03 กุมภาพันธ์ 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 3/02/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

คำกล่าวร้ายในพื้นที่สีม่วง

ที่เราหยิบยกเอามาเผยแพร่ข้างล่างนั้น

ก็เพื่อชี้ให้ท่านทั้งหลาย

ได้เห็นกันอย่างชัดเจนว่า

พวกคนตาบอดที่หลงก้าวตาม

คนนำทางตาบอดที่เราเคยกล่าวถึง

คือ คนที่มีคุณลักษณะแบบนี้นั่นเอง

 

คำที่เขากล่าวร้ายต่อเราก็คือ

"จิตจักรวาล" พยายามทำให้

พระพุทธศาสนาผิดไป

จากคำสอนของพระพุทธเจ้า

โดยพวกนี้มีแต่คำกล่าวหาดั่งเห่าหอน

แต่ไม่มีสติปัญญาที่จะระบุให้ชัดว่า

เราบิดเบือนคำสอน

ของพระพุทธองค์ที่ตรงไหน

 

เราขอถามตรงๆว่า

ก่อนจะกล่าวหาว่าร้ายเรา

ให้ตนเองต้องตกนรกเพราะจิตบาปน่ะ

ได้ศึกษาเรียนรู้มรรควิถีจิตจักรวาล

อย่างลึกซึ้งแยบยลแบบคนมีสติปัญญา

แล้วพบว่าเราเป็นเช่นที่กล่าวหานั้นจริงๆ

จึงได้ออกมากล่าวหาว่าร้าย

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ไอ้พวกที่เห่าหอนเมื่อเห็นใบตองแห้งน่ะ

มันเป็นพวกที่ไร้สติปัญญา

มิใช่มนุษย์ผู้ประเสริฐหรอกท่าน

 

ก่อนจะพิพากษาใครน่ะ

รู้จักเขาดีพอหรือยัง

มีข้อมูลที่กล่าวหาครบถ้วนหรือเปล่า

มีความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนแล้วรึยัง

จงอย่าใช้จิตป่วยกับปากเสียปัญญาบอด

ก้าวล่วงผู้มีบารมีธรรมสูงส่งกว่าตนเลย

คนที่มีศีลธรรมแท้จริงเขาจะไม่ก้าวร้าว

ทำวาจาสาวหาวต่อผู้อื่นหรอก

 

เพราะท่านมีแต่คำพิพากษาว่าร้ายเรา

แต่ไม่สามารถหยิบเอาประเด็นที่กล่าวหา

มาสนับสนุนคำกล่าวหาเราเลย

ท่านคิดว่าผู้ที่ติดตามเราในห้องเรียนนี้

ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลามนับหมื่นคน

พวกเขาฉลาดน้อยกว่าท่านเช่นนั้นหรือ

ที่ยอมรับและติดตามเรียนรู้พระโอวาท

ที่เราสื่อถ่ายทอดลงมาจากพระผู้เป็นเจ้า

ผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านนั่นแหละ

 

โดยพวกเขามุ่งเรียนรู้กันอยู่อย่างสงบ

ไม่ก้าวร้าวสามหาวเหมือนท่านเลย

แม้อาจจะมีบางประเด็นสาระธรรมของเรา

 

พี่ๆน้องๆในห้องนี้บางท่านอาจไม่เห็นด้วย

แต่พวกเขาก็มีคุณธรรมมากพอ

และมีความฉลาดเรียนรู้ที่ท่านน่าเอาอย่าง

คือ เมื่อพวกเขาไม่รู้ ไม่เข้าใจ เขาก็ถาม

โดยไม่ตัดสินใจไปตามความโง่ที่ตนมีอยู่

ให้จิตวิญญาณต้องตกนรกเพราะก้าวล่วง

 

เราจึงจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

 

1. ท่านจะกล่าวหาว่าเรา

บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้ามิได้

เพราะท่านมิได้ยกประเด็นธรรม

มาแสดงให้เราเห็นว่าประเด็นไหนกัน

ที่ท่านอ้างว่าเราบิดเบือน

 

เราจะถือว่าท่านใส่ความเราทาง Line

ใส่ร้ายเราทาง Facebook

มันผิดกฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ชัดๆ

 

2. ท่านจะกล่าวหาว่าเรา

บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้

เพราะเราประกาศตนมาสามสิบกว่าปีแล้วว่า

เรามิได้กล่าวธรรมะในนามศาสนาใด

เราไม่เคยแอบอ้างตนเป็นพุทธธรรมาจารย์

เราไม่เคยอ้างตนเป็นพุทธะเหมือนบางคน

แต่ทำตนไร้ปัญญาใช้ความรู้สึกนำหน้า

เที่ยวตัดสินคนตัดสินความจนกรรมท่วมหัว

 

นอกจากนั้นเรายังย้ำเสมอว่า

ธรรมะที่เรานำมาสื่อสอนพี่ๆน้องๆนั้น

เราสื่อถ่ายทอดลงมาจากองค์จิตจักรวาล

ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)

 

เป็นสัจธรรมชั้นสูงสุด คือ #อนุตรธรรม

ที่พระศาสดาของโลกทั้งหลายมิได้สอนไว้

คงมีแต่พระบุตรเอกที่พระผู้เป็นเจ้า

ส่งมากล่าวพระโอวาทแทนพระองค์เท่านั้น

ที่จะสามารถถ่ายทอดอนุตรธรรมให้รู้ได้

 

ดังนั้น

เมื่อเป็นพระโอวาทสัจธรรมที่เรานำสื่อมา

สาระธรรมจึงไม่มีวันผิดพลาดแน่นอน

หากสัจธรรมตอนใดที่เรากล่าวไว้

ไม่สอดคล้องตรงกันกับที่ท่านเชื่ออยู่

แล้วใยไม่ใช้สมองตรึกตรองพิจารณา

เพื่อค้นหาคำตอบที่แท้จริงในความต่าง

ก่อนก้าวล่วงองค์จิตจักรวาล

ด้วยการพิพากษาเราล่ะ

 

นี่ท่านพบความรู้ของเรา

ซึ่งเป็นความรู้ที่แตกต่างจากที่ท่านเชื่ออยู่

ท่านก็กล่าวหาว่าเราบิดเบือนเสียแล้ว

มันไม่มักง่ายเกินไปหน่อยหรือท่าน

ท่านเองน่าจะมีสติปัญญาอยู่บ้าง

ควรเรียนรู้ที่จะฝึกใช้มันแทนความรู้สึก

ในการศึกษาสัจธรรมให้โปร่งแจ้งบ้างนะ

 

เมื่อความจริงเป็นเช่นว่านี้แล้ว

ท่านจะกล่าวหาว่าเราบิดเบือน

คำสอนของพระพุทธองค์ได้อย่างไร

ท่านใช้สมองส่วนไหนคิดพิพากษาเรา

 

อีกทั้งเราเองก็มิได้ทำตนอวดอุตริ

โดยแฝงตัวอยู่ในพุทธธรรมศาลา

อ้างว่าตนเป็นศิษย์สาวกพระพุทธองค์

แล้วทำตนเป็นธรรมาจารย์ตาบอด

เที่ยวสอนธรรมนำพาผู้คน

ให้หลุดลอยไปค้างเติ่งอยู่บนสวรรค์มายา

จนพาหลงทางนิพพานแทนการหลุดพ้น

ทั้งๆที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพานให้เห็น

ในภพภูมิที่พระองค์ทรงเป็นมนุษย์แท้ๆ

 

เราจึงสงสัยว่า

พวกที่บิดเบือนคำสอนพระพุทธองค์นั้น

แท้จริงแล้วน่าจะเป็นพวกคนนำทางตาบอด

ซึ่งมีท่านผู้กล่าวจาบจ้วงพระบิดา

และกล่าวหาว่าร้ายเราอีกคนหนึ่งนี่แหละ

 

3. ท่านจะกล่าวหาว่าเรา

บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า

โดยกล่าวเองเออเองไม่ได้นะ

 

เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวในยุคนี้

ที่ใช้กระบวนการสื่อสารทางจิต

กับองค์จิตจักรวาล

พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวง

ผู้ทรงเป็นพระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ

เพื่อน้อมนำพระโอวาทมากล่าวต่อมนุษย์

ผู้ปรารถนาการหลุดพ้นก่อนกาลสิ้นยุค

 

ทุกสัจธรรมคำกล่าว

ล้วนกล่าวตามพระองค์ทั้งสิ้น

เราได้ยินอย่างไรก็กล่าวไปอย่างนั้น

จะคิดเองเออเองด้วยจิตมนุษย์มิได้

จะลบหลู่พระอำนาจแห่งพระองค์มิได้

จะหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ให้หลงทางมิได้

 

พระองค์ทรงมีหวายไว้หวดลูกที่เหลวไหล

ทรงมีนรกขุมที่ 13 เอาไว้ชำระบาป

พวกธรรมาจารย์ตาบอดของคนตาบอด

ที่ก้าวล่วงพระองค์แลจาบจ้วงภารกิจแห่งเรา

รวมทั้งตัวเราหากทำตนไม่สมพระเกียรติด้วย

เรามีสัจจะและมีสติทางวิญญาณตลอดเวลา

ที่จะไม่ทำสิ่งใดระคายเคืองพระองค์แน่นอน

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงอีกครั้งหนึ่งว่า

 

เรากลับมาชาตินี้เพื่อช่วยเหลือพวกท่าน

เรากลับมาทำตามสัญญา

เพื่อนำพาจิตวิญญาณท่านหลุดพ้น

หลุดออกไปจากอนันตจักรวาลหรือเอกภพนี้

ด้วยวิธี "เหวี่ยงหมุนธรรมจักร"

ด้วยพลังแห่งความรักบริสุทธิ์

แทนการหมุนกรรมจักรด้วยกิเลสตัณหา

 

ท่านจงอย่ายึดติดพระศาสดาและคัมภีร์

เหมือนกักขังตนเองอยู่ในกะลา

จนไม่รู้ว่านอกกะลามันยังมีอะไรอยู่

ที่ตนเองยังไม่รู้ว่าตนน่ะไม่รู้อยู่อีกมาก

เพราะมีความรู้เท่าเดิมปฏิบัติธรรมแบบเดิม

จึงยังดับการมีสังสารวัฏของตนไม่ได้

ใยไม่ลอง "ฉุกคิด" กันเสียบ้าง

 

เราใช้พื้นที่ตรงนี้

แสดงสัจธรรมและภูมิปัญญา

ต่อท่านที่กล่าวหาเราอันเป็นเท็จ

ด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง

เพื่อหวังการมีสำนึกที่ถูกต้องของท่านผู้นี้

เท่าที่ภูมิปัญญากับบารมีที่ท่านมี

 

เรายืนยันว่า

เรากราบพระพุทธองค์ด้วยจิต

เรากราบองค์พระคริสต์

และศาสดาพระองค์อื่นๆด้วยใจ

 

ไม่เชื่อเรา ไม่ชอบเรา ไม่เห็นด้วย

ก็กรุณาอย่าก้าวล่วงเราให้เป็นบาปเลย

จงข้ามผ่านห้องเรียนนี้ไปเสียเถิด

ไม่มีใครบังคับข่มขืนใจท่าน

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

3-02-2019