สนทนาประสาจิตจักรวาล
30/04/2021
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
การที่พระบิดาทรงกล่าวถึงพี่ๆน้องๆบางคน
ผู้มองเห็น พระโอวาท ที่ทรงสื่อผ่านเรา
เป็นดั่ง ขี้หมาแห้ง ก้อนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งๆที่นานปีที่ผ่านมามองเห็นคุณค่าจนเกินร้อย
ผู้คนเหล่านี้จึงพาตัวเองออกไปจากคอก
แล้วทำตัวเป็นดั่ง แกะนอกคอก อยู่หลายตัว
แกะนอกคอกเหล่านี้
ไม่เพียงแต่จะเอาตัวออกไปจากคอก
ไม่สนเจ้าของคอกผู้เป็นเจ้าของแกะ
ไม่ใส่ใจใยดีในเสียงเรียกของคนเลี้ยงแกะ
ซึ่งทำหน้าที่อยู่ตรงประตูคอกแกะเท่านั้น
ประดา "แกะนอกคอก" เหล่านี้
ยังไปหลงเดินตามคนนำทางตาบอด
ที่ทำตัวอวดอุตริปาฏิหาริย์ทำตนเป็นเจ้าลัทธิ
เพื่อล่อลวงแกะตัวที่โง่ๆแลงมงายของพระบิดา
ให้ตะกายปีนรั้วกลับเข้าคอกของพระองค์แทน
ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นโลดโผนและหวือหวา
โดยแกะโง่พวกนี้มองพระโอวาท
ที่พระองค์ทรงสื่อผ่านเรามา
ทั้งในเฟสบุ้กและในพระคัมภีร์นิพนธ์ว่า
สื่อเนื้อหาเดิมๆมาปีกว่าแล้ว
ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่
จึงสรุปเอาเองว่าเข้ามาอ่านเข้ามาฟัง
ก็เสียเวลาเปล่าไม่มีประโยชน์อะไร
กูไป "สิบเอ็ดรอดอ" หาเจ้าลัทธิอื่นดีกว่า
นอกจากนั้นยังดันคิดแทนเราอีกว่า
ที่ทรงสื่อพระโอวาท "ซ้ำๆมา" ก็เพื่อ
รอคนใหม่ อีกต่างหาก
"นาง" เชื่อเช่นว่านั้นตามที่นางนึกเอง
ทั้งๆที่นางมิได้เกี่ยวข้องอะไรกับงานของเรา
นางมิได้เข้าใจพระประสงค์ของพระบิดาเลย
แต่กลับอวดโง่ว่าเองเออเองเช่นนั้น
จึงสบัดตนหันไปสนลัทธิอรหันต์โรคจิตบ้าง
หันไปสนแม่นางที่อ้างตนว่าสื่อกับพระพุทธเจ้าได้
บางเวลาแม่นางตนนั้นก็บอกว่าสื่อกับพระเจ้าได้แทน
อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าทิ้งพระบิดาไปหามารอุตริแทน
แล้วจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะท่านทั้งหลาย
นอกจากนั้น
เมื่อหันหลังให้พระบิดาไปหาอุตริแทนแล้ว
ยังไปเป็นกระบอกเสียงให้กับเจ้าลัทธิ
เพื่อชักจูงเพื่อนๆในห้องเรียนนี้ให้หลงไปก้าวตาม
ด้วยคำกล่าวที่นางชอบใช้ชักจูงว่า
เจ้าลัทธิที่นางชอบและช่วยเชียร์นี้
เขาเก่งนะ
เขาสื่อสอนได้เหมือนอาจารย์ปริญญาเลย
เขาสื่อกับพระเจ้าได้ด้วย
เขาเอาคำสอนอาจารย์ไปสอนได้เก่งด้วย
ซึ่งคนฉลาดใช้ปัญญาฟังคำจูงของนางแล้ว
จะรู้ได้ทันทีว่าคนที่นางไปหลงศรัทธานั้น
ล้วนก้อปปี้ไปจากจิตจักรวาลที่เป็นต้นฉบับ
โดยไม่แม้แต่จะอ้างอิงเพื่อถวายพระเกียรติด้วย
ทั้งยังหลอกลวงว่าสื่อสารกับพระเจ้าได้
ด้วยจิตกับสมองสองซีกให้คนโง่เชื่อแค่นั้นเอง
แล้วนางยังเชื่อเองตามความคิดส่วนตัวอีกว่า
ขณะนี้เรามีนักเรียนใหม่ๆสมาชิกใหม่ๆเข้ามาเยอะ
เราจึงย้อนกลับไปสื่อสอนเรื่องเก่าๆที่นางเคยรู้
เพื่อปูพื้นให้คนใหม่ๆได้เรียนรู้แล้วทิ้งนักเรียนเก่า
ให้เรียนรู้แต่เรื่องเดิมๆซ้ำซากน่าเบื่อเสียเวลาเรียน
นางจึงไม่เข้าห้องเรียนประจำเหมือนเดิม
สิ่งที่นางทำเมื่อนานครั้งที่เข้าห้องเรียนก็คือ
เอาเรื่องอุตริจากที่นางไปเจอไปชอบมาแพร่มาชม
เอามาเชียร์แถมยังเอาเจ้าลัทธิพวกนั้นมาแชร์
โดยนางไม่เคยเอาพระโอวาทพระบิดาไปแชร์
เพื่อเผยแพร่ต่อเลยท่านทั้งหลาย
พฤติกรรมเหล่านี้ของคนเหล่านี้
อยู่ในสายพระเนตรพระบิดาตลอดมา
จึงทรงใช้วิธี "บล้อค" ช่องทางการสื่อสาร
เพราะเห็นว่าพวกนางนอกคอกไปกันใหญ่แล้ว
บล้อกเพราะเป็นหนทางเดียว
เพื่อที่จะให้พวกนางติดต่อกลับมา
ด้วยคำถามที่ว่า "บล้อก" นางทำไม?
เราก็จะได้มีคำตอบคำเตือนคำสอนนางให้รู้ความ
แต่พวกนางก็ไม่ฉลาดที่จะรับพระเมตตา
แต่กลับไปโอดครวญโพนทะนากับคนไปทั่วว่า
ได้สาวกใหม่แล้วลืมคนเก่าคือตนเองที่แสนดี๊ดี
แล้วอ้างทวงสิทธิ์ความเป็นคนเก่า
เพื่อเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ครูของตนเองแทน
ให้คนเขามองครูตนเองว่าได้ใหม่ลืมเก่านั่นแหละ
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
แกะหลงฝูงพวกนี้นับวันจะมีมากมายขึ้นเรื่อยๆ
จึงไม่แปลกหรอกที่เรากล่าวไว้นานนับพันปีแล้วว่า
คนมาถึงเราก่อนจะได้กลับบ้านทีหลัง
คนมาถึงเราทีหลังจะได้กลับบ้านก่อน
เพราะแกะนอกคอกจะขาดการถ่อมตน
เป็นแกะที่ขาดการถ่อมใจ
ไม่รักพระบิดาไม่ศรัทธาเราอย่างแท้จริง
จิตยังติดกิเลสตัณหาบ้าอุตริครอบงำอยู่
ยังขาดความฉลาดทางปัญญาและหลงตนเองอยู่
มิได้จงรักภักดีต่อพระบิดาแห่งจิตวิญญาณแท้จริง
พอเจ้าลัทธิอุตริมอบหมายให้เป็นข้าทาสรับใช้
ให้คอยล่าสาวกมาให้ (ได้ตังค์ด้วย)
ก็ตกหลุมพรางเล่ห์ลิ้นลมลวงพวกนั้นแล้ว
เพราะหลงลืมตัวไปว่าตนมีเกียรติมีหน้าตา
อยู่กับจิตจักรวาลมาตั้งนานไม่เห็นจะมีค่าเท่านี้
เรากับพระบิดาถูกคนเหล่านี้กล่าวหาว่า
1.ได้คนใหม่ ลืมคนเก่า
เอาแต่สอนเรื่องเก่าๆเพื่อรอคนใหม่
ท่านทั้งหลายเห็นว่า
เราสื่อสอนพระโอวาทซ้ำซาก
ไม่มีอะไรใหม่จริงอย่างที่นางว่าหรือเปล่า?
ช่วยตอบเราหน่อยนะ
เราไม่จำเป็นต้องสอนรอคนใหม่เลย
เพราะคนใหม่เขาไม่โง่ที่จะสืบค้นคำสอน
ย้อนหลังไปนานๆเพื่อการเรียนรู้ได้เอง
ซึ่งมีอยู่หลายช่องทาง
นอกจากนางคนนี้เองที่อาจจะโง่แลหลงตัวเอง
ว่าเรียนแล้วรู้แล้วแบบฉาบฉวยว่ากูรู้แล้วเท่านั้น
2.หาว่าพระบิดาสื่อแต่เรื่องเดิมซ้ำๆมาเป็นปีแล้ว
ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่ให้เรียนรู้อีกเลย
เราถามท่านทั้งหลายในห้องเรียนนี้ว่า
พระบิดากับเราผิดจริงหรือว่านางคนนี้เพี้ยน?
วัตถุประสงค์ของเรากับพระบิดา
คือสอนให้ลูกฉลาดคิด ฉลาดทำ
มิใช่รู้แล้วฉลาดจำแต่ทำไม่ได้เพราะโง่งม
พระบิดาทรงจัดหลักสูตรบทเรียนมาให้ลูก
มิได้จัดบทเรียนมาตามกิเลสตัณหาของลูกนะ
ถามว่าถ้าแน่จริง
รู้มากแล้วมีเจ้าลัทธิใหม่คุ้มหัวแล้ว
ให้พระบิดาทรงพิพากษาโลกคาบสุดท้าย
วันนี้เดี๋ยวนี้เลยนั้นนางคิดว่าตนเอง "จะรอด" มั้ย
3.ถูกพวกนางมองว่าอนุตรธรรมคำสอน
ที่ทรงเมตตาหลั่งไหลมาให้ดั่งสายธารทุกวันคืน
ที่ทุกท่านส่วนใหญ่พากันตื่นตาตื่นใจ
อดหลับอดนอนเฝ้ารอติดตามฟังกันทุกค่ำคืน
เพราะช่วยพวกท่านให้รู้มากขึ้น ฉลาดขึ้น ดีขึ้น
แต่นางกลับเห็นเป็นของไร้ค่า "ดั่งขี้หมาแห้ง"
จึงมองข้ามไปแล้วเดินจากไปหาขี้หมาสดแทน
ท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นอย่างไร
ลองแสดงความคิดเห็นมา
เพื่อช่วยรั้งสติเพื่อนเอาบุญทีนะ
เราเอามากล่าววันนี้
มิได้กล่าวด้วยความขุ่นเคืองใจอะไร
เป็นสิทธิของคนพวกนี้จะอยู่จะไปมิใช่เรื่องเรา
เรามีหน้าที่สื่อพระโอวาทเพื่อตามให้กลับบ้าน
ด้วยความรักและปรารถนาดีไม่มีกิเลสแฝง
แต่เรายกมากล่าวเพื่อเป็นตัวอย่างว่า
เห็นพระโอวาทเป็นดั่งก้อนขี้หมาแห้งนั้น
มันหมายความว่าอย่างไร
คนพวกนี้คิดอย่างไร มีพฤติกรรมอย่างไร
ทำไมคนจำนวนมากมาแล้วหายไป เป็นต้น
ขออโหสิกรรมด้วย
หากคำสอนด้วยรักของเราวันนี้
ทำให้พี่ๆน้องๆที่เป็นแกะหลงฝูงต้องเสียสมดุล
เราไม่ผิดบาปหรอกเพราะพระบิดาทรงอนุญาต
ให้เราช่วยกระชากสติให้เผื่อมีหวังบ้างเท่านั้นเอง
กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
30/04/2021