#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 6)
To Whom It May Concern
*****************************
"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"
บุตร <3 แห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย
รวมทั้งอาวุโสแห่งสำนักจัดตั้ง
ผู้ที่สั่งห้ามศิษย์สาวกของตน
มิให้ขนกันมาศึกษาจิตจักรวาลด้วย
เราจะกล่าวความจริง
ต่อท่านทั้งหลายและเจ้าสำนักแห่งนี้ว่า
ดวงจิตธรรมญาณทุกรูปธรรม
ที่ขันอาสาพระบิดามาเกิดเป็นมนุษย์
ต่างมีหน้าที่ทางจิตวิญญาณเฉพาะตน
ถือติดตัวกันมาด้วยกันทั้งสิ้น
คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
ก็ต้องถือพันธะหน้าที่แห่งคุรุมาเช่นกัน
จักต้องมีบารมีทางวิญญาณสูงพอ
จักต้องมีภูมิรู้ ภูมิธรรมและภูมิปัญญา
ในระดับที่สูงส่งกว่าผู้อื่นด้วย
โดยเฉพาะคุรุผู้สื่อสอนธรรมะ
จนถึงขั้นแสดงปณิธานฉุดช่วยเวไนย
มิใช่ใครต่อใครใคร่จะทำก็ทำได้
เพราะการสอนธรรมะให้คนหลงผิด
ด้วยความรู้น้อย รู้ผิดหรืออวดอุตริ
มีนรกขุมที่ 13 ใน 16 ขุมรองรับอยู่
ซึ่งมันค่อนข้างลึกเอาการทีเดียว
คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
ต้องรอบรู้ธรรมะมากกว่าผู้อื่น
ต้องฉลาดเรียนรู้ตลอดเวลา
ต้องทบทวนให้แม่นยำในองค์ธรรม
มิใช่ค่ำเช้าเอาแต่นั่งนอนเฝ้าสำนัก
คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องเข้าถึงสัจธรรม
ได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้อื่น
ในระดับที่มองเห็นธรรมะในธรรมชาติ
ด้วยปัญญาญาณชั้นสูงได้อย่างแยบยล
โดยสามารถรู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
ต้องรู้เห็นได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าคนอื่น
เมื่อเห็นปลาก็ต้องคิดรู้ให้ได้ว่า
พระบิดาทรงให้ปลาสอนอะไร
เมื่อเห็นปู กุ้ง หอย น้อยใหญ่
คนชั้นครูก็ต้องคิดรู้เองให้ได้ว่า
พระบิดาทรงแฝงเร้นธรรมะอะไรไว้
คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องมีความสามารถในการสื่อสาร
เมื่อกล่าวธรรมะใดก็ต้องให้ผู้ฟังรู้เรื่อง
ต้องพูดเรื่องยากๆให้เข้าใจได้ง่าย
มิใช่พูดแทบตายแต่คนฟังไม่เข้าใจ
หรือพูดเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยาก
เพราะท่องจำธรรมะเอามากล่าวต่อ
ทั้งที่ตนเองก็ยังไม่รู้แจ้งอยู่เหมือนกัน
เมื่องานบรรยายธรรมเอาดีไม่ได้
จึงต้องเปลี่ยนมาขาย "พิธีกรรม"
และแสวงหา "กิจกรรม" ให้ทำแทน
ขายบุญ ขายบาป
ขายนรก ขายสวรรค์
ขายพระอาจารย์และขายความเชื่อ
แล้วละวางงานฉุดช่วยเวไนยทิ้งไป
สำนักเคยศักดิ์สิทธิ์จึงถูกบิดเป็น #ลัทธิ
คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องสอนตนเองกันให้ดีเสียก่อน
สมัยนี้ถ้ามีเพียงปากคอยคาบคัมภีร์
แต่จิตใจยังห่างไกลจากธรรมะนั้น
จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนศรัทธาไม่ได้
คนที่อาสาว่าจะฉุดช่วยเวไนยก็เช่นกัน
เป้าหมายการ "ฉุดช่วย" คือ "หลุดพ้น"
ถ้าท่านต้องการช่วยใครอื่นให้หลุดพ้น
ก็คงต้องถามตนเองก่อนว่า
ท่านช่วยตนเองให้หลุดพ้นได้หรือยัง
โดยหลุดพ้นไปจากกิเลสตัณหา
จำพวกโลภะ โทสะ โมหะรายวัน
หลุดพ้นจากราคะจริต
หลุดพ้นจากการอิจฉาริษยา
หลุดพ้นจากการยึดติดอัตตาจนหลงตน
หลุดพ้นจากการไม่รู้จักพอ
หลุดพ้นจากการแสวงประโยชน์ส่วนตน
ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ผู้ที่เข้าถึงการหลุดพ้นหรือนิพพานได้
แต่ยังมีปณิธานว่าจะฉุดช่วยเวไนย
ให้หลุดพ้นหรือนิพพานได้เช่นตนนั้น
เขาจะเรียกขานกันว่า #พระโพธิสัตว์
ดังนั้น ถ้าหากใครยังไม่เข้าถึง
การมีคุณสมบัติแห่งโพธิสัตว์
ยังเป็นที่พึ่งแห่งเวไนยในหล้านี้ไม่ได้
จักอาสาฟ้าดำเนินภารกิจนี้ได้อย่างไร
มันเป็นความจริงไปไม่ได้หรอกท่าน
แค่เพียงศิษย์สาวกดิ้นรนแสวงธรรม
โดยนำพาตนเองมาสู่จิตจักรวาล
อันเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แท้จริง
แต่สิ่งที่ท่านทำคือ "สั่งห้าม" มาศึกษา
ทั้งๆที่ตนเองก็ยังไม่รู้เลยว่า
อาจารย์ปริญญาสอนอะไร
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณคือใคร
ศิษย์สาวกที่มาศึกษาจิตจักรวาล
ยังถูกท่านอาวุโสกล่าวโทษเสียรุนแรง
ในข้อหาว่าไม่เคารพอาจารย์
ในข้อหาว่าไม่เทอดทูนธรรม
แต่กับการที่มีมารร้ายในสังคม
ปลอมตัวเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์
กระทำการลบหลู่มหาคุรุของตน
ชักชวนผู้คนให้หลงทางไปสวรรค์
กลับทำเฉยเมยไม่รู้ไม่ชี้
นี่ต่างหาก...ไม่เคารพอาจารย์
นี่ไงท่าน...ไม่เทอดทูนธรรม
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-06-2017
หมายเหตุ:
อยากติดตามภาค 7
โปรดยกมือรอกันต่อไปนะ