#สนทนาประสาจิตจักรวาล
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พฤติกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันของท่าน
ล้วนมีบ่อเกิดหลักที่สำคัญคือ #จิตสามนึก
จิตสามนึก อันเป็นแหล่งพฤติกรรมนี้
ประกอบด้วยอาการของจิตรวม "3 นึก" คือ
1.นึกออก
หมายถึง นึกได้แล้วว่า
ตนยังคิดพูดทำสิ่งใดบ้างที่ค้างคาอยู่
ยังมีสิ่งใดบ้างที่ตนยังต้องทำต่อให้ลุล่วง
เมื่อนึกได้แล้วหรือจำได้แล้ว
ท่านก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นๆออกมาทันที
เช่น การคิดต่อ พูดต่อ และทำต่อ เป็นต้น
2.นึกเอา
หมายถึง นึกได้แล้วว่า
ตนควรจะต้องคิดพูดทำสิ่งใดบ้าง
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในขณะนั้น
นึกได้แล้วว่ายังมีสิ่งใดที่ตนสมควรทำ
แต่ยังไม่ได้กระทำบ้าง
นึกได้แล้วว่ามีสิ่งใดไม่ควรทำ
แต่ตนนั้นได้เผลอกระทำไปแล้วบ้าง
จักได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นๆ
ไปทำพฤติกรรมอย่างอื่นที่สมควรกว่าเสีย
3.นึกเอง
หมายถึง การทึกทักเอาเองสรุปเองว่า
คนนั้นต้องเป็นอย่างนั้น คนนี้ต้องเป็นอย่างนี้
โดยยังมิได้พิจารณาความจริงเท็จให้ถ่องแท้
ยังมิได้ศึกษาเรื่องราวให้ลึกซึ้งชัดเจนก่อน
แต่กลับปักใจเชื่อตามการนึกเองของตนนั้น
ทำยังกับว่าสิ่งที่ตนนึกเองนั้นถูกต้องเป็นจริง
หากจะกล่าวเป็นภาษาชาวบ้าน
การ "นึกเอง" ในลักษณะที่ว่านี้
#มันคือการคิดแทนผู้อื่นนั่นเอง
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
การก้าวล่วงผู้อื่นด้วยกายกรรม วจีกรรม
และ มโนกรรม ในชีวิตประจำวัน
จนเกิดการผิดบาปรายวันทั้งที่รู้ตัวไม่รู้ตัวนั้น
ล้วนมาจากความบกพร่องทาง #จิตสามนึก
ที่เรากล่าวมาข้างต้นนี่แหละ
เพราะจิตสามนึกบกพร่องนี่แหละ
มนุษย์จึงแสดงพฤติกรรมขยะต่อกัน
ทำให้ทีมแตก สังคมขาดสันติสุข
ประเทศชาติหายนะเพราะทุกคนไม่รักกัน
เหตุจากจิตสามนึกบกพร่อง
จึงทำให้คนเก่งในสังคมไร้ค่า
เพราะเก่งจริงแต่เป็นคนไม่ดีเนื่องจากนึกลบ
เพราะโครงสร้างทางจิตสามนึกอ่อนแอ
ไม่เคยได้รับการอบรมและขัดเกลาเลย
ได้แต่พัฒนาความเก่งให้คนเก่งขึ้นถ่ายเดียว
ยิ่งเก่งมากยิ่งหลงตัวเองมากจนเข้ากับใครไม่ได้
เพราะจิตสามนึกบกพร่องตกต่ำโดยแท้
บ้านเมืองของเรา
มีข่าวคราวในวงราชการงานเมืองว่า
ทุจริตคอรัปชั่นฉ้อฉลประเทศชาติมากมาย
ทั้งที่จับได้และยังจับไม่ได้
เป็นเพราะผู้คนเหล่านี้มีความโลภเห็นแก่ตัว
ขาดจิตสามนึกด้านบวก
จึงไม่รักประเทศชาติและแผ่นดิน
จึงไม่รักพี่น้องประชาชนสนใจแต่ตนเอง
รักแต่ประโยชน์โภชน์ผลส่วนตัวกับพวกพ้อง
จึงทั้งกินทั้งกอบทั้งโกย
สมบัติชาติและทรัพยากรของแผ่นดิน
อย่างไม่ยำเกรงกฎหมายไม่ละอายบาป
เพราะจิตสามนึกบกพร่องทั้งสิ้น
เราไม่สงสัยหรอกว่า
ทำไมกระบวนการฝึกอบรม PsychoShow
เพื่อชำระจิตสามนึกของนักเรียนนักศึกษา
เพื่อปรับโครงสร้างทางจิตวิทยาของครูอาจารย์
และข้าราชการงานเมืองของแผ่นดิน
จึงไม่ได้รับความสนใจใยดี
จากผู้ที่รับผิดชอบแผนพัฒนาคุณภาพ
ในองค์กรเหล่านั้นเท่าที่ควร
เพราะผู้รับผิดชอบมุ่งเน้นแต่จัดอบรม
เพื่อสร้างคนเก่งให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ
โดยทิ้งจิตสำนึกที่บกพร่องเอาไว้ไม่ทำอะไร
เพราะเชื่อว่า "สันดานคนแก้ไม่ได้"
เพราะไม่เชื่อว่า "สันดานคนแก้ไขได้"
เพราะเชื่อว่าการมีบุคลากรประพฤติไม่ดี
เป็น #ความซวย ของทุกคนในหน่วยงาน
และองค์กรเล็กใหญ่ล้วนมีคนไม่ดีกันทั้งนั้น
จึงเห็นเป็นเรื่องปกติ
คนก้าวร้าวเจ้าอารมณ์ คนเห็นแก่ตัว
คนเอาเปรียบทุจริตฉ้อฉล คนหลอกลวง
คนชอบนินทาว่าร้าย คนโกหกใส่ร้ายป้ายสี
คนไม่ซื่อสัตย์ไม่จริงใจ คนอกตัญญู
คนขี้อิจฉา คนขี้ระแวง คนขี้ใจน้อย
คนเกียจคร้าน ฯลฯ
พฤติกรรมเหล่านี้มาจากจิตสามนึกบกพร่อง
ที่ถูกเลยตามเลยกันมาตลอด
นับวันผู้คนจะเหลวไหลมากขึ้นเรื่อยๆ
จนสังคมนี้อ่อนแอไม่มั่นคงตกต่ำลงไปเรื่อยๆ
เมื่อไหร่ที่สังคมเปลี่ยนค่านิยมมาส่งเสริมคนดี
แทนที่จะเอาแต่ส่งเสริมคนเก่งจนล้น
เมื่อนั้นอนาคตของชาติจึงจะชัดเจนขึ้น
อมิตตาพุทธ....
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
18-03-2018