18 มกราคม 2562

ตอบคำถาม : การที่ประเทศต่างๆ รบกัน เขาได้เขียนบทละครกันมาหรือไม่ 18/01/2019

 #ตอบคำถาม :

ภูสิตา สุริยวงศ์

 

กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ

มีคำถามค่ะ

 

Q1.

การที่ประเทศต่างๆรบกัน

เขาได้เขียนบทละครกันมา

เช่นเดียวกันใช่ไหมคะว่าจะต้องรบกัน

 

Q2.

เมื่อเป็นเช่นนี้คนในชาติของเขา

ก็เขียนบทละครร่วมกันมาใช่ไหมคะ

จึงต้องรับกรรมร่วมกัน

 

Q3.

หากเขาไม่สำนึก

พวกเขาจะต้องเป็นอย่างไรคะ

ตกนรกหรือว่าจิตวิญญาณแตกสลายคะ

 

กราบขอบพระคุณค่ะ

****************************************

Answer: Q1.

 

1. ไม่มีจิตวิญญาณดวงใดๆจากแดนสุญตา

ที่ขันอาสาพระบิดาลงมาจุติเป็นมนุษย์

จะวางแผนกระทำผิดต่อ "กฎจักรวาล"

ซึ่งเป็นกฎหลักของพระผู้สร้างมาตั้งแต่แรก

นั่นคือ #กฎแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกัน

ของทุกสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ในเอกภพ

หรือ "อนันตจักรวาล" หรอกท่าน

 

ในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้นั้น

ทุกรูปธรรมทุกสรรพสิ่ง

จะเคารพกฎจะถือสัจจะจริงจัง

เสมอเหมือนกันทั้งหมด

โดยไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อแม้ใดๆ

ตามที่เราเคยกล่าวเอาไว้ว่า

"ไม่มีเด็กเส้น" นั่นแหละนะ

 

ดังนั้น

จิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์

ไม่ว่าจะเป็นใคร ครอบครัวไหน ชาติไหน

เวลาขีดเขียนบทละครกันนั้น

พวกเขาจะไม่เขียนว่ามา "รบกัน" เด็ดขาด

 

เพราะการต่อสู้ทำสงครามกัน

มันคือการเบียดเบียนทำร้ายกันเอง

มันคือการฆ่าแกงกันเอง

ซึ่งผิดต่อพันธะสัญญา 6 ที่ให้ไว้ต่อพระบิดา

ก่อนจะมาเกิดในภพชาติแรกมิใช่หรือ

 

2. เมื่อจิตวิญญาณ

ขันอาสามาจุติเป็นมนุษย์ในภพชาติแรก

เวลาเขียนบทละครร่วมกันมานั้น

จะเขียนเพื่อมาแสดงร่วมกันเป็นครอบครัว

มิได้เขียนเพื่อมาแสดงร่วมกันเป็นประเทศ

 

เรื่องของประเทศเป็นเรื่องของมนุษย์

ที่จัดตั้งกันขึ้นมาเอง

โดยอาศัยภูมิประเทศที่พวกตนอยู่ร่วมกัน

เป็นหลักในการจัดตั้งคำว่า "ประเทศ"

ซึ่งมีภาษา วัฒนธรรม ค่านิยม และอื่นๆ

เป็นองค์ประกอบร่วม

 

3. การสู้รบทำสงครามกัน

ระหว่างชนชาติกลุ่มเผ่าทั้งหลายนั้น

มันมีมาแต่โบราณกาลแล้วล่ะท่าน

ที่มนุษย์ต่อสู้ทำศึกสงครามกันนั้น

เบื้องต้นมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น

 

เพราะอยากมีอำนาจเหนือนำ

เพราะต้องการแย่งชิงผลประโยชน์

เพราะความขัดแย้งที่หาทางออกไม่ได้

เพราะความเข้าใจผิดกัน เป็นต้น

 

เมื่อมีการต่อสู้ทำศึกสงครามกัน

แน่นอนว่าต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้

โดยฝ่ายผู้ชนะก็จะฝากรอยแค้นให้ผู้แพ้

เพราะผู้แพ้คือผู้เสียอำนาจ

เพราะผู้แพ้คือผู้เสียผลประโยชน์

เพราะผู้แพ้คือผู้เสียหาย

เพราะผู้แพ้คือผู้เสียโอกาส

เพราะผู้แพ้คือผู้เสียอิสรภาพ

เพราะผู้แพ้คือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

 

ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่า

ฝ่ายที่เป็น "ผู้แพ้" ต้องผูกจิตเจ็บแค้น

มีจิตอาฆาตพยาบาทที่จะแก้แค้นแน่ๆ

เพราะการมีสำนึกให้อภัยหรืออโหสิ

มันถูกความอาฆาตพยาบาทบดบังไว้

 

ดังนั้น

จากอดีตตราบกระทั่งปัจจุบัน

ที่ท่านเห็นหลายชาติก่อศึกสงครามกัน

ทั้งสงครามระหว่างประเทศ

และการต่อสู้ภายในชนชาติเดียวกันเอง

ล้วนเกิดจาก #ความอาฆาตพยาบาท

ที่เป็นไปตาม #กฎแห่งกรรม

ซึ่งจิตหยาบเขียนบทละครกันขึ้นมาเอง

จนทำให้จิตวิญญาณต้องเสียสมดุล

เพราะพลอยกระทำผิดบาปตามไปด้วย

ในที่สุดก็หลุดพ้นไม่ได้

เพราะผลัดกันแก้แค้นไปมาไม่รู้จักจบสิ้น

 

#Answer: Q2.

 

1. เมื่อการแก้แค้นระหว่างกัน

ต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม

การสู้รบทำศึกสงครามกันจึงเลี่ยงไม่ได้

หากทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

สะกดคำว่า "อโหสิ" กันไม่เป็น

 

เมื่อได้รับโอกาสให้มาเกิดกันใหม่

จิตวิญญาณก็หลงมิติ

พากันออกมาตามท้องถนน

สู้รบปรบมือกัน

ตั้งป้อมค่ายคูเมืองกันกลางถนน

อดีตชาติแต่งกายสไตล์ไหนสีไหน

ก็แต่งกายไปตามสไตล์นั้นสีนั้น

 

อดีตเคยทำสงครามแบบกองโจร

ก็จะปฏิบัติตามยุทธวิธีแบบเดิมๆนั้น

อดีตเคยใช้ปืนใหญ่ทำร้ายกัน

ปัจจุบันก็อาจจะใช้ปืน "ค" น้องๆปืนใหญ่

นำมาลอบยิงใส่กันในระยะไกล

 

ถ้าอดีตเคยถูกริบสมบัติและลูกเมีย

และถูกฆ่าตายเพราะเป็นเชลย

เนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้ศึกสงคราม

ระหว่างประเทศหรือชนชาติ

ชาตินี้กรรมจะนำมาเกิดในประเทศเดียวกัน

แล้วจะแสดงพฤติกรรมไม่รักแผ่นดินเกิด

เพราะตนมิใช่คนของแผ่นดินตัวจริง

 

การบ่อนทำลายชาติของตนเอง

การกอบโกงชาติโกงแผ่นดิน

ล้วนเป็นพฤติกรรมทวงคืนของผู้แพ้

ที่เป็นฝ่ายสูญเสียมาแล้วในอดีตทั้งนั้น

 

ท่านจึงไม่ต้องถามหรอกว่า

ทำไมคนชาติเดียวกันจึงลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง

ทำไมจึงบ่อนทำลายชาติของตัวเอง

ซึ่งมันผิดปกติวิสัยของมนุษย์

คำตอบก็คือผู้ร้ายนั้นมิใช่ตัวจริงนั่นเอง

 

2. แต่ยังมีอีกกรณีหนึ่ง

ที่สงครามระหว่างประเทศหรือชนชาติ

มิได้เป็นผลกรรมที่สืบเนื่องมาจากอดีต

แต่เป็น "กรรมใหม่" ที่ตัวผู้นำก่อขึ้นเอง

เพราะตัวผู้นำตัดสินใจผิดพลาด

เพราะตัวผู้นำเป็นคนไม่ดี

จึงนำพาประเทศชาติประชาชนของตน

เข้าสู่สถานการณ์ศึกสงคราม

 

ประชาชนในชาติที่ผู้นำเหลวไหล

จนก่อให้เกิดศึกสงครามขึ้น

ทำให้ประเทศชาติกลายเป็นสมรภูมิรบ

ไร้ความสุขสงบ ประชาชนอดหยาก

ประชาชาติของตนต้องรับกรรมไปด้วย

ซึ่งจักรวาลถือว่าเป็นความเหมาะสมแล้ว

 

เพราะเหตุว่า

ประชาชนเป็นคนเลือกผู้นำของตน

ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำเพื่อใช้อำนาจแทนตน

ไม่ว่าผู้นำที่ถูกเลือกจะเป็นคนดีหรือเลว

ประชาชนผู้เลือกตั้งก็ต้องรับผิดชอบ

 

ดังนั้น

ถ้าผู้นำพาประเทศเข้าสู่สงคราม

ประชาชนทุกคนก็ต้องยอมรับกรรมนั้น

จะตำหนิโทษด่าว่าผู้นำของตน

ว่าเป็นคนเลวอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่ได้

เพราะประชาชนเลือกพวกเขาขึ้นมาเอง

 

#Answer: Q3.

 

ถ้าพวกเขาเหล่านี้

ยังมีจิตสำนึกบกพร่องเพราะแค้นกันอยู่

ความวุ่นวายทั้งหลายบนโลกนี้สังคมนี้

มันหาจุดจบไม่ได้หรอกท่าน

 

โลกจะมีความสันติสุขเกิดขึ้นได้

ถ้าประชาชนทุกคนเกิดสติทางวิญญาณ

โดยต้องรู้ว่าตนมาเกิดเป็นมนุษย์ทำไม

ตนมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง

ทำไมพระศาสดาจึงสอนมนุษย์ให้รักกัน

 

ทางเลือกสุดท้ายที่มนุษย์มิได้เลือก

เพื่อเก็บฉากปิดบัญชีกรรมอันยืดเยื้อ

นั่นคือโลกจะต้องเผชิญกับมหันตภัยพิบัติ

เพื่อสร้างจิตสำนึกแห่งรักให้แก่มนุษย์

ด้วยบทเรียนแห่งความกลัวตาย

 

ท่านมิพักถามเราหรอกว่า

ถ้าถึงวันสุดท้ายนั้นแล้ว

จิตวิญญาณของพวกนี้จะเป็นอย่างไร

จะตกนรกหรือแตกสลาย

 

เพราะจักรวาล

ได้กำหนดเส้นทางไปไว้ให้เขาแล้ว

มันเป็นเรื่องของพวกเขา

หันมาใส่ใจตัวเราเองดีกว่าว่า

มีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ

ยิ่งขึ้นทุกๆวันมั้ย...จะดีกว่า

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

18-01-2019