-19" นี้

แต่ถ้าใคร "สอบตก" หรือล้มเหลวในข้อนี้
ถ้าไม่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง
ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำว่าเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกคัดทิ้ง
ให้ออกจากระบบอย่างแน่นอน

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

คู่มือการฝึกอบรมเพื่อทำบททดสอบต่างๆ
ในหลักสูตร "โควิด-19" ที่เราเฉลยล่วงหน้านี้
เป็นปฏิบัติการจิตวิทยาแห่งอนันตจักรวาล
ที่มันจะสั่นสะเทือนไปถึงอีก 6 จักรวาลด้วย
โดยมีท่านทั้งหลายแห่งดาวโลกเสรีนี่แหละ
รับบทบาทเป็น "ครู" ในฐานะของผู้เป็นต้นแบบ

เราเฉลยข้อสอบล่วงหน้าปานนี้แล้ว
ยังจะ "สอบตก" โดยเป็นต้นแบบที่ไม่ดีอีก
ท่านผู้นั้นก็สมควรที่จะถูกคัดทิ้งได้แล้ว

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เพราะยาแรงประการที่ 5 คือ
ทุกคนทั้งประเทศและทั้งโลก
ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี
แม่ทัพ นายกองและไพร่ฟ้าประชาชนทุกคน
จะต้องรับบทบาทเป็นทั้งผู้ป่วยตัวจริง
และเป็น "คนดู" ผู้อื่นเขาเล่นเขาป่วยไปด้วย

งานนี้จึงไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้ว
เพราะมีการเสี่ยงชีวิตเป็นเดิมพัน

บทสนทนาครั้งต่อไป
เราจะเปิดเผย "ยาแรง" ขนานที่ 6
ซึ่งจะเป็นยาแรงขนานรองสุดท้าย
ในปฏิบัติการ PsychoShow ของ "ปริญญา"
สำหรับกิจกรรมชื่อ "โควิด-19" ขั้นที่สองนี้

ใครอยากเรียนรู้ต่อ
เชิญยกมือขึ้นเพื่อแสดงตนกันอีกครั้ง
กราบพระบาทพระบิดาฯ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28/03/2020

Thanks:
เราขออนุโมทนาบุญ
ที่ช่วยกันแชร์บทสนทนานี้
เพื่อเป็นอนุตรธรรมทานแก่เวไนยฯ
เพราะเวลาเพื่อการเรียนรู้เหลือน้อยแล้ว
เวลาที่จะถูกทดสอบจะยาวนานกว่า