10 กันยายน 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 10/09/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

10/09/2021




สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

มีศาสนิกท่านหนึ่งส่งคำถามมายังเรา
เพื่อขอความกระจ่างจากพระคัมภีร์
ใน ลูกา 12:42-48; มัทธิว 24:45-51
ว่าพระองค์ทรงหมายความว่าอย่างไร
โดยเฉพาะในข้อความที่ว่า....

 ใครเป็น บ่าวที่ซื่อสัตย์และฉลาด
ที่ นายตั้งไว้เหนือบ่าวอื่นๆ
เพื่อ แจกอาหาร ตามเวลา
เมื่อนายมาพบเขาทำอย่างนั้น บ่าวคนนั้นก็เป็นสุข

เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า
นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแล
ทรัพย์สิ่งของทั้งหมดของท่าน

แต่ถ้า บ่าวชั่ว นั้นคิดในใจของเขาว่า
"นายของข้ามาช้า" และเริ่มต้นโบยตีเพื่อนบ่าว
และกินดื่มอยู่กับ พวกขี้เมา

นายของบ่าวคนนั้น
จะมาในวันที่เขาไม่คิด ในชั่วโมงที่ไม่รู้
และจะลงโทษเขาอย่างหนักและจับขับไล่
ให้ไปอยู่ในที่ของ พวกคนหน้าซื่อใจคด
ซึ่งที่นั่นจะมีแต่การร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน.

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

คำกล่าวทั้งหมดข้างต้นตามที่ถามเรามานั้น
พระองค์ทรงบอกกล่าวต่อศิษย์สาวกทั้งหลาย
พวกที่ฉลาดและมีศรัทธาต่อพระบิดา
เหนือพี่ๆน้องๆที่เป็นมนุษย์คนอื่นๆในยุคนั้น
โดยทรงมอบหมายให้พวกเขาทำหน้าที่สำคัญ
ในระหว่างวันเวลาที่พระองค์เสด็จกลับไป
เพื่อที่จะเสด็จกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า

ขอให้ประดาผู้เป็น "บ่าว" ของพระองค์นั้น
จงช่วยกันทำหน้าที่เป็น คนนำทาง
พี่ๆน้องๆทั้งหลายในพระนามของพระองค์
ด้วยจริงจังและตั้งใจจนกว่าพระองค์จะกลับมา
ซึ่งคำว่า "คนนำทาง" ในที่นี้เราหมายถึง
ผู้มีหน้าที่ชี้ทางสว่างตามแนวทางแห่งพระเจ้า
ให้แก่พี่ๆน้องๆชาวโลกเสรีทั้งหลายให้ได้รู้
บทบาทหน้าที่ในการมาเกิดเป็นมนุษย์
หน้าที่ทางจิตวิญญาณที่ขันอาสามาเกิดบนโลก
และให้สามารถจดจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
พระผู้ทรงอนุญาตให้ทุกคนมาเกิดเป็นมนุษย์ได้
รวมทั้งพระโอวาทอันประเสริฐอื่นๆที่ทรงสื่อสอนไว้

โดยพระองค์ทรงเรียกคนนำทางในยุคนั้นว่า "บ่าว"
ทรงเรียกการเผยแพร่ธรรมะว่า "แจกอาหาร"

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

พระองค์ตรัสสอนประดา "คนนำทาง"
ซึ่งทรงสมมติว่าเป็น "บ่าว" เอาไว้ว่า
ในระหว่างที่พระองค์ยังไม่เสด็จกลับมายังโลก
ถ้าคนนำทางหรือบ่าวของพระองค์คนใดก็ตาม
ทำหน้าที่ "แจกอาหาร" หรือสอนธรรมะแก่พี่น้อง
อย่างจริงจังและตั้งใจจริงโดยไม่เหลวไหลแล้ว
เมื่อพระองค์เสด็จกลับมาและทรงรับรู้รับทราบ
คนนำทางหรือบ่าวคนนั้นก็จะมีปิติสุขมากกว่าใคร

ที่จะมีปิติสุขมากกว่าใครอื่นก็เพราะเหตุว่า
บ่าวคนนั้นจะมีความภาคภูมิใจในตนเองเป็นที่ยิ่ง
ที่ได้ทำหน้าที่คนนำทางอย่างซื่อสัตย์เสมอมา
เพราะเชื่อมั่นว่าพระองค์ต้องเสด็จกลับมาแน่นอน
ยิ่งถ้าพระองค์เสด็จกลับมาพบเห็นเขาคนนั้น
"แจกอาหาร" ปันธรรมะให้มวลมนุษย์ "ตามเวลา"
อันหมายถึงแจกในทุกชาติที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
พระองค์ก็ย่อมจะทรงพอพระทัยในบ่าวคนนั้นด้วย
ตัวคนนำทางเองจึงย่อมยินดีมีความสุขด้วยเช่นกัน

แต่ถ้า "คนนำทาง" หรือ บ่าวคนใดก็ตาม
ทำตัวเหลวไหล ไม่เอาถ่าน ไม่เอาไหน
ไม่ทำหน้าที่ตามที่ให้สัจจะต่อพระองค์ไว้
ในการเผยแพร่ธรรมะของพระเจ้าแก่เพื่อนมนุษย์
โดยทำตนเป็น คนนำทางตาบอด หรือเป็น "บ่าวชั่ว"
ด้วยการไม่ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พี่ๆน้องๆ
ด้วยการบิดเบือนคำสอนทั้งเจตนาและโง่
จนพาให้ผู้ก้าวตามหลงทางไปเดินอยู่ในความมืด

นอกจากนั้นถ้าบ่าวคนใดก็ตาม
เวียนว่ายตายเกิดมาเป็นมนุษย์หลายภพชาติ
จนมีความรู้สึกว่าพระองค์เสด็จกลับมาช้ามาก
หรืออาจคิดไปว่าพระองค์ไม่ทรงกลับมาแน่แล้ว
บ่าวหรือคนนำทางเหล่านี้ก็จะลดละความจริงจัง
โดยปล่อยให้กิเลสมารตัณหาเข้าครอบงำ
จนทำให้พี่ๆน้องๆที่จิตใจตกต่ำย่ำแย่อยู่แล้ว
พลอยทำตัวแย่ตามบ่าวชั่วหนักเข้าไปอีก

พระองค์ทรงเปรียบบ่าวชั่ว
ซึ่งเป็นคนนำทางตาบอดและเหลวไหลว่า
เป็นผู้ที่กินดื่มอยู่กับ "พวกขี้เมา"
เพราะเป็นพวกที่เมามายอยู่ในกิเลสตัณหา
เป็นพวกที่ขาดสติทางวิญญาณ
ไม่รู้ว่าไหนดีไหนชั่ว ไม่รู้ว่าไหนบุญไหนบาป
เหมือนเดินสะเปะสะปะท่ามกลางความมืด
เพราะกิเลสตัณหาพาให้ปัญญามืดบอดนั่นแหละ

พระองค์ยังได้ทรงกล่าวตักเตือนเอาไว้ด้วยว่า
พระองค์ คือ "นาย" ของคนนำทางผู้เป็นบ่าว
จะเสด็จกลับมาวางพระเศียรบนโลกเสรีนี้อีกครั้ง
ในวันเดือนปีที่พวกเขาจะมิอาจคาดคิด
ในชั่วโมงนาทีที่พวกเขาจะมิอาจรู้

คนนำทางคนไหนตาบอดและทำตนเหลวไหล
พระองค์จะนำส่งจิตวิญญาณของบ่าวชั่วพวกนี้
ไปยังดินแดนของพวกคนหน้าซื่อแต่ใจคด
อันหมายถึง "แดนนรก" เพื่อทำการชำระบาป
เพราะจิตวิญญาณป่วยหรือเสียสมดุลนั่นเอง
ซึ่งดินแดนนรกนั้นจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ความทุกข์ทรมานที่ต้องร้องครวญครางอย่างอนาจ

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

คำสอนที่ถามมานี้
พระองค์ทรงกล่าวต่อบ่าวของพระองค์
อันหมายถึงผู้อาสาพระองค์ทำหน้าที่เป็นคนนำทาง
หรือที่ทรงเรียกว่า "แจกอาหาร" แก่เพื่อนมนุษย์
ในระหว่างที่พระองค์เสด็จกลับไปยังไม่กลับมา

ดังนั้น
ใครขันอาสาไว้ว่าจะทำหน้าที่คนนำทาง
ในนามของศาสนาหรือศาสดาใดก็ตาม
ท่านจะทำตนบกพร่องเหลวไหลเมามายในกิเลส
หรือทำตนเป็นคนนำทางตาบอดไม่ได้เด็ดขาด
ใครมีหูก็จงรับฟังกันไว้เถิด

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
10/09/2021