24 สิงหาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 24/08/2021

 สนทนาประสาจิตจักรวาล

24/08/2021


สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อท่านได้รู้ความจริงกันแล้วว่า
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน
ไม่ว่าจะเป็นทุกข์กาย ทุกข์ใจ และทุกข์ทางโลก
ล้วนมีเหตุมาจาก "อุปสรรค-ปัญหา" ทั้งสิ้น

คนที่ฉลาดทั้งหลายจึงย่อมรู้ดีว่า
ถ้าจะดับทุกข์ได้สำเร็จก็ต้องจัดการที่ปัญหา
หากสามารถแก้ปัญหานั้นๆให้สำเร็จลุล่วงได้
ความทุกข์นั้นก็จะสิ้นไปเมื่อไม่มีอะไรให้ทุกข์อีก
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าความทุกข์เกิดจากปัญหานั่นเอง

นอกจากนั้นท่านยังได้รู้กันมาแล้วด้วยว่า
ปัญหา คือตัวยาของพระบิดา
ที่ใช้รักษาการป่วยทางจิตปัญญาของมนุษย์
โดยเฉพาะคนที่ โง่ กับคนที่ งก ให้หายได้

คนโง่คือคนที่ใช้ปัญญารักคนไม่น่ารักไม่ได้
คนโง่คือคนที่ใช้ปัญญาให้อภัย
แก่คนที่ทำตนไม่น่าให้อภัยไม่เป็น

คนงกคือคนที่รักแต่ตนเองและพวกตัว
คนงกคือคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นใหญ่
คนงกคือคนที่ไม่รู้จักการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
คนงกคือคนที่ไม่รู้จักการให้ไม่รู้จักการเสียสละ

โดยทั้งความโง่และความงกนี้
ต้องใช้จำนวนปีในการรักษาค่อนข้างยาวนาน
มิใช่นานแค่ไม่กี่ปีแต่ยาวนานเป็นภพชาติเลยด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

พระบิดาทรงวางแผนไว้ให้ท่านใช้ปัญหา
เป็นตัวกระตุ้นหรือปลุกเร้าจิตหยาบของท่าน
ให้สั่นสะเทือน "ขันธ์ 5" ในสองมิติ
เพื่อยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้นจากความงก
สู่ความมีสำนึกแห่งการเป็นผู้ให้
เพื่อยกระดับความโง่ที่มีสมองแต่ยังใช้ไม่เป็น
สู่ความฉลาดในการใช้ปัญญาแทนอารมณ์
ในอันที่จะรักใครก็ได้และรักอย่างไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งเป็นบทบาทของ คนสองมิติ ที่แท้จริง

ดังนั้น
การเจอปัญหาแต่เข้าถึงปัญญากับความรักไม่ได้
เพราะมัวไปหลง "ทุกข์" จนหลงทางหลงธรรม
เป็นเวลายาวนานหลายภพชาติหลายพันปีมาแล้ว
เพราะเชื่อตามคนนำทางตาบอดจากรุ่นสู่รุ่น
ซึ่งเป็นการ "หลับตา" ก้าวตามจนแลไม่เห็นทาง
เพราะเดินอยู่ในท่ามกลางความมืดโดยแท้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า

ทุกปัญหาในชีวิตและงานของท่านทั้งหลาย
ตั้งแต่ปัญหาภายในครอบครัว ที่ทำงานและสังคม
ล้วนถูกออกแบบไว้ด้วย ชะตาชีวิต ของท่าน
ที่ทุกคนในครอบครัวจักต้องเผชิญร่วมกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีที่พวกท่านพอใจ
หรือจะเป็นเรื่องร้ายๆที่พวกท่านไม่พอใจ
ล้วนเป็นบทละครหรือแผนการแสดงที่แยบยล
ที่จิตวิญญาณพวกท่านเองร่วมขีดเขียนบทกันมา
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ได้รับโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์

นอกจากนั้น "ความทุกข์" ของพวกท่านแต่ละคน
ก็เป็นปัญหาในชีวิตอันเกิดจากการสอบตก
บททดสอบความงกและความโง่ของพวกท่าน
ในบทละครชีวิตที่ร่วมขีดเขียนกันมาเองนั่นแหละ

จากการสอบตกบททดสอบในชะตาชีวิตนี่เอง
พวกท่านจึงสร้างบทละครกันขึ้นมาใหม่
พระบิดาทรงเรียกว่า "บทเรียนกรรม"

โดยท่านที่เคยก่อกรรมทำผิดบาปร่วมกันมา
จักต้องมีภพชาติใหม่มาแก้ไขความผิดบาปนั้น
เพื่อสอบให้ผ่านบททดสอบและเรียนรู้กันใหม่
ที่จะรักให้ได้แม้ไม่น่ารักและจะให้อภัยให้เป็น
ไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานสักกี่ภพชาติก็ตาม
แต่ต้องไม่เกิน 6 หมื่นปีก่อนสิ้นยุคพลังงานเก่า
หรือก่อนประตูคอกแกะคือด่านนภาลัยจะปิดลง

จงยอมรับแสงสว่างจากเราเถิด
จงเลิกเกลียดทุกข์กลัวทุกข์ที่เป็นมายาเสียเถิด
เพราะท่านทั้งหลายมากมายด้วยสติปัญญา
ที่สามารถหยิบปัญญามานิพพานความทุกข์ได้

จงอย่ารังเกียจที่จะเกิดเป็นมนุษย์เลย
เพราะจิตวิญญาณของท่านเองขันอาสามาเป็น
เพื่อช่วยกันใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ถ้าท่านตายกันหมดโลกด้วยหลงทางนิพพาน
แล้วโลกจะสมดุลได้อย่างไรจะมีใครค้ำจุนโลก
ทั้งยังผิดพันธะสัญญา 6 ต่อพระบิดาอีกด้วย

บัดนี้ก็ย่ำค่ำแล้ว
แกะทุกตัวต้องรีบกลับเข้าคอกให้ทัน
มิเช่นนั้นท่านจะเป็นพวก "แกะนอกคอก"
ที่จะโดนฟ้าผ่าสิ้นอนาคตไปกับการสิ้นยุค
เมื่อประตูคอกแกะประตูแห่งโอกาสถูกปิด

ดังนั้น
จงอย่าหลงทางนิพพานกันต่อไปอีกเลย
ไม่เป็นผลดีต่อจิตวิญญาณของท่านหรอก
พวกท่านหลงทางมายาวนานเกินไปแล้วล่ะ

จงจำไว้ว่า "นิพพาน" แปลว่า "กลับบ้าน"
โดยจิตวิญญาณต้องหลุดพ้นออกไปจากเอกภพ
กลับคืนสู่แดนสุญตาที่จิตวิญญาณจากมา
เพื่อไปกราบพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของท่าน
ที่ทรงรอคอยพวกท่านกันมายาวนานมากแล้ว

เอกภพหรืออนันตจักรวาลและโลกนี้
เป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระบิดา
ที่จิตวิญญาณพวกท่านขันอาสาเข้ามา
ทำหน้าที่มอบความรักความเมตตาให้โลก
เพื่อช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างสมดุล
จะได้ช่วยค้ำจุนสมดุลของเอกภพนั่นเอง

เอกภพนี้จึงมิใช่บ้านของพวกท่าน
แต่เป็นห้องเรียนเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่
ซึ่งจิตวิญญาณของท่านก็คือนักเรียนต่างหาก

จงจำไว้ว่า "นิพพาน" นั้น
มิใช่การทำให้อัตตาของตน หายสาปสูญ ไป
ด้วยการพยายามดับอัตตาในขันธ์ห้า
โดยใช้การดับทุกข์การพ้นทุกข์เป็นตัวชี้วัดว่า
ตนเปลี่ยนจากอัตตากลายเป็นอนัตตาแล้ว
ตนเข้าถึงนิพพานด้วยการหายสาปสูญแล้ว
จึงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดคือนิพพานแล้ว

เรากล่าวซ้ำย้ำเตือนไว้ตรงนี้
เผื่อว่าจะมีแกะตัวใหม่ผ่านมาได้ยินเพิ่ม
ตามหน้าที่ของ "คนเลี้ยงแกะ" ของพระบิดา
ที่จะต้องนำพาแกะทั้งฝูงกลับเข้าคอกให้หมด
แม้รู้ดีว่าแกะบางตัวจะจำเสียงคนเลี้ยงดูไม่ได้
เราก็จะตะโกนร้องเรียกอยู่เช่นนี้ต่อไป
ถ้ายังเห็นแกะหลายตัวพยายามปีนรั้วเข้าคอก

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เราจะร้องเรียกแกะเข้าคอกอยู่ต่อไป

ตราบใดที่เรายังแลเห็นแกะบางตัว

พยายามจะปืนริ้วกลับเข้าคอกกันอยู่


เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24/08/2021