08 กรกฎาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 08/07/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

08/07/2021




สนทนาประสาจิตจักรวาล


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เจ้าสาวทั้งหลายในปลายยุคพลังงานเก่านี้
ประเภทยืนรอการกลับมารับจนหลับไปก็มาก
แถมตะเกียงที่ถือติดตัวอยู่ก็ไร้น้ำมันอีกต่างหาก

ดังนั้น
เพราะคุณเธอมัวหลับไหลกันอยู่นี่แหละ
พอเจ้าบ่าวผู้ที่ตนเฝ้ารอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
หล่อนก็มิอาจจะรู้ได้ว่า "เจ้าบ่าว" มาถึงนานแล้ว

คำว่า "หลับไหล" ในที่นี้หมายถึง
การไม่ตื่นตัว ไม่ตื่นตา ไม่ตื่นใจและไม่ใส่ใจ
คอยชะแง้แลหาว่าเจ้าบ่าวจะมาทิศทางไหน
คอยเฝ้าดูตลอดเวลาว่าเจ้าบ่าวจะมาถึงเมื่อไหร่
อันเป็นพฤตินิสัยของคนที่มีใจเฝ้ารอที่แท้จริง

วันๆพวกหล่อนจึงรู้อยู่อย่างเดียวว่า
พวกตนทั้งหลายคือผู้รอคอยเจ้าบ่าวกลับมา
รอโดยไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเจ้าบ่าวของตนคือคนไหน
ไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวที่เฝ้ารอจะกลับมาในรูปแบบใด

รู้อยู่อย่างเดียวว่าพวกตนจะต้องรอ...รอ...รอ...
ตนจะรอเจ้าบ่าวโดยไม่ยอมเปลี่ยนใจ
จะให้รอนานแค่ไหนใจตนก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ซึ่งความมุ่งมั่นในการรอคอยเจ้าบ่าวเยี่ยงนี้
แม้จะเป็นพฤติกรรมที่สมควรสรรเสริญก็จริงอยู่
แต่เป็นพฤติกรรมการรอคอยที่ขาดองค์ปัญญา
เพราะพวกหล่อนจะมองเห็นเจ้าบ่าวผู้กลับมาได้
ต้องใช้ "ตาที่สาม" คือ ดวงตาแห่งปัญญา เท่านั้น
มิใช่สองตาเนื้อที่พวกหล่อนใช้มันจนคุ้นชิน

คำว่า "ดวงตาแห่งปัญญา" ในที่นี้เราหมายถึง
ตะเกียงของเจ้าสาวแต่ละคนหรือ "ก้อนสมอง"
ที่หล่อนจะต้องใช้มัน ทำความไม่รู้ให้กระจ่าง
หรือใช้มันเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่าง
เพื่อใช้แสงสว่างนั้นส่องทางเดินของชีวิตหล่อน

เราจึงเปรียบก้อนสมองพวกหล่อนเป็นดั่งตะเกียง
พวกที่ยืนหลับไหลถือตะเกียงที่ไร้น้ำมัน
เราจึงหมายถึงพวกที่ยืนรอการกลับมาอย่างงมงาย
ขณะที่ติดอาวุธทางปัญญาของสมองไม่เป็นด้วย
นั่นคือ ไม่ฉลาดใช้ปัญญา หรือ คิดไม่เป็น นั่นเอง

เจ้าสาวที่รอคอยลืมไปว่า
แม้หล่อนจะจำหน้าตารูปลักษณ์เจ้าบ่าวของตนได้
แต่ถ้าลืมไปว่ากว่าเจ้าบ่าวจะกลับมารับมันนานมาก
ตัวตนรูปลักษณ์หน้าตาเจ้าบ่าวที่จะกลับมารับนั้น
ย่อมเปลี่ยนแปลงผิดไปจากวันเก่าๆอย่างแน่นอน

ถ้าเจ้าสาวมีความฉลาดทางปัญญามีไหวพริบ
ถ้าเจ้าสาวไม่ติดยึดกับตัวตนรูปลักษณ์เจ้าบ่าว
ซึ่งเป็น "มายา" มิใช่ตัวตนที่แท้จริงแล้ว
เจ้าสาวผู้รอคอยทั้งหลายก็สามารถใช้ตาที่สาม
พินิจพิจารณามองหา แก่นแท้ แทนได้
เพียงเจ้าสาวต้องจำให้ได้ว่าตัวตนแก่นแท้
อันเป็น คุณสมบัติ ของเจ้าบ่าวนั้น คือ อะไร

ตัวอย่างเช่น
การตั้งใจฟังสำเนียงเสียงพูด
การฟังวิธีการและหลักการพูด
การฟังสาระธรรมสำคัญในการพูด
การสังเกตท่าทางการเดินเหินหรือการกระทำ
การสังเกตที่พฤตินิสัย หรืออื่นๆ เป็นต้น

ถ้ามัวแต่จำเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องนุ่งห่ม
ถ้ามัวแต่จำหน้าตา เผ้าผม หรือหนวดเครา
แล้วมองหาด้วยสองตาเนื้อ
เชื่อเถิดว่าหาอย่างไรก็ไม่มีวันพบเจอ
เพราะโลกมายานั้นอนิจจังไม่เที่ยงแท้
ในมิติจิตวิญญาณนั้นทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา

ด้วยเหตุนี้เอง
สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาแม้มีอัตตาที่เปลี่ยนไปได้
แต่ "คุณสมบัติ" ของสรรพสิ่งนั้นไม่มีวันเปลี่ยน
เพราะมันคือสัจธรรมของสรรพสิ่งนั้นนั่นเอง

หวังว่าเจ้าสาวผู้รอคอยทั้งหลาย
คงจะเกิดดวงตาแห่งปัญญาขึ้นมาได้บ้างนะว่า
ขณะนี้เธอกำลังตื่นอยู่หรือหลับอยู่
ตะเกียงคือสมองของเธอในนั้นมีน้ำมันหรือเปล่า
ถ้ามีน้ำมันแล้วเธอจุดมันเป็นแล้วหรือยัง

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
8/07/2021